ASTVผู้จัดการรายวัน-รัฐคุมเข้มอีกขั้น สกัดซูโดอีเฟดรีนหลุดทำยาบ้า ห้ามร้านขายยาจำหน่ายยาแก้หวัด แก้ปวด ที่มีซูโดฯ ผสม ขีดเส้นส่งคืนผู้ผลิตใน 30 วัน ดีเอสไอลงพื้นที่สอบ ผอ.รพ.หนองกี่ หลังพบยอดซื้อสูงเกินจริง ตำรวจประสานศุลกากรคุมเข้มลักลอบนำเข้า แจกแผ่น เทส คิด ตรวจสอบ
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในการประชุมชี้แจงมาตรการควบคุมซูโดอีเฟดรีนแก่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ตัวแทนจากโรงพยาบาล (รพ.) ของรัฐ เอกชน คลินิก และตัวแทนร้านขายยา ที่โรงแรมรามากาเด้น วานนี้ (4 เม.ย.) ว่า ประกาศกาศควบคุมดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันนี้จนถึงวันที่ 30 พ.ค.2555 โดยกำหนดให้สถานพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และไม่ประสงค์จะมีไว้ในครอบครองยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสม เพื่อการบำบัดรักษา และร้านขายยาทุกแห่ง จะต้องดำเนินการจัดส่งยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมทุกสูตรคืนให้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า
ส่วนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดปริมาณการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 พ.ศ.2555 ก็มีผลบังคับใช้แล้วเช่นกัน มีสาระสำคัญ คือ กรณีการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท ส่วนกรณีการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วเกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท ซึ่งการออกประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเรียบร้อยแล้ว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในประกาศดังกล่าวได้รวมถึงยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน สูตรผสมพาราเซตามอล เข้าไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ อย.ได้ยกเว้นยาสูตรนี้ไว้ ทำให้ยังสามารถจำหน่ายได้ แต่เพื่อให้มาตรการควบคุมได้ผล จึงต้องรวมยาสูตรนี้เข้าไปด้วย ซึ่งหมายความว่าตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป ร้านขายยาทุกแห่งจะไม่สามารถขายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรได้ และให้ส่งคืนไปยังผู้ผลิต ผู้นำเข้า ภายใน 30 วันนับจากนี้ และหากพ้นกำหนด ตรวจพบว่ามีการครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรไม่ว่าสูตรใด จะมีโทษทั้งจำและปรับ
"กรณีบริษัทผู้ผลิตเพื่อจำหน่าย ผู้ผลิตที่เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 อยู่แล้ว อย. ให้ใช้ได้สำหรับการครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่เป็นยาสำเร็จรูป และจะมีการรับคืนยาสูตรผสม เฉพาะสูตรผสมพาราเซตามอล จากร้านขายยาและสถานพยาบาลที่ไม่ประสงค์จะขอรับอนุญาตครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พร้อมทั้งต้องรวบรวมปริมาณคงคลังที่ได้รับคืนจากร้านขายยาและสถานพยาบาลทั้งหมด แจ้งกลับมายัง อย. ภายในวันที่ 3 พ.ค. ผู้ผลิตที่ได้รับมอบหมายให้จำหน่ายต้องแก้ไขฉลากให้ถูกต้องตามที่ อย. กำหนด เช่น เพิ่มข้อความ “วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2” ปิดทับเลขทะเบียนตำรับยาเดิม" นพ.พิพัฒน์ กล่าว
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า แม้ว่าในยาสูตรผสมซูโดฯ 1 เม็ด จะมีจำนวนซูโดอีเฟดรีนเกินกว่าจำนวนที่ประกาศกระทรวงฯ กำหนด แต่ในการดำเนินคดีตามกฎหมายจะดูวัตถุประสงค์ของการมีไว้ครอบครอง ไม่ใช่ว่าใครมียาดังกล่าวจะถูกจับทั้งหมด โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ระบุว่าในยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เมื่อนำมาสกัดเป็นสารซูโดอีเฟดรีนบริสุทธิ์จะสามารถนำมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้าได้ถึง 3 เม็ด
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการสอบสวน ผอ.รพ.อุดรธานี จ.อุดรธานีว่า ในส่วนของ ผอ.รายนี้น่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้มอบหมายให้ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เป็นผู้รายงานเข้ามา ซึ่งยืนยันว่าขั้นตอนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างโปร่งใส
***ดีเอสไอบุกบุรีรัมย์สอบซื้อยาเกินจริง
วันเดียวกันนี้ เวลา 15.00 น. นายสมชาย ม้าหาญศึก พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชยะรพ พานิชอัตรา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงพื้นที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ทั้งการสั่งซื้อ ตรวจรับ และการใช้ยาของโรงพยาบาล เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการโรงพยาบาลหนองกี่ มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อของโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด มาจำหน่ายยังร้านขายยาของตัวเอง
นายสมชายกล่าวว่า ผลการตรวจสอบ พบว่า มียอดสั่งซื้อยาแบบชนิดเม็ดเกินอยู่จำนวน 90,000 เม็ด และชนิดน้ำเกิน 1,500 ขวด ซึ่งกรณีดังกล่าวจะต้องสอบสวนเภสัชกรที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งว่าแอบอ้างชื่อ โรงพยาบาลหนองกี่สั่งซื้อยาดังกล่าวมาเพื่อนำไปใช้อะไร และส่งขายที่ไหนบ้าง เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดหรือไม่ หากพบมีการกระทำผิดจริงก็จะเอาผิดทางอาญาต่อไป
***ดึงศุลกากรคุมลักลอบนำเข้าซูโดฯ
ที่กรมศุลกากร พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมประชุมนโยบายและแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าซูโดอีเฟดรีน ไปใช้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตยาเสพติด ครั้งที่ 2/2555
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเพื่อติดตาม การลักลอบนำสารซูโดอีเฟดรีนเข้าประเทศ โดยสารดังกล่าวนั้นผลิตมาจากต่างประเทศ ซึ่งการนำเข้าปกติจะเสียภาษีที่กรมศุลกากร แต่ก็มีการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย และมีการจับกุมมาแล้วหลายครั้ง สำหรับวันนี้มีการมอบชุด เทส คิด จำนวน 250 ชุด เพื่อนำไปใช้ประจำตามด่านกรมศุลกากรทั้งหมด 46 ด่าน เพื่อสกัดกั้นสารดังกล่าว เพราะบางทีเจ้าหน้าที่ อาจขาดความรู้ความชำนาญ ซึ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติงาน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในการประชุมชี้แจงมาตรการควบคุมซูโดอีเฟดรีนแก่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ตัวแทนจากโรงพยาบาล (รพ.) ของรัฐ เอกชน คลินิก และตัวแทนร้านขายยา ที่โรงแรมรามากาเด้น วานนี้ (4 เม.ย.) ว่า ประกาศกาศควบคุมดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันนี้จนถึงวันที่ 30 พ.ค.2555 โดยกำหนดให้สถานพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และไม่ประสงค์จะมีไว้ในครอบครองยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสม เพื่อการบำบัดรักษา และร้านขายยาทุกแห่ง จะต้องดำเนินการจัดส่งยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมทุกสูตรคืนให้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า
ส่วนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดปริมาณการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 พ.ศ.2555 ก็มีผลบังคับใช้แล้วเช่นกัน มีสาระสำคัญ คือ กรณีการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท ส่วนกรณีการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วเกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท ซึ่งการออกประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเรียบร้อยแล้ว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในประกาศดังกล่าวได้รวมถึงยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน สูตรผสมพาราเซตามอล เข้าไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ อย.ได้ยกเว้นยาสูตรนี้ไว้ ทำให้ยังสามารถจำหน่ายได้ แต่เพื่อให้มาตรการควบคุมได้ผล จึงต้องรวมยาสูตรนี้เข้าไปด้วย ซึ่งหมายความว่าตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป ร้านขายยาทุกแห่งจะไม่สามารถขายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรได้ และให้ส่งคืนไปยังผู้ผลิต ผู้นำเข้า ภายใน 30 วันนับจากนี้ และหากพ้นกำหนด ตรวจพบว่ามีการครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรไม่ว่าสูตรใด จะมีโทษทั้งจำและปรับ
"กรณีบริษัทผู้ผลิตเพื่อจำหน่าย ผู้ผลิตที่เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 อยู่แล้ว อย. ให้ใช้ได้สำหรับการครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่เป็นยาสำเร็จรูป และจะมีการรับคืนยาสูตรผสม เฉพาะสูตรผสมพาราเซตามอล จากร้านขายยาและสถานพยาบาลที่ไม่ประสงค์จะขอรับอนุญาตครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พร้อมทั้งต้องรวบรวมปริมาณคงคลังที่ได้รับคืนจากร้านขายยาและสถานพยาบาลทั้งหมด แจ้งกลับมายัง อย. ภายในวันที่ 3 พ.ค. ผู้ผลิตที่ได้รับมอบหมายให้จำหน่ายต้องแก้ไขฉลากให้ถูกต้องตามที่ อย. กำหนด เช่น เพิ่มข้อความ “วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2” ปิดทับเลขทะเบียนตำรับยาเดิม" นพ.พิพัฒน์ กล่าว
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า แม้ว่าในยาสูตรผสมซูโดฯ 1 เม็ด จะมีจำนวนซูโดอีเฟดรีนเกินกว่าจำนวนที่ประกาศกระทรวงฯ กำหนด แต่ในการดำเนินคดีตามกฎหมายจะดูวัตถุประสงค์ของการมีไว้ครอบครอง ไม่ใช่ว่าใครมียาดังกล่าวจะถูกจับทั้งหมด โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ระบุว่าในยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เมื่อนำมาสกัดเป็นสารซูโดอีเฟดรีนบริสุทธิ์จะสามารถนำมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้าได้ถึง 3 เม็ด
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการสอบสวน ผอ.รพ.อุดรธานี จ.อุดรธานีว่า ในส่วนของ ผอ.รายนี้น่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้มอบหมายให้ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เป็นผู้รายงานเข้ามา ซึ่งยืนยันว่าขั้นตอนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างโปร่งใส
***ดีเอสไอบุกบุรีรัมย์สอบซื้อยาเกินจริง
วันเดียวกันนี้ เวลา 15.00 น. นายสมชาย ม้าหาญศึก พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชยะรพ พานิชอัตรา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงพื้นที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ทั้งการสั่งซื้อ ตรวจรับ และการใช้ยาของโรงพยาบาล เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการโรงพยาบาลหนองกี่ มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อของโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด มาจำหน่ายยังร้านขายยาของตัวเอง
นายสมชายกล่าวว่า ผลการตรวจสอบ พบว่า มียอดสั่งซื้อยาแบบชนิดเม็ดเกินอยู่จำนวน 90,000 เม็ด และชนิดน้ำเกิน 1,500 ขวด ซึ่งกรณีดังกล่าวจะต้องสอบสวนเภสัชกรที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งว่าแอบอ้างชื่อ โรงพยาบาลหนองกี่สั่งซื้อยาดังกล่าวมาเพื่อนำไปใช้อะไร และส่งขายที่ไหนบ้าง เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดหรือไม่ หากพบมีการกระทำผิดจริงก็จะเอาผิดทางอาญาต่อไป
***ดึงศุลกากรคุมลักลอบนำเข้าซูโดฯ
ที่กรมศุลกากร พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมประชุมนโยบายและแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าซูโดอีเฟดรีน ไปใช้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตยาเสพติด ครั้งที่ 2/2555
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเพื่อติดตาม การลักลอบนำสารซูโดอีเฟดรีนเข้าประเทศ โดยสารดังกล่าวนั้นผลิตมาจากต่างประเทศ ซึ่งการนำเข้าปกติจะเสียภาษีที่กรมศุลกากร แต่ก็มีการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย และมีการจับกุมมาแล้วหลายครั้ง สำหรับวันนี้มีการมอบชุด เทส คิด จำนวน 250 ชุด เพื่อนำไปใช้ประจำตามด่านกรมศุลกากรทั้งหมด 46 ด่าน เพื่อสกัดกั้นสารดังกล่าว เพราะบางทีเจ้าหน้าที่ อาจขาดความรู้ความชำนาญ ซึ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติงาน
