“แม้ว” กำลังป่วยหนัก!?

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 ได้เห็นภาพของ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีสภาพเป็นนักโทษหลบหนีคุก หลบหนีหมายจับ กำลังได้รับการเคารพนบนอบจากบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีหลายคน แห่กันไปรดนำดำหัวกันถึงลาวและเขมรในช่วงเทศกาลที่ผ่านมาแล้วก็อดสู สมเพช และรู้สึกอึ้งจนพูดไม่ออก ขณะเดียวกัน มันก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คือความพยายามบิดเบือนใช้เสียงข้างมากเข้ารกเข้าพง เหมือนอย่างที่ “ขบวนการทักษิณ” กำลังดำเนินการกันอยู่อย่างหน้าดำคร่ำเคร่ง เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตัวเองวางเอาไว้

00 แม้ว่าเท่าที่เห็นในภาพตามสื่อต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่าสามารถสร้างกระแสเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้าน หรือแม้แต่ฝ่ายตรงข้ามได้มากพอดูเหมือนกัน โดยเฉพาะภาพที่มีคนเสื้อแดงและบรรดา รมต.ผู้มีตำแหน่งทางการเมืองต่างแย่งกันเบียดเสียดเพื่อเข้าไปถึงตัวให้มากที่สุด หรือถ้าเข้าไปประชิดไม่ได้ก็ต้องพยายามดันเข้าไปข้างหน้าเพื่อให้ ทักษิณ ได้เห็นหน้า เรียกว่านี่คือ “โอกาสทอง” ที่น้อยครั้งจะได้ “เสนอหน้า” อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้เกิดความรู้สึกขยะแขยงการเมืองน้ำเน่าเห็นแล้วอยากจะอ้วก เห็นภาพที่ “เฒ่า 40 ตัน” เสนาะ เทียนทอง ที่อุตส่าห์ถ่อสังขารไปคารวะถึงเขมร รวมไปถึงคนอื่นๆ ราวกับว่าถ้าใครตกหล่นแล้วมันอาจมีความหมายในเรื่องความก้าวหน้าหรือตำแหน่งแห่งที่ในอนาคตก็เป็นได้

00 เมื่อมาวิเคราะห์ถึงคำพูดของ ทักษิณ บนเวที ที่มั่นใจว่าได้กลับบ้านอย่างเท่ ผ่านทางสนามบิน ถึงขั้นกำหนดค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่เกินเดือน ก.ค.หรือ ส.ค.ปีนี้ โดยเขาเน้นย้ำแต่เรื่อง “ปรองดอง” นั่นก็หมายความว่าเขามั่นใจว่า พ.ร.บ.นิรโทษฯ ที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเอาไว้นานแล้วและเตรียมนำเข้าสภาตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แย้มออกมาก่อนหน้าว่าไม่เกินสมัยประชุมหน้า หรือถ้ากลัว “อกแตกตาย” เสียก่อนก็อาจจะดันเข้ามาหลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วก็ได้

00 สังเกตหรือไม่ว่าเวลานี้ ทักษิณ และเครือข่ายพยายามโหมเรื่อง “ปรองดอง” อย่างเต็มพิกัด แถมยังประกาศให้ความเคารพนับถือ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อย่างน่าแปลกใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ด่าเช้าด่าเย็น กลับกลายเป็นตรงข้ามหน้าตาเฉย และก็เหมือนกับทุกครั้งที่พออยู่ท่ามกลางลูกสมุน “สันดานเดิม” ก็กำเริบขึ้นมาอีกนั่นคือ ความเหิมเกริม “ดึงฟ้าต่ำ” ส่งสัญญาณกดดัน เชื่อมโยงไปถึง “วันสำคัญ” ในเดือน ก.ค.และ ส.ค.และเพราะเป็นแบบนี้นี่แหละที่จะทำให้เกิดอารมณ์โกรธของชาวบ้านที่นั่งมองดูอยู่ เพราะนี่คือการ “บังคับปรองดอง” ยังใช้วิธีใช้มวลชนมากดดันเช่นเดิม

00 อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาอย่างรู้ทันก็ต้องบอกว่านี่คือรายการ “ตบตา” เป็นการพลังมวลชน เป็นการเล่นเกม “สองหน้า” ปากบอกว่าต้องการปรองดอง ให้ลบล้างความผิดเลิกแล้วต่อกัน ทำกันแบบง่ายๆ เอาแต่ได้ คิดที่จะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ร่ำไป มันก็ไม่มีทางสำเร็จอย่างที่หวังได้หรอก คำพูดที่บอกว่า ตัวเองบอบช้ำมานานกว่า 6 ปี ถ้าอย่างนั้นแล้วบ้านเมืองและคนไทยทั่วไปละจะบอบช้ำขนาดไหน เพราะจะว่าไปแล้วต้นตอของปัญหาล้วนแล้วแต่มาจาก “หน้าเหลี่ยม” นี่แหละ

00 รู้หรือเปล่าว่างาน “อีเวนต์” ที่ออกมาอย่างที่เห็นทั้งที่ เวียงจันทน์และเสียมราฐมันมี “ค่าใช้จ่าย” ไม่น้อย เพราะเมื่อคำนวณตามจำนวนคนที่เข้ามาแห่แหนเพิ่มบารมีให้ ทักษิณ มากมายแบบนั้นมันก็ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ต้องสำรองจ่ายให้กับ “ฝ่าย รปภ.-ค่าเตรียมการสถานที่” จิปาถะ โดยเฉพาะต้องจ่ายให้กับ ฮุน เซน เท่าไหร่ รับรองว่าต้องมากโขแน่นอน และด้วยลักษณะแบบนี้แหละที่ยังทำให้ “ภาพความเป็นผู้นำ” คงอยู่ และ ทักษิณ ก็ยินดีจ่าย

00 ขณะเดียวกัน ภาพที่ออกมา “อลังการ” มากเท่าไดมันก็ต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย ภาพที่ปรากฏออกมาให้เห็นตามสื่อทั้งไทยและเทศรับรองว่า “ไม่ใช่ของฟรี” ซึ่งตราบใดที่เขายังมีทรัพย์สินที่พร้อมที่จะจ่าย เราก็จะได้เห็นความวุ่นวายคงอยู่ต่อไป และที่สำคัญเราก็จะได้เห็น “อาการผิดปกติ” การหลงเคลิบเคลิ้มไปกับการป้อยอของคนรอบข้างคอย “หลอกรับประทาน”หาประโยชน์อยู่ร่ำไปจนเวลานี้หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเขามีลักษณะไม่ต่างจาก “คนป่วยทางจิต” เข้าไปทุกทีแล้ว!!

00 การเมืองบางครั้งอ่านกันไม่ยาก และเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด เหมือนกับเรื่อง นิรโทษฯ-ปรองดองที่กำลังพยายามขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายของตัวเอง พยายามสร้างแนวร่วม สิ่งใดที่คิดว่าตัวเองได้ประโยชน์ก็โดดเข้าตะครุบทันที ไม่มีทางที่จะก้มดูตัวเองอย่างเด็ดขาด เหมือนกับที่ บรรหาร ศิลปอาชา กำลังโดดเกาะเอวทักษิณอยู่ในเวลานี้ ออกโรงหนุนปรองดองเต็มตัว เพราะรู้ว่าแท้จริงแล้วก็คือการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมลบล้างความผิดทั้งหมด ซึ่งก็รวมถึงพวกบ้านเลขที่ 109 ที่มีเขาและคนใน “ตระกูลศิลปอาชา” ติดอยู่ในนั้นนั่นแหละ ทุด!!