ตลาดหลักทรัพย์ฯเผย บจ.ควบรวมไตรมาส1/55 ถึง 17 ดีล 8 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นลักษณะการซื้อหุ้นเพื่อมีอำนาจควบคุมกิจการของบริษัทขนาดใหญ่ใน SET 50 หวังอนาคต บจ.ขนาดกลางเล็กมากขึ้น หลังร่วมมือกับ ก.ล.ต.และหน่วยงานต่างๆ ผลักดัน
นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.)มีการควบรวมกิจการผ่านตลาดทั้งในรูปแบบการซื้อหุ้นของอีกกิจการในสัดส่วนที่ทำให้มีอำนาจควบคุมบริหารจัดการในอีกบริษัท (Share Acquisition) การซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนที่มีสาระสำคัญ (Asset Acquisition) และ การควบกันในไตรมาส1/55 พบว่ามีจำนวน 17 ดีล หรือ 8 บริษัท คิดเป็น 37% ของดีลทั้งหมดของปี 2554 ที่มีจำนวน 46 ดีลหรือ 34 บริษัท มูลค่าดีลรวมกว่า 35,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บจ.ที่มีการควบรวมกันมากกว่า 1 ดีล เช่น บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ที่เติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ (Inorganic Growthแล้ว 4 ดีล โดยการควบรวมที่เกิดขึ้นในไตรมาส1/55 นั้น 88%เ ป็นการควบรวมในรูปแบบ Share Acquisition และที่เหลือเป็นการควบรวมในรูปแบบ Asset Acquisition โดยการควบรวมที่เกิดขึ้น 76% ของดีลที่เกิดขึ้น เป็นการควบรวมของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 ได้แก่ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บมจ. ผลิตไฟฟ้า (EGCO), บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY), ส่วนที่เหลือเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Non-SET 100 ได้แก่ บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS), บมจ.เอสเอ็มซี พาวเวอร์ (SMC) และบมจ. กรุ๊ปลีส (GL)
สำหรับการควบรวมส่วนใหญ่เป็นการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนหมวดอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี และวัสดุก่อสร้าง เหมือนเช่นในปี 54 ซึ่งเป็นการควบรวมกันของกิจการที่อยู่ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดียวกัน (Horizontal Merger and Acquisition) เพื่อเสริมฐานการตลาดให้แข็งแกร่ง เพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯหวังว่าในอนาคต การควบรวมกิจการกระจายตัวในบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กมากขึ้น จะไม่กระจุกตัวในเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้มีการควบรวมกิจการ สร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจให้บริษัทจดทะเบียน โดยการร่วมผลักดันการปฏิรูปกฎหมายผ่าน (ร่าง) พ.ร.บ.การส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุนเพื่อส่งเสริมการควบรวมให้เกิดขึ้นต่อไป
นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.)มีการควบรวมกิจการผ่านตลาดทั้งในรูปแบบการซื้อหุ้นของอีกกิจการในสัดส่วนที่ทำให้มีอำนาจควบคุมบริหารจัดการในอีกบริษัท (Share Acquisition) การซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนที่มีสาระสำคัญ (Asset Acquisition) และ การควบกันในไตรมาส1/55 พบว่ามีจำนวน 17 ดีล หรือ 8 บริษัท คิดเป็น 37% ของดีลทั้งหมดของปี 2554 ที่มีจำนวน 46 ดีลหรือ 34 บริษัท มูลค่าดีลรวมกว่า 35,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บจ.ที่มีการควบรวมกันมากกว่า 1 ดีล เช่น บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ที่เติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ (Inorganic Growthแล้ว 4 ดีล โดยการควบรวมที่เกิดขึ้นในไตรมาส1/55 นั้น 88%เ ป็นการควบรวมในรูปแบบ Share Acquisition และที่เหลือเป็นการควบรวมในรูปแบบ Asset Acquisition โดยการควบรวมที่เกิดขึ้น 76% ของดีลที่เกิดขึ้น เป็นการควบรวมของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 ได้แก่ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บมจ. ผลิตไฟฟ้า (EGCO), บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY), ส่วนที่เหลือเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Non-SET 100 ได้แก่ บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS), บมจ.เอสเอ็มซี พาวเวอร์ (SMC) และบมจ. กรุ๊ปลีส (GL)
สำหรับการควบรวมส่วนใหญ่เป็นการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนหมวดอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี และวัสดุก่อสร้าง เหมือนเช่นในปี 54 ซึ่งเป็นการควบรวมกันของกิจการที่อยู่ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดียวกัน (Horizontal Merger and Acquisition) เพื่อเสริมฐานการตลาดให้แข็งแกร่ง เพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯหวังว่าในอนาคต การควบรวมกิจการกระจายตัวในบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กมากขึ้น จะไม่กระจุกตัวในเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้มีการควบรวมกิจการ สร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจให้บริษัทจดทะเบียน โดยการร่วมผลักดันการปฏิรูปกฎหมายผ่าน (ร่าง) พ.ร.บ.การส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุนเพื่อส่งเสริมการควบรวมให้เกิดขึ้นต่อไป
