xs
xsm
sm
md
lg

แม้วสำราก “ช่างแม่มัน!!” ทำไมสะเทือนถึง “พ่อเรา?!”

เผยแพร่:   โดย: ปิยะโชติ อินทรนิวาส

ภาพการลอยหน้าลอยตาสำรากเพลง “Let it Be” ในเวอร์ชันกากๆ “ช่างแม่มัน” ด้วยการใส่อารมณ์แบบสุดๆ ของสัมภเวสีหนีคุก นช.ทักษิณ ชินวัตร

ท่ามกลางการห้อมล้อมและสรรเสริญเยินยอกันสุดลิ่มทิ่มประตูของบรรดาคนเสื้อแดง ซึ่งแกนนำที่เสนอหน้าก็มี อาทิ รมต.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.และว่าที่ รมต.จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เหวง โตจิราการ ฯลฯ

อันเป็นภาพบนเวทีที่ประเทศกัมพูชาเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เป็นความตั้งใจต้องการส่งผ่านถึงคนในประเทศไทยอย่างแน่นอน

ภาพที่ นช.ทักษิณสบถคำว่า “ช่างแม่มัน” แบบย้ำคิดย้ำทำอยู่หลายครั้งบนเวทีวันนั้น แปรความเป็นอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากต้องการส่งผ่านความรู้สึกนึกคิดอันอัดแน่นอยู่ในจิตใจของเขามาให้คนไทยได้รับรู้

อีกทั้งถ้าจะถือว่าเป็นการแทนคำอวยพรเนื่องในประเพณีสงกรานต์ก็น่าจะได้

ที่แปรความได้อย่างนั้น ก็เนื่องจากช่วงก่อนจัดงานมีการโหมประชาสัมพันธ์กันครึกโครม สามารถชิงพื้นที่สื่อในประเทศไทยไปได้แบบที่ทุกสายตาต่างจับจ้อง

ขณะที่ระหว่าง นช.ทักษิณร้องเพลงบนเวทีที่เขมรในวันดังกล่าว ก็มีการถ่ายทอดทางทีวีสีแดงให้คนในประเทศไทยได้รับชมกันแบบสดๆ เลยทีเดียว

สำหรับคนไทยที่ต้องการให้ได้รับชมและรับฟังเพลง Let it Be ในเวอร์ชันใหม่ของ นช.ทักษิณ เป้าหมายไม่ได้อยู่แต่เฉพาะคนเสื้อแดงที่ไม่ได้ไปร่วมงานที่เขมร รวมถึงกลุ่มคนรักและนิยมชมชอบในระบอบทักษิณเท่านั้น

เชื่อกันว่ายังต้องการสื่อให้ครอบคลุมไปทั่วทุกคนไทย ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร หรือไม่ว่าจะเป็นไพร่หรือเป็นอำมาตย์ก็ตาม

และที่สำคัญในจำนวนคนที่ต้องการสื่อฝากไปให้นั้น คงรวมถึงคนที่เคยถูก นช.ทักษิณกล่าวหาว่ามีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญด้วย

มีข้อน่าสังเกตว่า เพลง Let it Be ของวง The Beatles ร้องโดย Sir James Paul McCartney ถูกแต่งขึ้นเมื่อปี 2513 เคยเป็นที่นิยมและรู้จักของคนไทยมานานพอสมควร ซึ่งที่ผ่านๆ มาคนไทยเรานิยมแปลชื่อเพลงนี้ว่า “ปล่อยมันไป” หรือไม่ก็ “ช่างมันเถิด”

แต่ นช.ทักษัณกลับตั้งใจแปลให้ต่างจากคนไทยอื่นๆ ว่า “ช่างแม่มัน” แล้วตอกย้ำคำคำนี้อย่างสนุกสนานในช่วงร้องท่อนฮุก

แถมก่อนที่เขาจะร้องเพลงนี้ เขายังย้ำไว้อย่างเน้นๆ ด้วยประโยคขยายความจากชื่อเพลงว่า “จะเป็น จะตาย ก็ช่างแม่มัน”

นอกจากนี้แล้ว ช่วงกำลังจะเริ่มร้องเขายังได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านคำพูดในทำนองว่า ที่ตนอยากร้องเพลงนี้ก็เพราะเป็นเพลงของคนเก็บกดที่ต้องระเหเร่ร่อนอยู่เมืองนอกนานหลายปี

ช่วงเพลงนี้ใกล้จบ นช.ทักษิณกล่าวแทรกขึ้นมาว่า “รู้ไหมทำไมผมไม่เครียด เพราะรู้จักคำว่า..ช่างแม่มัน ถ้าไม่รู้จัก..ช่างแม่มัน เครียดตายห่า”

หลังร้องเพลงนี้จบ นช.ทักษิณยังร่วมกับบรรดาลิ่วล้อตะโกนก้องว่า “พรรคไหนจะขวางปรองดอง..ช่างแม่มัน” และ “พรรคไหนขวางแก้รัฐธรรมนูญ..ช่างแม่มัน”

ในบรรยากาศช่วงสงกรานต์ที่ นช.ทักษิณได้ร่อนเร่ระเหระหกโฉบเฉี่ยวมายังใกล้ๆ ชายแดนบ้านเรานั้น เขาได้ประกาศตลอดเวลาที่มีโอกาสจะได้สื่อสารกับคนไทยว่า เขาต้องการกลับเข้าสู่ประเทศไทยแบบที่ได้รับการล้างความผิด หรือลบมลทินใดๆ จนไม่เหลือติดตัว

หรือใช้คำแบบสื่อให้เห็นภาพรวมความต้องการของเขาเองว่า เขาต้องการกลับสู่ประเทศไทยแบบเท่ๆ

นั่นก็สอดรับกับทุกเครือข่ายในระบอบทักษิณที่เดินเกมอยู่ในบ้านเมืองเรา โดยเฉพาะการใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหุ่นเชิด ใช้เสียงผ่าน ส.ส.และ ส.ว.ทาสในสภาฯ

คาดการณ์กันว่า สิ่งที่จะทำให้เขาเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างสง่าผ่าเผยก็คือ การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อล้างความผิด และการผลักดันให้ออกกฎหมายปรองดองฉบับใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ทว่า ไม้เด็ดสุดสามารถจับความได้จากคำพูดของเขาระหว่างทัวร์สงกรานต์ในประเทศข้างบ้านเราเที่ยวนี้ ที่เริ่มด้วยการออดอ้อนคนเสื้อแดงที่ข้ามแดนไปต้อนรับว่า

“พี่น้องที่มาวันนี้ได้เสียสละมาก บางคนยืนร้องไห้ แล้วกวักมือเรียกบอกว่ากลับบ้านเราเถอะ ผมฟังแล้วตื้นตันใจครับ คงไม่นานเกินรอ ปีนี้เป็นปีที่ผมรู้สึกและมั่นใจว่าเป็นปีที่ดีของพวกเราทุกคน เราจะอยู่กันแบบนักสู้ที่มีแต่สันติสุข ไม่มีการรุนแรงท้าทายใดๆ”

ก่อนจะบอกรหัสนัยที่ถือเป็นไม้เด็ดนำเขากลับคืนบ้านเกิดเมืองนอนว่า

“ปีนี้เป็นวาระสำคัญ 28 กรกฎาคม พระบรมโอรสาธิราชฯ เจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา และปีนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา เป็นอะไรหลายอย่างที่บอกเหตุว่า ผมจะได้กลับไปอยู่กับพี่น้อง”

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อ นช.ทักษิณเห็นโอกาสที่จะใช้ไม้เด็ดนำตัวเขากลับบ้านได้ จึงไม่แปลกที่เขาจะกล่าวบนเวทีอย่างออกหน้าออกตาว่า เขาคือคนที่สุดแสนจะจงรักภักดีต่อสถาบัน

แล้วก็ไม่ลืมส่งสารอวยพรแบบเอาอกเอาใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อย่างเป็นพิเศษสำหรับช่วงประเพณีสงกรานต์ปีนี้ด้วย

โดยทำเป็นลืมไปว่าหลายปีที่ผ่านมานั้น ทั้งตัวเขาเอง รวมถึงบริวารว่านเครือได้รุมกันทำลายล้างและสร้างตราบาปให้กับ พล.อ.เปรมไว้แล้วเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

แต่นั่นไม่สำคัญเท่าการใช้ท่านเป็นเครื่องตีกระทบไปยังสิ่งที่อยู่สูงกว่า

โดยตัวตนของ นช.ทักษิณเองก็เคยจาบจ้วงสถาบันหลายครั้งหลายหน อย่างสวมชุดลำลองไปนั่งเป็นประธานทำบุญประเทศในวัดพระแก้ว การแต่งตั้งนายทหารที่ตนเสนอชื่อทูลเกล้าฯ ไปแล้วใครจะกล้าเปลี่ยน หรือกรณีเครื่องบินไทยคู่ฟ้า ปฏิญญาฟินแลนด์ การตั้งรัฐไทยใหม่ที่มีตัวเองเป็นประธานาธิบดี เป็นต้น

ผมเองทั้งได้ชมคลิปและติดตามข่าว นช.ทักษิณทัวร์สงกรานต์ที่ประเทศเพื่อนบ้านเรา เห็นภาพคนนำเสื้อแดงร้องเพลง ออดอ้อนขอกลับไทย กล่าวอวยพรป๋าเปรม กล่าวถึงความจงรักภักดี และที่สำคัญกล่าวถึง 2 วโรกาสพิเศษที่จะมีขึ้นในปีนี้

สมองผมประมวลผลแล้วฉับพลันกลับปรากฏภาพ นช.ทักษิณกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำท่ามกลางผู้นิยมชมชอบจำนวนมากใน 2 วาระผุดพรายขึ้นมาเทียบเคียงที่ว่า “ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหูว่า ออกเถอะ จะกราบบังคมลาทันที” และอีกครั้งที่ว่า “ถ้านายกฯ ไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี”

สำหรับความเคลื่อนไหวของสัมภเวสีหนีคุก นช.ทักษิณ ชินวัตร เราคงต้องจับตากันใกล้ชิดต่อไปนะครับ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมกับเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น