ASTVผู้จัดการรายวัน-เกิดอาฟเตอร์ช็อกเขย่าเกาะภูเก็ตอีก 3 ครั้ง ทำชาวบ้านเครียด ต้องส่งทีมจิตแพทย์ลงพื้นที่ให้คำปรึกษา เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก หลังพบใบปลิวว่อนซ้ำทั่วเมือง เตือนให้คนออกจากเกาะก่อน 28 เม.ย. เหตุภูเก็ตจะจม อ้างเป็นการเตือนจาก "ย่ามุก-ย่าจัน" ด้าน"แม่ปอย-ตรีชฎา"ที่ถูกอ้างชื่อ แถลงโต้ทันควัน ไม่เป็นความจริง กรมทรัพยากรธรณีเตือนจะเจออาฟเตอร์ช็อกอีก 1 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ภูเก็ต ว่า วานนี้ (18 เม.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 17 เม.ย.ต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 18 เม.ย.ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นอีก 3 ครั้ง มีจุดศูนย์กลางที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต คือ เวลา 21.56 น.ของวันที่ 17 เม.ย.ขนาด 2.0 ริกเตอร์, เวลา 00.49 น.ของวันที่ 18 เม.ย.ขนาด 2.6 ริกเตอร์ และเวลา 04.15 น.ของวันที่ 18 เม.ย.ขนาด 3.2 ริกเตอร์
จากนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว โดยเฉพาะการซ่อมแซมบ้านเรือนที่แตกร้าว พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจในการเข้าไปช่วยเหลือ หากเกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
"ได้ร่วมกับทางเทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบในพื้นที่ พร้อมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งจะต้องมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชน ในการเตรียมรับมือบริหารจัดการที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ การกำหนดจุดอพยพ และการเข้าไปให้ช่วยเหลือต่างๆ"นายจำเริญกล่าว
**ส่งทีมจิตแพทย์เร่งลงพื้นที่ให้คำปรึกษา
รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 2 ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุแผ่นดินไหวเกิดความเครียดและตื่นตระหนก บางคนไม่กล้านอนที่บ้าน เนื่องจากยังมีเหตุแผ่นดินไหวรู้สึกได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวานนี้ (18 เม.ย.) ทีมจิตแพทย์ ประกอบด้วย นพ.วีระ ชูรุจิพร ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 11 สุราษฎร์ธานี นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้อำนวยโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี พญ.ภัทรี ปิ่นแก้ว จิตแพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลถลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ศรีสุนทร เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยได้เข้าไปสอบถามอาการของชาวบ้านในหลายหลังคาเรือน โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีโรคประจำตัว
**"ใบปลิว“ว่อนเตือนเกาะภูเก็ตจม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เริ่มมีการแจกใบปลิว ซึ่งเป็นข้อความที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กไปตามร้านค้า ร้านกาแฟ และใบปลิวที่อ้างว่าเป็นการเตือนภัยจากพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ ซึ่งใบปลิวทั้ง 2 ฉบับ มีข้อความ คล้ายกันโดยสรุปได้ว่า เตือนให้คนออกจากเกาะภูเก็ตในวันที่ 28 เม.ย.นี้ เนื่องจากเกาะภูเก็ตจะจมลงในทะเล เพราะภัยจากธรรมชาติ ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าตามร้านกาแฟมีใบปลิวดังกล่าวอยู่จริง โดยที่สภากาแฟบังหมาด หมู่ที่ 8 ต.ศรีสุนทร พบว่ามีชาวบ้านมานั่งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ถึงข้อความในใบปลิวทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งข้อความดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยมีทั้งคนที่เชื่อ และไม่เชื่อ ข้อความดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการแจกใบปลิวดังกล่าวไปตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งตนก็ได้ลงไปพบกับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว พบว่าบางส่วนเริ่มมีความตื่นตระหนกกับข้อความในใบปลิวดังกล่าว เพราะในใบปลิวระบุถึง “ย่ามุก-ย่าจัน” หรือท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนภูเก็ต ประกอบกับมีเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวบ้านบางส่วนก็ไม่เชื่อ ซึ่งตนก็ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านไปแล้วขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น
**รองผู้ว่าฯเตือนอย่าตื่นตระหนก
นายจำเริญ ทิพพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในการติดตามข่าวสารทั้งในโลกอินเทอร์เน็ต และใบปลิวต่างๆ นั้น ขอให้ชาวบ้านตรวจสอบต้นต่อของข้อความต่างๆ ก่อนอย่าไปหลงเชื่อ และที่สำคัญให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการดีที่สุด ทั้งจากอำเภอ ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางราชการพร้อมที่จะอยู่คู่กับชาวบ้านตลอดไปม่ ไม่มีการทอดทิ้งอย่างแน่นอน
สำหรับใบปลิวที่ออกมาแจกจ่ายในขณะนี้ สืบเนื่องมาจากได้มีคนโพสต์ข้อความอ้าง “ย่ามุก-ย่าจัน” เข้าทรงคุณแม่ของ “ปอย ตรีชฎา” ดาราชื่อดัง เตือนให้คนอพยพออกจากจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 28 เม.ย. เนื่องจากเกาะภูเก็ตจะจมหายจากเหตุภัยธรรมชาติ โดยข้อความดังกล่าวเริ่มโพสต์ขึ้นในเฟซบุ๊ก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่าน และมีการส่งข้อความต่อๆ กันไป จนถึงขณะนี้ ได้มีคนบางคนนำข้อความดังกล่าวมาถ่ายเอกสารและแจกจ่ายไปตามที่ต่างๆ แล้ว ซึ่งนอกจากจะมีใบปลิวดังกล่าว ยังมีใบปลิว ที่อ้างว่าเป็นการเตือนภัยจากพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ ออกมาแจกจ่ายด้วย ข้อความมีลักษณะคล้ายกัน คือ เตือนให้คนออกจากภูเก็ตในวันที่ 28 เม.ย.นี้ เนื่องจากเกาะภูเก็ตจะจมทะเล
**“แม่ปอย”โต้เตือนภูเก็ตจมไร้สาระ
ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่ห้องประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต นางสุวภัทร เพชรรัตน์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/676 ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตัวแทนบริษัทประกันชีวิต ไอเอ็นจี จำกัด พร้อมด้วย นายเอกฉัตร พรหมส่ง อายุ 46 ปี ตัวแทนบริษัทประกันมิตซุย ซูมิโตโม่ จำกัด คุณพ่อ-คุณแม่ของน้องปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ ดารานักแสดง เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า เกาะภูเก็ตจะจมหายจากภัยธรรมชาติ และเตือนให้คนภูเก็ตรีบออกจากเกาะภูเก็ต ภายในวันที่ 28 เม.ย.
นางสุวภัทรกล่าวว่า ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง ตนกับเพื่อนๆ ยังงงอยู่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร คนที่โพสต์มีสติดีหรือไม่ และใช้ปัญญาในการโพสต์มากน้อยแค่ไหน อย่าโพสต์เล่น โพสต์เพื่อความสนุก ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ได้คิดอะไร แต่สิ่งที่โพสต์ไปนั้นทำให้คนภูเก็ตเกิดความแตกตื่น คนเฒ่าคนแก่มาสอบถามข้อมูลถึงบ้าน และที่สำคัญวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ไปโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต อยู่บ้านในตอนเช้า หลังจากนั้นช่วงเที่ยงก็ได้คุยงานกับเพื่อน และไปรับประทานส้มตำที่ร้านโกแบงก์ตรงข้ามกับการประปาเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งขณะที่นั่งรับประทานส้มตำอยู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และมาทราบที่หลังว่าเกิดแผ่นดินไหวในภูเก็ตจริงๆ
"เพิ่งมาทราบว่ามีการโพสต์ข้อความดังกล่าว เมื่อคนข้างบ้านโทรมาบอก และลูกสาว คือ น้องปอยได้โพสต์ในเฟซบุ๊กว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และจากการให้น้องชายตรวจสอบคนโพสต์ทำให้ทราบว่าเป็นเด็กอายุประมาณ 18-19 ปี ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภูเก็ต ซึ่งน้องเขายังเด็กไม่ทราบว่าสิ่งที่ทำไปนั้นสร้างความตื่นตกใจและสร้างความเสียหายให้กับเกาะภูเก็ตมากมายขนาดไหน ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเพื่อนๆ ของลูกหรือเปล่า แต่จากการสอบถามไปยังลูกๆ ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จัก และที่เค้าอ้างชื่อว่าเป็นแม่ของน้องปอยอาจจะต้องการให้คนสนใจมากกว่า"
***เตือนรับมืออาฟเตอร์ช็อกอีก1สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย เหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อเวลา 04.15 น. ช่วงเช้าวันนี้ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ริกเตอร์ ที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เคยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 4.3 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเหตุกาณ์ครั้งนี้ประชาชนใน จ.ภูเก็ต สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้
นอกจากนี้ จากการตรวจวัดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ถึงวันที่ 18 เม.ย.เวลา 08.00 น. ปรากฎว่า เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 3.1-4.0 ริกเตอร์ จำนวน 7 ครั้ง แต่มีขนาด 4.1-5.0 ริกเตอร์ถึง 14 ครั้งและขนาด 5.1-6.0 ริกเตอร์ จำนวน 4 ครั้ง โดยแผ่นดินไหวล่าสุด มีขนาด 5.0 ริกเตอร์ ในทะเล ที่ระดับความลึก 12 กม.จากผิวโลก เมื่อวันที่ 18 เม.ย. เวลา 02.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า จากที่มีการตรวจพบแผ่นดินไหวขนาด 3.2 ริกเตอร์ ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นอาฟเตอร์ช็อกของแผ่นดินไหวขนาด 4.3 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา และจะมีอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ควรศึกษาแนวทางการปฏิบัติตัวรับมือ หากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กถึงขนาดปานกลาง คือ ไม่เกิน 6 ริกเตอร์ ซึ่งจะมีผลกระทบกับบ้านเรือนที่มีลักษณะชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น แต่ยังไม่กระทบกับอาคารสูง
ทั้งนี้ แนวทางการปฏิบัติตัว คือ หากอยู่ในบ้านชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น ให้ออกจากบ้านโดยทันที ไปอยู่ในที่โล่งแจ้ง หากอยู่บนตึกสูง ให้หาที่กำบัง เพื่อป้องกันของตกใส่ และใช้เส้นทางหนีไฟ หรือบันไดเท่านั้น และห้ามใช้ลิฟต์อย่างเด็ดขาด
**ประกาศภูเก็ตเป็นเขตภัยพิบัติแผ่นดินไหว
นายงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุแผ่นดินไหวที่จ.ภูเก็ตว่า ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศให้ จ.ภูเก็ต ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว เพื่อจะได้นำงบประมาณช่วยประชาชนได้ โดยหลังจากนี้ รัฐบาลจะดูแลอย่างครอบคลุม ทั้งมาตรการป้องกันเหตุ และการเยียวยาหลังเกิดเหตุ โดยทั้งหมดนี้จะทำอย่างรีบเร่ง อย่างไรก็ตาม ยังพูดอะไรแน่ชัดไม่ได้ เนื่องจากเหตุการณ์เหล่านี้เป็นภัยธรรมชาติ แต่ต้องมีแผนชัดเจน ในการกระจายข่าว การอพยพ การระบุว่าประชาชนจะทำตัวยังไง และเมื่อประมวลทั้งหมดแล้วจะเยียวยาแก้ไขอย่างไร ซึ่งแผนทั้งหมดจะต้องทำควบคู่กันไป ทั้งแผนของแผ่นดินไหว และแผนของสถานการณ์อุทกภัย