00 วันนี้ (13 เม.ย.) ถือว่าเป็นวันสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย ขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความสุขกันตามอัตภาพ แบบพอเพียง พอมีพอกิน จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อสภาพการณ์รอบตัวเป็นแบบนี้ก็ต้องอดทน หนักแน่นกันไว้ให้มากที่สุด และหวังว่าความเลวร้ายต่างๆ จะค่อยๆผ่านพ้นไปหากพวกเรามีสติ และรู้จักคิด มีเหตุผล โชคดี สุขภาพแข็งแรงครับ !!
00 อย่างไรก็ดี ช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยปีนี้ก็มีเรื่องให้ต้องอกสั่นขวัญแขวน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่บริเวณหัวเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ซึ่งก็ใกล้กับจุดเดิม และแรงสั่นสะเทือนก็ใกล้เคียงกัน อาจจะน้อยกว่า แต่ไม่มากนัก 8.9 หรือ 8.6 และด้วยภาพหลอนเมื่อ 7-8 ปีก่อน เรื่องคลื่นยักษ์สึนามิ มันก็ทำให้คนต้องแตกตื่น หนีตายกันอลหม่าน อย่างไรก็ดี ด้วยในยุคปัจจุบันระบบการสื่อสาร และข่าวสารที่รวดเร็ว สามารถรับรู้ถึงคำเตือนออกมาจาก “ต่างประเทศ” โดยเฉพาะศูนย์เตือนภัยแปซิฟิก รัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ และด้วยระยะห่างไกลออกไป ทำให้เราพอมีเวลานับชั่วโมง วิ่งหนีได้ทัน
00 ต้องย้ำว่าเหตุการณ์ระทึกขวัญดังกล่าวที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าคนไทยรู้ตัว และรับรู้ข่าวสารอย่างทันท่วงทีและเป็นระยะ จากหน่วยงานเตือนภัยต่างชาติ และที่สำคัญก็คือ โชคดีที่ไม่เกิดคลื่นยักษ์ตามมา เพราะถ้าเกิดเหตุลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกันว่ามันจะเสียหายขนาดไหน เพราะพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติธรรมชาติคราวใด ก็ยังไม่อาจพึ่งพารัฐบาลได้อีกเช่นเคย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุผ่านมานานนับชั่วโมง แต่กลับไม่ได้ยินการเตือนภัยออกมาอย่างเป็นทางการจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติของไทยทางโทรทัศน์แม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่เห็นหัว รมว.ไอซีที ที่รับผิดชอบ อย่าง นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ออกมาแจ้งข่าวสาร เพิ่งมาโผล่เอาตอนที่เขาเลิกกันไปแล้ว ชาวบ้านเขาฟังรายงานข่าวที่อ้าง ศูนย์เตือนภัยแปซิฟิก ที่ฮาวาย ประกาศยกเลิกเตือนภัยผ่านไปกว่าชั่วโมง
00 นี่ขนาดไม่เกิดคลื่นยักษ์ ยังโกลาหลกันขนาดนี้ และในขณะเกิดเหตุ เราก็ได้เห็นความ “ห่วยแตก” ไม่ประสีประสาของคนที่เป็นผู้นำอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะขนาดเป็นเรื่องฉุกเฉิน ยังต้องมีการอัดเทปเสียก่อน แทนที่จะแถลงสด ซึ่งอ่านตามสคริปต์ก็ได้ แต่ด้วยความที่ไร้ความสามารถเกรงจะปล่อยไก่กลางอากาศ ก็ต้องอัดเทป เพราะถ้าอ่านผิดก็สามารถอ่านใหม่ได้ แต่ก็จนแล้วจนรอดนั่นแหละ ก็ยังอ่านแบบคนไม่รู้ เช่น สคริปต์เขียนว่า เวลา 15.38 น. เธอก็อ่านไปตามนั้นคือ “สิบห้าจุดสามแปดนอ” หน้าตาเฉย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ปัญหาอยู่ตรงที่ความล่าช้า เพราะเวลาที่นายกฯแถลงเตือนภัยอยู่นั้น เวลา 19.29 น. หลังเกิดเหตุในเวลาบ่าย ขณะเดียวกันที่แถลงเตือนนั้นทางศูนย์เตือนภัยต่างประเทศ ก็ได้แจ้งยกเลิกเตือนภัยแล้ว สรุปก็คือ ของเรานายกฯ อาจมัวแต่เซ็ตเสื้อผ้าหน้าผม หรือท่องสคริปต์อยู่ก็ได้ และคราวนี้เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่พิสูจน์ให้เห็นชัดได้เลยว่าเราไม่อาจพึ่งพานายกฯ แบบนี้ได้เลย
00 ในที่สุดอาจจะเป็นเรื่องแผ่นดินไหวดังกล่าวเป็นองค์ประกอบด้วยหรือเปล่าไม่อาจทราบได้ แต่ก็ทำให้การ “ชำเรา” รธน. เพื่อสนองความอยากของ ทักษิณ ชินวัตร ต้องเลื่อนเวลาออกไปหลังสงกรานต์ และมีการลงมติเสร็จสรรพเอาราววันที่ 8 พ.ค.โน่น และเมื่อพิจารณาตามตารางเวลา กว่าจะมี ส.ส.ร. มายกร่าง กว่าจะมีการลงประชามติ แม้จะรวบรัดอย่างไรก็ต้องใช้เวลาลากยาวไปจนถึงกลางปีหน้า และเที่ยวนี้บรรดาลูกสมุนทั้งหลาย ที่หวังทำผลงานไปเอาหน้าที่ ลาว-เขมร ก็ต้องแห้วกันไปตามระเบียบ ก็น่าเห็นใจ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ แม้จะทำน่าเกลียดอย่างไร แต่ก็ยังลากไม่เสร็จจนได้
00 ดังนั้น มันก็ยังสงสัยไม่หายว่า แม้ว จะกลับไทยได้อย่างไรในปีนี้ เพราะที่โม้รับปากกับพวกสมุนลิ่วล้อที่ไปรดน้ำดำหัวทั้งที่ ลาว และสไกป์ข้ามโขงมาฝั่งไทยว่า “จะกลับมาอย่างเท่” นั้นจะมาได้อย่างไร เพราะแม้ว่าจะมีอีกกรณีหนึ่งคือ “หักคอ” ออกพ.ร.บ.นิรโทษฯ มันก็น่าเกลียดเพราะถ้าผลออกมาให้ ทักษิณ พ้นผิด ลบล้างคำพิพากษารับรองว่า ถ้าออกมาแบบนี้ไม่เท่แน่นอน มีหวังโดนรุมเหยียบจมดินแน่ ไม่เชื่อลองดู ถ้าให้วิเคราะห์ท่าทีของเขาเที่ยวนี้ ก็เป็นเพียงแค่การ “สร้างกระแสมวลชน” เอาไว้อยู่กับตัวไม่ให้ฝ่อลงไปเท่านั้น !!
00 อย่างไรก็ดี ช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยปีนี้ก็มีเรื่องให้ต้องอกสั่นขวัญแขวน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่บริเวณหัวเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ซึ่งก็ใกล้กับจุดเดิม และแรงสั่นสะเทือนก็ใกล้เคียงกัน อาจจะน้อยกว่า แต่ไม่มากนัก 8.9 หรือ 8.6 และด้วยภาพหลอนเมื่อ 7-8 ปีก่อน เรื่องคลื่นยักษ์สึนามิ มันก็ทำให้คนต้องแตกตื่น หนีตายกันอลหม่าน อย่างไรก็ดี ด้วยในยุคปัจจุบันระบบการสื่อสาร และข่าวสารที่รวดเร็ว สามารถรับรู้ถึงคำเตือนออกมาจาก “ต่างประเทศ” โดยเฉพาะศูนย์เตือนภัยแปซิฟิก รัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ และด้วยระยะห่างไกลออกไป ทำให้เราพอมีเวลานับชั่วโมง วิ่งหนีได้ทัน
00 ต้องย้ำว่าเหตุการณ์ระทึกขวัญดังกล่าวที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าคนไทยรู้ตัว และรับรู้ข่าวสารอย่างทันท่วงทีและเป็นระยะ จากหน่วยงานเตือนภัยต่างชาติ และที่สำคัญก็คือ โชคดีที่ไม่เกิดคลื่นยักษ์ตามมา เพราะถ้าเกิดเหตุลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกันว่ามันจะเสียหายขนาดไหน เพราะพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติธรรมชาติคราวใด ก็ยังไม่อาจพึ่งพารัฐบาลได้อีกเช่นเคย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุผ่านมานานนับชั่วโมง แต่กลับไม่ได้ยินการเตือนภัยออกมาอย่างเป็นทางการจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติของไทยทางโทรทัศน์แม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่เห็นหัว รมว.ไอซีที ที่รับผิดชอบ อย่าง นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ออกมาแจ้งข่าวสาร เพิ่งมาโผล่เอาตอนที่เขาเลิกกันไปแล้ว ชาวบ้านเขาฟังรายงานข่าวที่อ้าง ศูนย์เตือนภัยแปซิฟิก ที่ฮาวาย ประกาศยกเลิกเตือนภัยผ่านไปกว่าชั่วโมง
00 นี่ขนาดไม่เกิดคลื่นยักษ์ ยังโกลาหลกันขนาดนี้ และในขณะเกิดเหตุ เราก็ได้เห็นความ “ห่วยแตก” ไม่ประสีประสาของคนที่เป็นผู้นำอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะขนาดเป็นเรื่องฉุกเฉิน ยังต้องมีการอัดเทปเสียก่อน แทนที่จะแถลงสด ซึ่งอ่านตามสคริปต์ก็ได้ แต่ด้วยความที่ไร้ความสามารถเกรงจะปล่อยไก่กลางอากาศ ก็ต้องอัดเทป เพราะถ้าอ่านผิดก็สามารถอ่านใหม่ได้ แต่ก็จนแล้วจนรอดนั่นแหละ ก็ยังอ่านแบบคนไม่รู้ เช่น สคริปต์เขียนว่า เวลา 15.38 น. เธอก็อ่านไปตามนั้นคือ “สิบห้าจุดสามแปดนอ” หน้าตาเฉย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ปัญหาอยู่ตรงที่ความล่าช้า เพราะเวลาที่นายกฯแถลงเตือนภัยอยู่นั้น เวลา 19.29 น. หลังเกิดเหตุในเวลาบ่าย ขณะเดียวกันที่แถลงเตือนนั้นทางศูนย์เตือนภัยต่างประเทศ ก็ได้แจ้งยกเลิกเตือนภัยแล้ว สรุปก็คือ ของเรานายกฯ อาจมัวแต่เซ็ตเสื้อผ้าหน้าผม หรือท่องสคริปต์อยู่ก็ได้ และคราวนี้เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่พิสูจน์ให้เห็นชัดได้เลยว่าเราไม่อาจพึ่งพานายกฯ แบบนี้ได้เลย
00 ในที่สุดอาจจะเป็นเรื่องแผ่นดินไหวดังกล่าวเป็นองค์ประกอบด้วยหรือเปล่าไม่อาจทราบได้ แต่ก็ทำให้การ “ชำเรา” รธน. เพื่อสนองความอยากของ ทักษิณ ชินวัตร ต้องเลื่อนเวลาออกไปหลังสงกรานต์ และมีการลงมติเสร็จสรรพเอาราววันที่ 8 พ.ค.โน่น และเมื่อพิจารณาตามตารางเวลา กว่าจะมี ส.ส.ร. มายกร่าง กว่าจะมีการลงประชามติ แม้จะรวบรัดอย่างไรก็ต้องใช้เวลาลากยาวไปจนถึงกลางปีหน้า และเที่ยวนี้บรรดาลูกสมุนทั้งหลาย ที่หวังทำผลงานไปเอาหน้าที่ ลาว-เขมร ก็ต้องแห้วกันไปตามระเบียบ ก็น่าเห็นใจ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ แม้จะทำน่าเกลียดอย่างไร แต่ก็ยังลากไม่เสร็จจนได้
00 ดังนั้น มันก็ยังสงสัยไม่หายว่า แม้ว จะกลับไทยได้อย่างไรในปีนี้ เพราะที่โม้รับปากกับพวกสมุนลิ่วล้อที่ไปรดน้ำดำหัวทั้งที่ ลาว และสไกป์ข้ามโขงมาฝั่งไทยว่า “จะกลับมาอย่างเท่” นั้นจะมาได้อย่างไร เพราะแม้ว่าจะมีอีกกรณีหนึ่งคือ “หักคอ” ออกพ.ร.บ.นิรโทษฯ มันก็น่าเกลียดเพราะถ้าผลออกมาให้ ทักษิณ พ้นผิด ลบล้างคำพิพากษารับรองว่า ถ้าออกมาแบบนี้ไม่เท่แน่นอน มีหวังโดนรุมเหยียบจมดินแน่ ไม่เชื่อลองดู ถ้าให้วิเคราะห์ท่าทีของเขาเที่ยวนี้ ก็เป็นเพียงแค่การ “สร้างกระแสมวลชน” เอาไว้อยู่กับตัวไม่ให้ฝ่อลงไปเท่านั้น !!