ตร.กองปราบ ตามจับกุมโจรอำมหิตลวงว่าจ้างสิงห์รถกระบะลงไปขนของทางใต้ สบโอกาสหลอกให้กินกาแฟผสมยาฆ่าแมลงจนสลบแล้วชิงรถหนี สอบพบทำมาแล้ว 9 ครั้ง เหยื่อถึงตาย 4 รายรอด 3 อีก 2 รายยังไม่รู้ชะตากรรม
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายนิรุต หรือ จำลอง สอนคำหาร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 289/21 หมู่ 10 ต.ทุ่งตำเสา อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.238/2555 ลงวันที่ 16 เมษายน 2555 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์รถยนต์ พร้อมของกลางเสื้อยืดคอปกแขนสั้น สีเขียว และสีขาวสลับเทา ที่ใส่ในวันที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ตัว หมวกสีเทา 1 ใบ ใบเสร็จรับเงินร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เงินสด จำนวน 17,600 บาท กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และยาฆ่าแมลง 1 ขวด โดยจับกุมได้ที่ห้องพัก เลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มูลนิธิกระจกเงาได้พา นายวัชระ สืบเชื้อ และ นายรอบ รอบแคว้น อาชีพขับรถกระบะรับจ้างทั่วไปซึ่งถูกคนร้ายหลอกว่าจ้างรถกระบะขนส่งของก่อนจะวางยา และขโมยทรัพย์สินไป นอกจากนี้ ยังมีคนขับรถกระบะรับจ้างอีกหลายราย ซึ่งสูญหายไปในลักษณะเดียวกันนี้และเหตุเกิดในพื้นที่ใกล้เคียงกัน คือ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่ทำการสืบสวนโดยสอบสวนผู้เสียหายถึงตำหนิรูปพรรณและพฤติกรรมของคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากเหยื่อที่รอดชีวิตให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุมีการชักชวนให้แวะจอดรถเพื่อพักซื้อเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันระหว่างเส้นใกล้กับ อ.ชะอำ
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต้องสงสัยก็พบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งผู้เสียหายที่รอดชีวิตได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะคดีฆ่า นายสมศักดิ์ ศรีจำปา คนขับรถกระบะรับจ้าง เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ต.คอลงวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้นชุดสืบสวนพบภาพกล้องวงจรปิดยืนยันว่าคนร้ายขับขี่รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ตน 8513 กทม.ของผู้ตายไป ประกอบกับการตรวจสอบทางเทคโนโลยีจนสามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายนิรุต หรือ จำลอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในคดีฆ่านางยุพิน จอนเข็ม และชิงรถกระบะพร้อมทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปโดยมีการบิดบังอำพรางศพโดยผูกศพกับก้อนอิฐถ่วงน้ำในเขื่อนลำปาว อ.หนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเดือน ม.ค.2554 ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุม
จากการสอบสวน นายนิรุต ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพขับรถรับจ้างขนผลไม้จากทั่วประเทศให้มาส่งยังตลาดไท และได้รู้จักกับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีการสั่งรถกระบะมาให้ตนขโมยให้จึงวางแผนด้วยการสวมรอยเป็นลูกค้าติดต่อรถกระบะรับจ้างทั่วไปตามที่ต่างๆ ที่มีการติดประกาศเบอร์โทร.ติดต่อไว้ก็จะสุ่มโทร.ไปหาอ้างว่าจะจ้างให้ไปขนของในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากมีความชำนาญในเส้นทาง เมื่อคนขับรถกระบะรับจ้างหลงเชื่อก็จะนัดให้มารับเพื่อเดินทางไปด้วยกัน ระหว่างทางตนก็จะทำทีให้จอดแวะพักซื้อเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่คนขับรถก็จะดื่มกาแฟ โดยแวะไปตามร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมัน และจะอาสาให้บริการไปซื้อมาให้ เมื่อได้เครื่องดื่มมาแล้วก็จะนำยาฆ่าแมลงที่แบ่งใส่ถุงพลาสติกมาแล้วตักใส่ผสมในเครื่องดื่มดังกล่าวให้คนขับรถกระบะรับจ้างดื่ม
นายนิรุต ยังรับอีกว่า หลังจากคนขับเกิดอาการมึนเมาจนหักรถเข้าข้างทาง และสลบไปตนก็จะลากไปข้างๆ เพื่อมาขับแทน จากนั้นจะขับรถไปยังที่ลับตาคนเพื่อทิ้งคนขับรถไว้ตามพงหญ้าหรือป่าข้างทาง โดยจะขโมยทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดที่คนขับรถติดตัวมาและนำรถยนต์กระบะไปขายให้แก๊งโจกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยเงินที่ได้มาคันละประมาณ 5 หมื่นบาทนั้นก็จะนำมาใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว ทั้งนี้สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงินแต่ช่วงที่ลงมือนั้นไม่คิดว่าจะถึงแก่ชีวิตแต่คนขับบางรายดื่มกาแฟจนหมดแก้วจึงทำให้เสียชีวิตได้ซึ่งบางรายก็จำไม่ได้ว่านำไปทิ้งไว้จุดใดเพราะเป็นช่วงเวลากลางดึก
ด้าน นายสมบัติ สืบเชื้อ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/40 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ บิดานายวัชระ สืบเชื้อ อายุ 23 ปี ซึ่งถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกพาไปฆ่าชิงทรัพย์รถยนต์กระบะ และยังหาศพไม่พบ กล่าวว่า ลูกชายกับตนขับรถรับจ้างทั่วไป ปกติจอดอยู่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ โดยในวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายขับรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ถฉ 1822 กทม.ไปหาลูกค้าที่ติดต่อว่าจ้างให้นำรถเปล่าขึ้นขนของที่ จ.ชุมพร โดยลูกค้าบอกว่าต้องการรถที่มีที่นั่งด้านหลังซึ่งรถของตนก็มีพอดีแต่ช่วงนั้นติดงานอยู่ เมื่อลูกค้ารอไม่ได้ลูกชายตนจึงขับรถไปแทน โดยขับไปรับลูกค้าจากบางบัวทองซึ่งเมื่อไปถึงจุดนัดพบก็โทรติดต่อกับลูกชายอยู่ทราบว่ากำลังออกจากปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไปยัง อ.หลังสวน จ.ชุมพร
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ก็ไม่มีการติดต่อกันอีกเลย เพราะคิดว่าไม่มีอะไร แต่ทราบจากแฟนลูกชาย ว่า มีการติดต่อกันครั้งสุดท้ายเมื่อลูกชายขับรถไปปราณบุรีและจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ช่วงนั้นคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกระทั่งถึงวันที่ 5 ม.ค.ก็ยังติดต่อไม่ได้อีกจึงโทรติดต่อไปยังลูกค้าที่ติดต่อมาซึ่งก็ไม่รับสาย บางครั้งก็ปิดเครื่อง ด้วยความกังวลใจจึงไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง และออกตามหาตามมูลนิธิต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องใดๆ จนได้ทราบข่าวจากตำรวจกองปราบปรามว่ามีการจับกุมคนร้ายได้จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะต้องการทราบว่าคนร้ายนำศพลูกชายไปทิ้งไว้ที่ไหนเพื่อจะได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล
ส่วน นายไพฑูรย์ ปัตตาโพธิ์ อายุ 33 ปี เหยื่อที่รอดชีวิต กล่าวว่า ขับรถกระบะรับจ้างอยู่ย่านศรีนครินทร์ โดยวันที่ 28 ม.ค.ได้รับโทรศัพท์จากผู้ต้องหาให้ไปรับลูกที่ปราณบุรีในราคา 4,500 บาท เมื่อตกลงกันแล้วก็ไปรับผู้ต้องหาที่ ซ.รามคำแหง 46 และเดินทางไปด้วยกันจนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ อ.ชะอำ คนร้ายได้ชวนแวะซื้อกาแฟที่ร้านสะดวกซื้อโดยเป็นผู้ลงไปซื้อให้ก็ไม่ได้เอะใจใดๆ และจิบไป 3 ครั้งก็รู้สึกว่ารสชาติขมผิดปกติแต่ผ่านไปไม่กี่นาทีก็รู้สึกตัวชา ขากระตุก จึงรีบขับรถเข้าข้างทาง ทันใดนั้นก็หมดสติไปมาฟื้นรู้สึกตัวอีกครั้งตอนรุ่งสาง โดยอยู่ในสภาพนอนอยู่ในป่าอ้อยในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยถูกขโมยทรัพย์สินและรถยนต์กระบะไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกโชคดีมากที่ผ่านเคราะห์ร้ายมาได้
สำหรับเหยื่อที่ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุนั้นมีทั้งหมด 9 คน เสียชีวิต 4 คน รอดมาได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนยังสูญหาย โดยคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด ประกอบด้วย 1.คดีฆ่า นางยุพิน จอนเข็ม อายุ 67 ปี ที่ จ.กาฬสินธุ์ ถูกออกหมายจับแล้ว 2.คดีชิงทรัพย์รถยนต์กระบะของ นายมนตรี กาลาม เมื่อเดือนมีนาคม 2554 นายสมศักดิ์ ศรีจำปา พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง นายมนตรี รอดชีวิตมาได้
3.คดีชิงทรัพย์รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ ของ นายรอบ รอแคว้น โดยนำร่าง นายรอบ ไปทิ้งไว้ในสวนปาล์ม ใกล้ป้อมตำรวจทางหลวง ถนนเส้นทางระหว่าง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวนายรอบ
4.คดีชิงทรัพย์รถกระบะของ นายวัชระ สืบเชื้อ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยนำตัวนายวัชระไปทิ้วไว้ข้างถนนเพชรเกษม บริเวณคอสะพานระหว่าง อ.หลังสวน และ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ขณะนี้ยังไม่พบร่างนายวัชระ 5.คดีชิงทรัพย์รถกระบะของ นายเจริญ ดาราน้อย เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยถูกวางยานอนหลับแต่นายเจริญรู้ตัวว่าถูกวางยาจึงไล่ผู้ต้องหาลงรถแล้วรีบขับรถออกไปทำให้รอดชีวิตมาได้
6.คดีชิงทรัพย์รถกระบะของนายไพฑูรย์ ปัตตาลาโพธิ์ เมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยวางยาฆ่าแมลงก่อนนำร่างนายไพฑูรย์ ไปทิ้งไร่อ้อย อ.ชะอำ แต่โชคดีที่นายไพฑูรย์ รอดชีวิตมาได้ 7.คดีชิงทรัพย์รถกระบะของ นายจุลศิล สลางสิงห์ โดยวางยาฆ่าแมลงจนนายจุลศิลเสียชีวิตโดยพบศพในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
8.คดีชิงทรัพย์รถกระบะ นายจำนงค์ ศรีระชาติ โดยครั้งนี้ผู้ต้องหาพาภรรยาไปด้วย เมื่อวางยาแล้วนำตัวไปทิ้งไว้ใกล้แยกปฐมพร อ.เมือง จ.ชุมพร ส่วนคดีสุดท้าย คดีที่ 9 คือ คดีฆ่านายสมศักดิ์ ศรีจำปา ท้องที่ สภ.คลองวาฬ ที่มีการออกหมายจับไว้แล้ว
ภายหลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.คลองวาฬ ดำเนินคดี และจัดชุดสืบสวนประสานแต่ละท้องที่เกิดเหตุสอบสวนขยายผลเพื่อหาตัวเหยื่อที่ยังสูญหายอีก 2 ราย และขยายผลจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อไป