ASTVผู้จัดการรายวัน-“ป๋าเปรม” ปรองดอง “เพรียวพันธุ์” ชมตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ทำเจ้าตัวออกอาการเขิน แทบคลานเข่ารดน้ำ “สุกำพล” มั่นใจเพื่อนแม้วได้กลับแน่ ด้าน“ทักษิณ”จ้อสื่อนอก ไม่เป็นนายกฯ ไม่เอาของที่ถูกยึดคืน เด็กเพื่อไทยโว ร่างปรองดองเสร็จแล้ว คาดเสร็จอย่างช้าก่อนสงกรานต์ปี 56 ส่วน “นิด้าโพล” บอกผลงานนายกฯ "ปู" ต่ำลง ได้ 6 เต็ม10
วานนี้ (18 เม.ย.) เวลา 09.00 น. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นำพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพล ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. และนายทหารระดับสูงจาก 3 เหล่าทัพ เข้ารับพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์อย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.เปรม กล่าวให้พรว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรีสุกำพล นำน้องๆ มาอวยพร วันสงกรานต์ถือเป็นวันสำคัญของชาติบ้านเมือง และถือเป็นวัฒนธรรมไทย เป็นการแสดงความปรารถนาดีแบบไทยๆ ระลึกถึงกันในความเป็นเพื่อน ความเป็นมิตร และความเป็นญาติ นั่นคือความปรารถนาดีที่รักษามาโดยตลอด รัฐมนตรีสุกำพล คือ ทหารชั้นผู้ใหญ่ ทราบดีว่าเรารักใคร่กันอย่างไร และเราจะรักใคร่กันอย่างนี้และตลอดไป การรักษาประเพณีสงกรานต์เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบรรดาลให้พวกเรา และกำลังพลทั้ง 3 เหล่าทัพ มีความสุข ความเจริญ แข็งแรงมีน้ำใจจงรักภักดีเข้มแข็งเพื่อรักษาชาติบ้านเมือง ละขอให้พระสยามเทวาธิราช และคุณงามความดีทั้งหลายปกป้องให้ปลอดภัยจากภยันตราย
พร้อมกันนี้ พล.อ.เปรมกล่าวด้วยว่า ดีใจมากที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ นำน้องๆ มาอวยพรในวันสำคัญ เพราะวันสงกรานต์ถือเป็นวัฒนธรรมของไทย จะต้องรักษาวัฒนธรรม รักษาชาติบ้านเมือง ฉะนั้นแสดงให้เห็นว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และตำรวจในประเทศมีความระลึกถึงชาติบ้านเมือง พยายามรักษาสิ่งที่ดีงาม ขอขอบคุณตำรวจที่เหน็ดเหนื่อยมากในการทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน สมกับคำที่ว่า “ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน” ขอชมเชย พล.ต.อ.เพียวพันธ์ และตำรวจทุกคน และขออวยพร พล.ต.อ.เพียวพันธ์ และตำรวจทุกคนโชคดี มีความสุข และสำเร็จในการทำงาน และขอให้พระสยามเทวาธิราช และความดีทั้งปวงปกป้องภยันตรายต่างๆ ตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าอวยพรของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีท่าทีตื่นเต้น และระหว่างที่พล.อ.เปรม ให้พร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ รับฟังอย่างตั้งใจพร้อมพยักหน้าน้อมรับโอวาท โดยมีอาการเคอะเขินเล็กน้อย และหลังจาก พล.อ.เปรม ให้โอวาท พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ยกมือไหว้พร้อมกับทำความเคารพพล.อ.เปรมอย่างนอบน้อม
**“สุกำพล”มั่นใจเพื่อนแม้วได้กลับแน่
พล.อ.สุกำพล กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับประเทศไทยภายในปีนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงอยากกลับแน่ๆ เพราะเป็นคนไทย แต่จะกลับได้เมื่อไร เป็นเรื่องที่เราทราบกันอยู่ว่า มีกฎกติกาอะไรหลายอย่าง และเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป สุดท้ายถามว่าจะกลับได้หรือไม่ ตนเชื่อว่าน่าจะกลับได้ แต่เมื่อไรไม่ทราบ แต่คิดว่าท่านจะกลับได้เมื่อทุกอย่างเคลียร์ และให้สัมภาษณ์แล้วว่า หากจะกลับมาแล้วเข้ากระบวนการยุติธรรม ท่านยินดี แต่จะต้องยุติธรรมจริงๆ เช่น กระบวนการการตั้งคน สมมุติตนไม่ถูกกับสื่อแล้วตั้งพี่ชายของสื่อมาสอบสวนตน ถามว่าจะถูกต้องหรือไม่ จะต้องเริ่มจากตรงนี้ ถ้าดูว่าถูกต้องตรงไปตรงมา ท่านคงเข้ามา
“เรื่องนิดเดียว ผมไม่อยากพูด เพราะมันผ่านมาแล้ว อย่างคดีที่ผ่านมา คือ เป็นการเซ็นชื่อร่วมเพื่อค้ำประกันภรรยาท่านเท่านั้น อย่างนี้มันตลก แต่ต้องค่อยๆ ว่ากันไป ถ้าท่านคิดว่า เมื่อตาชั่งมันตรงดีแล้ว ท่านคงจะกลับมา เพราะท่านคือลูกผู้ชายคนหนึ่ง จากที่ผมคบกันรู้ว่าเป็นลูกผู้ชายพอสมควร ผมเป็นเพื่อนกับท่าน เห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่ได้กลับมาประเทศไทย ท่านเคยทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติเยอะ อย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาพูด เอาประเด็นแค่คนๆ เดียว อย่าไปกลัวมากเลย เอากลับมาสิ เอาเข้ามาในบ้าน จะได้คุยกันใกล้ๆ แล้วจะรู้เรื่อง คุยเห็นตัวกันดีกว่า เก่งแต่ไกลๆ กันนั่นแหละ น่าจะเอาคนอย่างนี้มาทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ เพราะท่านมีผลงาน”พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
**แม้วไม่เป็นนายก-ไม่เอาของถูกยึดคืน
สื่อรัสเซีย RIA Novosti รายงาน บทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางมาทำบุญ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศลาว และกัมพูชา โดยอดีตผู้นำไทย ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตที่จะกลับไปยังแผ่นดินเกิด จากขณะนี้ที่ยังมีคดีติดตัว ทำให้ตนต้องลี้ภัยไปยังประเทศต่างๆ ว่า เราจะเห็นได้ว่าเรื่องราวต่างๆ มันกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อประเทศไทยมีความสามัคคีกันแล้ว ไม่ต้องการที่จะกลับไปในขณะที่การเมืองยังคุกรุ่น มีความขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งเรื่องการกลับบ้านนั้น มันอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่กระนั้น ผมก็จะไม่เรียกร้องขอเป็นผู้นำประเทศอีกแน่ ขอย้ำเลยว่า ผมจะไม่ขอเป็น นายกรัฐมนตรีอีกเด็ดขาด ส่วนของถูกยึดไว้นั้น ผมคงไม่เรียกร้องกลับคืน
เมื่อถามต่อว่า โปรแกรมต่างๆ ที่เคยทำ แต่ยังไม่สำเร็จจะทำต่อหรือไม่ หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ได้เป็นผู้นำประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ยังต้องการทำหลายอย่าง แต่รัฐบาลชุดนี้ สามารถสานต่องานต่างๆ ที่เคยวางไว้ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องพึ่งผม และหนึ่งในหลายแนวทางมีโครงการความร่วมมือกับทางรัสเซีย รวมถึงมีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางในเรื่องของพลังงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
**เพื่อไทยยันเดินหน้าออกกฎหมาย
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในเรื่องปรองดองว่า ในการออกเป็นพระราชบัญญัตินั้น หากจะเริ่มต้นเดินหน้า ก็ต้องมีจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่จะเดินหน้าเร็วมากไปก็ไม่ได้ น้อยไปก็ไม่ดี เปรียบเสมือนกับเวลาคลอดบุตร จะคลอดวันไหน ก็บอกไม่ถูก แต่พอใกล้ๆ หมอก็จะบอกเองว่าคลอดแล้ว ให้บอกล่วงหน้านานๆ คงไม่สามารถทำนายได้ถูกต้อง จังหวะเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ. แต่ส่วนใหญ่เห็นด้วย หรือลองทำประชามติดูก็ได้ว่าส่วนใหญ่ ประชาชนเขาเห็นด้วย เนื่องจากจะทำให้บ้านเมืองสงบ ประเทศเดินหน้าไปได้ ส่วนฝ่ายไหนจะรับเป็นเจ้าภาพในการทำพ.ร.บ.ปรองดองนั้น คงไม่ได้เริ่มจากรัฐบาล แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของกฎหมายสามารถมีได้หลายทาง เริ่มจากสมาชิกสภาก็ได้ เริ่มจากประชาชนก็ได้ อะไรดีที่สุดก็เอาแนวทางนั้น
**"ประชา"ปูดร่างปรองดองเสร็จแล้ว
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้วางโครงร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทีมกฎหมายตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย และหลักการคร่าวๆ คือ ให้เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองก่อนการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 เข้าสู่กระบวนการปรองดองทั้งหมด โดยให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน และไม่ได้ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ต้นเหตุปัญหา แต่ตัวปัญหาคือ การเมือง
“ขณะนี้มีส.ส.เข้าชื่อเสนอกฎหมายเกิน 20 คนแล้ว หากเสนอทันก่อนปิดสมัยประชุมนิติบัญญัติก็จะเสนอทันที แต่ถ้าไม่ทันจะเสนอในสมัยประชุมหน้า ขณะเดียวกันระหว่างการเดินหน้ากระบวนการปรองดอง จะมีการเจรจากับทุกฝ่ายทั้งนักการเมือง นักวิชาการ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และคู่ขัดแย้ง ควบคู่กันไปด้วยตามแนวทางที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เคยทำไว้” นายประชากล่าว
**เสร็จอย่างช้าก่อนสงกรานต์ปี56
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้ยื่นพ.ร.บ.ปรองดอง แต่ขณะนี้รายละเอียดยังไม่ตกผลึก เพราะภายในพรรคยังมีความเห็นแตกต่างเรื่องขอบเขตของการนิรโทษกรรมว่าจะกว้างขวางเพียงใด ส.ส.บางส่วนเห็นว่า ควรให้นิรโทษกรรมตั้งแต่เหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมตั้งแต่ก่อนปี 2549จนถึงปัจจุบัน ขณะที่ส.ส.บางส่วนเห็นว่า การนิรโทษกรรมไม่ควรเกี่ยวข้องกับแกนนำชุมนุมและผู้นำรัฐบาล โดยจะรอหลังจากการแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ผ่านรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น คาดว่า อย่างช้ากระบวนการปรองดองน่าจะเสร็จสิ้นก่อนเทศกาลสงกรานต์ เดือนเม.ย.2556
** "มาร์ค"รับขวางล้างผิดให้คนโกง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ร้องเพลง “ช่างแม่มัน” ที่แปลงทำนองมาจากเพลง Let it be ว่า ไม่อยากให้คนที่เป็นถึงอดีตนายกฯ ใช้ถ้อยคำลักษณะนี้ในที่สาธารณะ และหาก พ.ต.ท.ทักษิณชอบเพลงนี้จริง น่าจะตรวจสอบจิตใจตัวเองให้ดีว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้น ปล่อยวางหรือไม่ ไม่ใช่มาเรียกร้องให้คนอื่นทำเพื่อตอบโจทย์ตัวเองคนเดียว นี่เป็นมาตรฐานของคนที่เป็นอดีตนายกฯ ซึ่งหวังว่าจะไม่เป็นมาตรฐานสำหรับอดีตนายกฯ คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำในลักษณะนี้ในที่สาธารณะ
ทั้งนี้ การปรองดองเพื่อส่วนรวมนั้นไม่มีใครคัดค้าน แต่ปัญหานี้มีอยู่เรื่องเดียว คือ อย่าไปล้างผิดให้คนโกง อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กลายเป็นว่า เอาคำว่าปรองดองมาผูกติดอยู่กับตรงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องไปทบทวนว่าเรียกร้องมากเกินไปหรือไม่ เรียกร้องกับครอบครัวผู้สูญเสีย เรียกร้องกับสังคมทั้งสังคม ประเทศทั้งประเทศ แต่ไม่เคยเรียกร้องกับตัวเองเลยว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น ศาลตัดสินแล้วไม่ยอมรับ แล้วก็ดื้ออยู่อย่างนี้ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย แล้วทำไมจะต้องมาทำให้หลายคนเดือดร้อนเพราะสิ่งเหล่านี้ ทำให้ประเทศตกเป็นตัวประกัน
"วันดีคืนดีก็จะมาบอกให้ทุกคนว่า ลืมๆ กันไป เพื่อที่ตัวเองจะได้คืนสถานะหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่เป็นธรรมกับฝ่ายต่างๆ คนที่จะต้องไปทบทวนนั้น ก็น่าจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่า"นายอภิสิทธิ์กล่าว
**คะแนนรัฐบาล"ปู"ตกเหลือ6.23
นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลสำรวจ "ความพึงพอใจต่อผลงานรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับผลงานการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในด้านยาเสพติด อบายมุขมากที่สุด ถึง 67.90% รองลงมา คือ ด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาคนว่างงาน 48.80% อันดับสาม ด้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ 29.10% อันดับสี่ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่สามัคคีของคนในชาติ การชุมนุมของคนเสื้อสีต่างๆ 28.60% และอันดับห้า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ 20.80%
ส่วนความพึงพอใจของประชาชนต่อตัวนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พบว่า ยังคงครองใจประชาชนชาวภาคเหนือมากที่สุดคือ 79.90% และใกล้เคียงกัน คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 78.60% อันดับสาม ภาคกลาง 69.20% อันดับสี่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล 59.80% และอันดับสุดท้าย ภาคใต้ 54.80%
ทั้งนี้ ประชาชนประเมินผลงานโดยรวมของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้คะแนนเฉลี่ย 6.23 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวน 1,245 ตัวอย่าง ดำเนินการสำรวจตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค.2555
วานนี้ (18 เม.ย.) เวลา 09.00 น. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นำพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพล ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. และนายทหารระดับสูงจาก 3 เหล่าทัพ เข้ารับพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์อย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.เปรม กล่าวให้พรว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรีสุกำพล นำน้องๆ มาอวยพร วันสงกรานต์ถือเป็นวันสำคัญของชาติบ้านเมือง และถือเป็นวัฒนธรรมไทย เป็นการแสดงความปรารถนาดีแบบไทยๆ ระลึกถึงกันในความเป็นเพื่อน ความเป็นมิตร และความเป็นญาติ นั่นคือความปรารถนาดีที่รักษามาโดยตลอด รัฐมนตรีสุกำพล คือ ทหารชั้นผู้ใหญ่ ทราบดีว่าเรารักใคร่กันอย่างไร และเราจะรักใคร่กันอย่างนี้และตลอดไป การรักษาประเพณีสงกรานต์เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบรรดาลให้พวกเรา และกำลังพลทั้ง 3 เหล่าทัพ มีความสุข ความเจริญ แข็งแรงมีน้ำใจจงรักภักดีเข้มแข็งเพื่อรักษาชาติบ้านเมือง ละขอให้พระสยามเทวาธิราช และคุณงามความดีทั้งหลายปกป้องให้ปลอดภัยจากภยันตราย
พร้อมกันนี้ พล.อ.เปรมกล่าวด้วยว่า ดีใจมากที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ นำน้องๆ มาอวยพรในวันสำคัญ เพราะวันสงกรานต์ถือเป็นวัฒนธรรมของไทย จะต้องรักษาวัฒนธรรม รักษาชาติบ้านเมือง ฉะนั้นแสดงให้เห็นว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และตำรวจในประเทศมีความระลึกถึงชาติบ้านเมือง พยายามรักษาสิ่งที่ดีงาม ขอขอบคุณตำรวจที่เหน็ดเหนื่อยมากในการทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน สมกับคำที่ว่า “ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน” ขอชมเชย พล.ต.อ.เพียวพันธ์ และตำรวจทุกคน และขออวยพร พล.ต.อ.เพียวพันธ์ และตำรวจทุกคนโชคดี มีความสุข และสำเร็จในการทำงาน และขอให้พระสยามเทวาธิราช และความดีทั้งปวงปกป้องภยันตรายต่างๆ ตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าอวยพรของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีท่าทีตื่นเต้น และระหว่างที่พล.อ.เปรม ให้พร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ รับฟังอย่างตั้งใจพร้อมพยักหน้าน้อมรับโอวาท โดยมีอาการเคอะเขินเล็กน้อย และหลังจาก พล.อ.เปรม ให้โอวาท พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ยกมือไหว้พร้อมกับทำความเคารพพล.อ.เปรมอย่างนอบน้อม
**“สุกำพล”มั่นใจเพื่อนแม้วได้กลับแน่
พล.อ.สุกำพล กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับประเทศไทยภายในปีนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงอยากกลับแน่ๆ เพราะเป็นคนไทย แต่จะกลับได้เมื่อไร เป็นเรื่องที่เราทราบกันอยู่ว่า มีกฎกติกาอะไรหลายอย่าง และเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป สุดท้ายถามว่าจะกลับได้หรือไม่ ตนเชื่อว่าน่าจะกลับได้ แต่เมื่อไรไม่ทราบ แต่คิดว่าท่านจะกลับได้เมื่อทุกอย่างเคลียร์ และให้สัมภาษณ์แล้วว่า หากจะกลับมาแล้วเข้ากระบวนการยุติธรรม ท่านยินดี แต่จะต้องยุติธรรมจริงๆ เช่น กระบวนการการตั้งคน สมมุติตนไม่ถูกกับสื่อแล้วตั้งพี่ชายของสื่อมาสอบสวนตน ถามว่าจะถูกต้องหรือไม่ จะต้องเริ่มจากตรงนี้ ถ้าดูว่าถูกต้องตรงไปตรงมา ท่านคงเข้ามา
“เรื่องนิดเดียว ผมไม่อยากพูด เพราะมันผ่านมาแล้ว อย่างคดีที่ผ่านมา คือ เป็นการเซ็นชื่อร่วมเพื่อค้ำประกันภรรยาท่านเท่านั้น อย่างนี้มันตลก แต่ต้องค่อยๆ ว่ากันไป ถ้าท่านคิดว่า เมื่อตาชั่งมันตรงดีแล้ว ท่านคงจะกลับมา เพราะท่านคือลูกผู้ชายคนหนึ่ง จากที่ผมคบกันรู้ว่าเป็นลูกผู้ชายพอสมควร ผมเป็นเพื่อนกับท่าน เห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่ได้กลับมาประเทศไทย ท่านเคยทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติเยอะ อย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาพูด เอาประเด็นแค่คนๆ เดียว อย่าไปกลัวมากเลย เอากลับมาสิ เอาเข้ามาในบ้าน จะได้คุยกันใกล้ๆ แล้วจะรู้เรื่อง คุยเห็นตัวกันดีกว่า เก่งแต่ไกลๆ กันนั่นแหละ น่าจะเอาคนอย่างนี้มาทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ เพราะท่านมีผลงาน”พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
**แม้วไม่เป็นนายก-ไม่เอาของถูกยึดคืน
สื่อรัสเซีย RIA Novosti รายงาน บทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางมาทำบุญ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศลาว และกัมพูชา โดยอดีตผู้นำไทย ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตที่จะกลับไปยังแผ่นดินเกิด จากขณะนี้ที่ยังมีคดีติดตัว ทำให้ตนต้องลี้ภัยไปยังประเทศต่างๆ ว่า เราจะเห็นได้ว่าเรื่องราวต่างๆ มันกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อประเทศไทยมีความสามัคคีกันแล้ว ไม่ต้องการที่จะกลับไปในขณะที่การเมืองยังคุกรุ่น มีความขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งเรื่องการกลับบ้านนั้น มันอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่กระนั้น ผมก็จะไม่เรียกร้องขอเป็นผู้นำประเทศอีกแน่ ขอย้ำเลยว่า ผมจะไม่ขอเป็น นายกรัฐมนตรีอีกเด็ดขาด ส่วนของถูกยึดไว้นั้น ผมคงไม่เรียกร้องกลับคืน
เมื่อถามต่อว่า โปรแกรมต่างๆ ที่เคยทำ แต่ยังไม่สำเร็จจะทำต่อหรือไม่ หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ได้เป็นผู้นำประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ยังต้องการทำหลายอย่าง แต่รัฐบาลชุดนี้ สามารถสานต่องานต่างๆ ที่เคยวางไว้ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องพึ่งผม และหนึ่งในหลายแนวทางมีโครงการความร่วมมือกับทางรัสเซีย รวมถึงมีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางในเรื่องของพลังงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
**เพื่อไทยยันเดินหน้าออกกฎหมาย
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในเรื่องปรองดองว่า ในการออกเป็นพระราชบัญญัตินั้น หากจะเริ่มต้นเดินหน้า ก็ต้องมีจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่จะเดินหน้าเร็วมากไปก็ไม่ได้ น้อยไปก็ไม่ดี เปรียบเสมือนกับเวลาคลอดบุตร จะคลอดวันไหน ก็บอกไม่ถูก แต่พอใกล้ๆ หมอก็จะบอกเองว่าคลอดแล้ว ให้บอกล่วงหน้านานๆ คงไม่สามารถทำนายได้ถูกต้อง จังหวะเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ. แต่ส่วนใหญ่เห็นด้วย หรือลองทำประชามติดูก็ได้ว่าส่วนใหญ่ ประชาชนเขาเห็นด้วย เนื่องจากจะทำให้บ้านเมืองสงบ ประเทศเดินหน้าไปได้ ส่วนฝ่ายไหนจะรับเป็นเจ้าภาพในการทำพ.ร.บ.ปรองดองนั้น คงไม่ได้เริ่มจากรัฐบาล แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของกฎหมายสามารถมีได้หลายทาง เริ่มจากสมาชิกสภาก็ได้ เริ่มจากประชาชนก็ได้ อะไรดีที่สุดก็เอาแนวทางนั้น
**"ประชา"ปูดร่างปรองดองเสร็จแล้ว
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้วางโครงร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทีมกฎหมายตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย และหลักการคร่าวๆ คือ ให้เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองก่อนการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 เข้าสู่กระบวนการปรองดองทั้งหมด โดยให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน และไม่ได้ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ต้นเหตุปัญหา แต่ตัวปัญหาคือ การเมือง
“ขณะนี้มีส.ส.เข้าชื่อเสนอกฎหมายเกิน 20 คนแล้ว หากเสนอทันก่อนปิดสมัยประชุมนิติบัญญัติก็จะเสนอทันที แต่ถ้าไม่ทันจะเสนอในสมัยประชุมหน้า ขณะเดียวกันระหว่างการเดินหน้ากระบวนการปรองดอง จะมีการเจรจากับทุกฝ่ายทั้งนักการเมือง นักวิชาการ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และคู่ขัดแย้ง ควบคู่กันไปด้วยตามแนวทางที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เคยทำไว้” นายประชากล่าว
**เสร็จอย่างช้าก่อนสงกรานต์ปี56
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้ยื่นพ.ร.บ.ปรองดอง แต่ขณะนี้รายละเอียดยังไม่ตกผลึก เพราะภายในพรรคยังมีความเห็นแตกต่างเรื่องขอบเขตของการนิรโทษกรรมว่าจะกว้างขวางเพียงใด ส.ส.บางส่วนเห็นว่า ควรให้นิรโทษกรรมตั้งแต่เหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมตั้งแต่ก่อนปี 2549จนถึงปัจจุบัน ขณะที่ส.ส.บางส่วนเห็นว่า การนิรโทษกรรมไม่ควรเกี่ยวข้องกับแกนนำชุมนุมและผู้นำรัฐบาล โดยจะรอหลังจากการแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ผ่านรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น คาดว่า อย่างช้ากระบวนการปรองดองน่าจะเสร็จสิ้นก่อนเทศกาลสงกรานต์ เดือนเม.ย.2556
** "มาร์ค"รับขวางล้างผิดให้คนโกง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ร้องเพลง “ช่างแม่มัน” ที่แปลงทำนองมาจากเพลง Let it be ว่า ไม่อยากให้คนที่เป็นถึงอดีตนายกฯ ใช้ถ้อยคำลักษณะนี้ในที่สาธารณะ และหาก พ.ต.ท.ทักษิณชอบเพลงนี้จริง น่าจะตรวจสอบจิตใจตัวเองให้ดีว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้น ปล่อยวางหรือไม่ ไม่ใช่มาเรียกร้องให้คนอื่นทำเพื่อตอบโจทย์ตัวเองคนเดียว นี่เป็นมาตรฐานของคนที่เป็นอดีตนายกฯ ซึ่งหวังว่าจะไม่เป็นมาตรฐานสำหรับอดีตนายกฯ คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำในลักษณะนี้ในที่สาธารณะ
ทั้งนี้ การปรองดองเพื่อส่วนรวมนั้นไม่มีใครคัดค้าน แต่ปัญหานี้มีอยู่เรื่องเดียว คือ อย่าไปล้างผิดให้คนโกง อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กลายเป็นว่า เอาคำว่าปรองดองมาผูกติดอยู่กับตรงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องไปทบทวนว่าเรียกร้องมากเกินไปหรือไม่ เรียกร้องกับครอบครัวผู้สูญเสีย เรียกร้องกับสังคมทั้งสังคม ประเทศทั้งประเทศ แต่ไม่เคยเรียกร้องกับตัวเองเลยว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น ศาลตัดสินแล้วไม่ยอมรับ แล้วก็ดื้ออยู่อย่างนี้ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย แล้วทำไมจะต้องมาทำให้หลายคนเดือดร้อนเพราะสิ่งเหล่านี้ ทำให้ประเทศตกเป็นตัวประกัน
"วันดีคืนดีก็จะมาบอกให้ทุกคนว่า ลืมๆ กันไป เพื่อที่ตัวเองจะได้คืนสถานะหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่เป็นธรรมกับฝ่ายต่างๆ คนที่จะต้องไปทบทวนนั้น ก็น่าจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่า"นายอภิสิทธิ์กล่าว
**คะแนนรัฐบาล"ปู"ตกเหลือ6.23
นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลสำรวจ "ความพึงพอใจต่อผลงานรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับผลงานการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในด้านยาเสพติด อบายมุขมากที่สุด ถึง 67.90% รองลงมา คือ ด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาคนว่างงาน 48.80% อันดับสาม ด้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ 29.10% อันดับสี่ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่สามัคคีของคนในชาติ การชุมนุมของคนเสื้อสีต่างๆ 28.60% และอันดับห้า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ 20.80%
ส่วนความพึงพอใจของประชาชนต่อตัวนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พบว่า ยังคงครองใจประชาชนชาวภาคเหนือมากที่สุดคือ 79.90% และใกล้เคียงกัน คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 78.60% อันดับสาม ภาคกลาง 69.20% อันดับสี่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล 59.80% และอันดับสุดท้าย ภาคใต้ 54.80%
ทั้งนี้ ประชาชนประเมินผลงานโดยรวมของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้คะแนนเฉลี่ย 6.23 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวน 1,245 ตัวอย่าง ดำเนินการสำรวจตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค.2555