ASTVผู้จัดการรายวัน - ตร.กองปราบตามจับกุมโจรอำหิตลวงว่าจ้างสิงห์รถกระบะลงไปขนของทางใต้ สบโอกาสหลอกให้กินกาแฟผสมยาฆ่าแมลงจนสลบแล้วชิงรถหนี สอบพบทำมาแล้ว 9 ครั้ง เหยื่อถึงตาย 4 รายรอด 3 อีก 2 รายยังไม่รู้ชะตากรรม
วานนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายนิรุต หรือ จำลอง สอนคำหาร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 289/21 หมู่ 10 ต.ทุ่งตำเสา อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.238/2555 ลงวันที่ 16 เมษายน 2555 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์รถยนต์ พร้อมของกลางเสื้อยืดคอปกแขนสั้น สีเขียวและสีขาวสลับเทาที่ใส่ในวันที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ตัว หมวกสีเทา 1 ใบ ใบเสร็จรับเงินร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เงินสด จำนวน 17,600 บาท กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และยาฆ่าแมลง 1 ขวด โดยจับกุมได้ที่ห้องพัก เลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ทเม้นต์ไม่มีชื่อ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มูลนิธิกระจกเงาได้พา นายวัชระ สืบเชื้อ และนายรอบ รอบแคว้น อาชีพขับรถกระบะรับจ้างทั่วไปซึ่งถูกคนร้ายหลอกว่าจ้างรถกระบะขนส่งของก่อนจะวางยาและขโมยทรัพย์สินไป นอกจากนี้ยังมีคนขับรถกระบะรับจ้างอีกหลายรายซึ่งสูญหายไปในลักษณะเดียวกันนี้และเหตุเกิดในพื้นที่ใกล้เคียงกันคือที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่ทำการสืบสวนโดยสอบสวนผู้เสียหายถึงตำหนิรูปพรรณและพฤติกรรมของคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อเนื่องจากเหยื่อที่รอดชีวิตให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุมีการชักชวนให้แวะจอดรถเพื่อพักซื้อเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันระหว่างเส้นใกล้กับ อ.ชะอำ
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต้องสงสัยก็พบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งผู้เสียหายที่รอดชีวิตได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะคดีฆ่านายสมศักดิ์ ศรีจำปา คนขับรถกระบะรับจ้าง เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ต.คอลงวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้นชุดสืบสวนพบภาพกล้องวงจรปิดยืนยันว่าคนร้ายขับขี่รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ตน 8513 กทม. ของผู้ตายไป ประกอบกับการตรวจสอบทางเทคโนโลยีจนสามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายนิรุต หรือ จำลอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในคดีฆ่านางยุพิน จอนเข็ม และชิงรถกระบะพร้อมทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปโดยมีการบิดบังอำพรางศพโดยผูกศพกับก้อนอิฐถ่วงน้ำในเขื่อนลำปาว อ.หนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเดือนม.ค. 2554 ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ทเม้นต์ไม่มีชื่อดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าทำการจับกุม
จากการสอบสวนนายนิรุต ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพขับรถรับจ้างขนผลไม้จากทั่วประเทศให้มาส่งยังตลาดไท และได้รู้จักกับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีการสั่งรถกระบะมาให้ตนขโมยให้จึงวางแผนด้วยการสวมรอยเป็นลูกค้าติดต่อรถกระบะรับจ้างทั่วไปตามที่ต่างๆที่มีการติดประกาศเบอร์โทรติดต่อไว้ก็จะสุ่มโทรไปหาอ้างว่าจะจ้างให้ไปขนของในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากมีความชำนาญในเส้นทาง เมื่อคนขับรถกระบะรับจ้างหลงเชื่อก็จะนัดให้มารับเพื่อเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างทางตนก็จะทำทีให้จอดแวะพักซื้อเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่คนขับรถก็จะดื่มกาแฟ โดยแวะไปตามร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมัน และจะอาสาให้บริการไปซื้อมาให้ เมื่อได้เครื่องดื่มมาแล้วก็จะนำยาฆ่าแมลงที่แบ่งใส่ถุงพลาสติกมาแล้วตักใส่ผสมในเครื่องดื่มดังกล่าวให้คนขับรถกระบะรับจ้างดื่ม
นายนิรุต ยังรับอีกว่า หลังจากคนขับเกิดอาการมึนเมาจนหักรถเข้าข้างทางและสลบไปตนก็จะลากไปข้างๆเพื่อมาขับแทน จากนั้นจะขับรถไปยังที่ลับตาคนเพื่อทิ้งคนขับรถไว้ตามพงหญ้าหรือป่าข้างทาง โดยจะขโมยทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดที่คนขับรถติดตัวมาและนำรถยนต์กระบะไปขายให้แก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยเงินที่ได้มาคันละประมาณ 5 หมื่นบาทนั้นก็จะนำมาใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว ทั้งนี้สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงินแต่ช่วงที่ลงมือนั้นไม่คิดว่าจะถึงแก่ชีวิตแต่คนขับบางรายดื่มกาแฟจนหมดแก้วจึงทำให้เสียชีวิตได้ซึ่งบางรายก็จำไม่ได้ว่านำไปทิ้งไว้จุดใดเพราะเป็นช่วงเวลากลางดึก
ด้าน นายสมบัติ สืบเชื้อ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/40 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ บิดานายวัชระ สืบเชื้อ อายุ 23 ปี ซึ่งถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกพาไปฆ่าชิงทรัพย์รถยนต์กระบะและยังหาศพไม่พบ กล่าวว่า ลูกชายกับตนขับรถรับจ้างทั่วไป ปกติจอดอยู่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ โดยในวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายขับรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ถฉ 1822 กทม. ไปหาลูกค้าที่ติดต่อว่าจ้างให้นำรถเปล่าขึ้นขนของที่ จ.ชุมพร โดยลูกค้าบอกว่าต้องการรถที่มีที่นั่งด้านหลังซึ่งรถของตนก็มีพอดีแต่ช่วงนั้นติดงานอยู่ เมื่อลูกค้ารอไม่ได้ลูกชายตนจึงขับรถไปแทน โดยขับไปรับลูกค้าจากบางบัวทองซึ่งเมื่อไปถึงจุดนัดพบก็โทรติดต่อกับลูกชายอยู่ทราบว่ากำลังออกจากปากเกร็ด จ.นนทบุรีไปยัง อ.หลังสวน จ.ชุมพร
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกันอีกเลยเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แต่ทราบจากแฟนลูกชายว่ามีการติดต่อกันครั้งสุดท้ายเมื่อลูกชายขับรถไปปราณบุรีและจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ช่วงนั้นคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกระทั่งถึงวันที่ 5 ม.ค.ก็ยังติดต่อไม่ได้อีกจึงโทรติดต่อไปยังลูกค้าที่ติดต่อมาซึ่งก็ไม่รับสาย บางครั้งก็ปิดเครื่อง ด้วยความกังวลใจจึงไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง และออกตามหาตามมูลนิธิฯต่างๆแต่ก็ยังไม่ได้เรื่องใดๆ จนได้ทราบข่าวจากตำรวจกองปราบปรามว่ามีการจับกุมคนร้ายได้จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะต้องการทราบว่าคนร้ายนำศพลูกชายไปทิ้งไว้ที่ไหนเพื่อจะได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล
ส่วน นายไพฑูรย์ ปัตตาโพธิ์ อายุ 33 ปี เหยื่อที่รอดชีวิต กล่าวว่า ขับรถกระบะรับจ้างอยู่ย่านศรีนครินทร์ โดยวันที่ 28 ม.ค. ได้รับโทรศัพท์จากผู้ต้องหาให้ไปรับลูกที่ปราณบุรีในราคา 4,500 บาท เมื่อตกลงกันแล้วก็ไปรับผู้ต้องหาที่ซ.รามคำแหง 46 และเดินทางไปด้วยกันจนถึงปั้มน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่ อ.ชะอำ คนร้ายได้ชวนแวะซื้อกาแฟที่ร้านสะดวกซื้อโดยเป็นผู้ลงไปซื้อให้ก็ไม่ได้เอะใจใดๆ และจิบไป 3 ครั้งก็รู้สึกว่ารสชาติขมผิดปกติแต่ผ่านไปไม่กี่นาทีก็รู้สึกตัวชา ขากระตุก จึงรีบขับรถเข้าข้างทาง ทันใดนั้นก็หมดสติไปมาฟื้นรู้สึกตัวอีกครั้งตอนรุ่งสาง โดยอยู่ในสภาพนอนอยู่ในป่าอ้อยในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์โดยถูกขโมยทรัพย์สินและรถยนต์กระบะไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกโชคดีมากที่ผ่านเคราะห์ร้ายมาได้
สำหรับเหยื่อที่ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุนั้นมีทั้งหมด 9 คน เสียชีวิต 4 คน รอดมาได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนยังสูญหาย
วานนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายนิรุต หรือ จำลอง สอนคำหาร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 289/21 หมู่ 10 ต.ทุ่งตำเสา อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.238/2555 ลงวันที่ 16 เมษายน 2555 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์รถยนต์ พร้อมของกลางเสื้อยืดคอปกแขนสั้น สีเขียวและสีขาวสลับเทาที่ใส่ในวันที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ตัว หมวกสีเทา 1 ใบ ใบเสร็จรับเงินร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เงินสด จำนวน 17,600 บาท กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และยาฆ่าแมลง 1 ขวด โดยจับกุมได้ที่ห้องพัก เลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ทเม้นต์ไม่มีชื่อ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มูลนิธิกระจกเงาได้พา นายวัชระ สืบเชื้อ และนายรอบ รอบแคว้น อาชีพขับรถกระบะรับจ้างทั่วไปซึ่งถูกคนร้ายหลอกว่าจ้างรถกระบะขนส่งของก่อนจะวางยาและขโมยทรัพย์สินไป นอกจากนี้ยังมีคนขับรถกระบะรับจ้างอีกหลายรายซึ่งสูญหายไปในลักษณะเดียวกันนี้และเหตุเกิดในพื้นที่ใกล้เคียงกันคือที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่ทำการสืบสวนโดยสอบสวนผู้เสียหายถึงตำหนิรูปพรรณและพฤติกรรมของคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อเนื่องจากเหยื่อที่รอดชีวิตให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุมีการชักชวนให้แวะจอดรถเพื่อพักซื้อเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันระหว่างเส้นใกล้กับ อ.ชะอำ
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต้องสงสัยก็พบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งผู้เสียหายที่รอดชีวิตได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะคดีฆ่านายสมศักดิ์ ศรีจำปา คนขับรถกระบะรับจ้าง เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ต.คอลงวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้นชุดสืบสวนพบภาพกล้องวงจรปิดยืนยันว่าคนร้ายขับขี่รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ตน 8513 กทม. ของผู้ตายไป ประกอบกับการตรวจสอบทางเทคโนโลยีจนสามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายนิรุต หรือ จำลอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในคดีฆ่านางยุพิน จอนเข็ม และชิงรถกระบะพร้อมทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปโดยมีการบิดบังอำพรางศพโดยผูกศพกับก้อนอิฐถ่วงน้ำในเขื่อนลำปาว อ.หนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเดือนม.ค. 2554 ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ทเม้นต์ไม่มีชื่อดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าทำการจับกุม
จากการสอบสวนนายนิรุต ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพขับรถรับจ้างขนผลไม้จากทั่วประเทศให้มาส่งยังตลาดไท และได้รู้จักกับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีการสั่งรถกระบะมาให้ตนขโมยให้จึงวางแผนด้วยการสวมรอยเป็นลูกค้าติดต่อรถกระบะรับจ้างทั่วไปตามที่ต่างๆที่มีการติดประกาศเบอร์โทรติดต่อไว้ก็จะสุ่มโทรไปหาอ้างว่าจะจ้างให้ไปขนของในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากมีความชำนาญในเส้นทาง เมื่อคนขับรถกระบะรับจ้างหลงเชื่อก็จะนัดให้มารับเพื่อเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างทางตนก็จะทำทีให้จอดแวะพักซื้อเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่คนขับรถก็จะดื่มกาแฟ โดยแวะไปตามร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมัน และจะอาสาให้บริการไปซื้อมาให้ เมื่อได้เครื่องดื่มมาแล้วก็จะนำยาฆ่าแมลงที่แบ่งใส่ถุงพลาสติกมาแล้วตักใส่ผสมในเครื่องดื่มดังกล่าวให้คนขับรถกระบะรับจ้างดื่ม
นายนิรุต ยังรับอีกว่า หลังจากคนขับเกิดอาการมึนเมาจนหักรถเข้าข้างทางและสลบไปตนก็จะลากไปข้างๆเพื่อมาขับแทน จากนั้นจะขับรถไปยังที่ลับตาคนเพื่อทิ้งคนขับรถไว้ตามพงหญ้าหรือป่าข้างทาง โดยจะขโมยทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดที่คนขับรถติดตัวมาและนำรถยนต์กระบะไปขายให้แก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยเงินที่ได้มาคันละประมาณ 5 หมื่นบาทนั้นก็จะนำมาใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว ทั้งนี้สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงินแต่ช่วงที่ลงมือนั้นไม่คิดว่าจะถึงแก่ชีวิตแต่คนขับบางรายดื่มกาแฟจนหมดแก้วจึงทำให้เสียชีวิตได้ซึ่งบางรายก็จำไม่ได้ว่านำไปทิ้งไว้จุดใดเพราะเป็นช่วงเวลากลางดึก
ด้าน นายสมบัติ สืบเชื้อ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/40 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ บิดานายวัชระ สืบเชื้อ อายุ 23 ปี ซึ่งถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกพาไปฆ่าชิงทรัพย์รถยนต์กระบะและยังหาศพไม่พบ กล่าวว่า ลูกชายกับตนขับรถรับจ้างทั่วไป ปกติจอดอยู่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ โดยในวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายขับรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ถฉ 1822 กทม. ไปหาลูกค้าที่ติดต่อว่าจ้างให้นำรถเปล่าขึ้นขนของที่ จ.ชุมพร โดยลูกค้าบอกว่าต้องการรถที่มีที่นั่งด้านหลังซึ่งรถของตนก็มีพอดีแต่ช่วงนั้นติดงานอยู่ เมื่อลูกค้ารอไม่ได้ลูกชายตนจึงขับรถไปแทน โดยขับไปรับลูกค้าจากบางบัวทองซึ่งเมื่อไปถึงจุดนัดพบก็โทรติดต่อกับลูกชายอยู่ทราบว่ากำลังออกจากปากเกร็ด จ.นนทบุรีไปยัง อ.หลังสวน จ.ชุมพร
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกันอีกเลยเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แต่ทราบจากแฟนลูกชายว่ามีการติดต่อกันครั้งสุดท้ายเมื่อลูกชายขับรถไปปราณบุรีและจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ช่วงนั้นคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกระทั่งถึงวันที่ 5 ม.ค.ก็ยังติดต่อไม่ได้อีกจึงโทรติดต่อไปยังลูกค้าที่ติดต่อมาซึ่งก็ไม่รับสาย บางครั้งก็ปิดเครื่อง ด้วยความกังวลใจจึงไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง และออกตามหาตามมูลนิธิฯต่างๆแต่ก็ยังไม่ได้เรื่องใดๆ จนได้ทราบข่าวจากตำรวจกองปราบปรามว่ามีการจับกุมคนร้ายได้จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะต้องการทราบว่าคนร้ายนำศพลูกชายไปทิ้งไว้ที่ไหนเพื่อจะได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล
ส่วน นายไพฑูรย์ ปัตตาโพธิ์ อายุ 33 ปี เหยื่อที่รอดชีวิต กล่าวว่า ขับรถกระบะรับจ้างอยู่ย่านศรีนครินทร์ โดยวันที่ 28 ม.ค. ได้รับโทรศัพท์จากผู้ต้องหาให้ไปรับลูกที่ปราณบุรีในราคา 4,500 บาท เมื่อตกลงกันแล้วก็ไปรับผู้ต้องหาที่ซ.รามคำแหง 46 และเดินทางไปด้วยกันจนถึงปั้มน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่ อ.ชะอำ คนร้ายได้ชวนแวะซื้อกาแฟที่ร้านสะดวกซื้อโดยเป็นผู้ลงไปซื้อให้ก็ไม่ได้เอะใจใดๆ และจิบไป 3 ครั้งก็รู้สึกว่ารสชาติขมผิดปกติแต่ผ่านไปไม่กี่นาทีก็รู้สึกตัวชา ขากระตุก จึงรีบขับรถเข้าข้างทาง ทันใดนั้นก็หมดสติไปมาฟื้นรู้สึกตัวอีกครั้งตอนรุ่งสาง โดยอยู่ในสภาพนอนอยู่ในป่าอ้อยในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์โดยถูกขโมยทรัพย์สินและรถยนต์กระบะไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกโชคดีมากที่ผ่านเคราะห์ร้ายมาได้
สำหรับเหยื่อที่ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุนั้นมีทั้งหมด 9 คน เสียชีวิต 4 คน รอดมาได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนยังสูญหาย