เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้ ( 30มี.ค. ) ที่ร.ร.มิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการตั้งบูธขายจานดาวเทียม บลูสกาย และรับสมัครสมาชิกข่าว SMS ผ่านทางมือถือของทีนิวส์
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.54 และการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้พรรคมีสมาชิกทั้งหมด 2,879,117 คน
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการแก้ไขข้อบังคับพรรค ตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบใน 2 ข้อหลัก คือ คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยตามข้อบังคับในปัจจุบันมีกรรมการเพียง 9 คน ทางคณะกรรมการฯเห็นว่าสามารถดึงบุคลากรภายในพรรคเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น จึงเสนอแก้ไขข้อบังคับให้มีจำนวน 15 คน ซึ่งเมื่อสมาชิกเห็นชอบ ต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรอง
จากนั้นสมาชิกได้ทำการลงคะแนนลับ เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการ 3 คณะ คือ คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ 9 คน ประกอบด้วย 1.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 3.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน 4.นายกรณ์ จาติกวณิช 5.นายอลงกรณ์ พลบุตร 6.นายนิพนธ์ บุญญามณี 7.นายถาวร เสนเนียม 8.นายวิฑูรย์ นามบุตร และ 9.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู
คณะกรรมนโยบายพรรคจำนวน 15 คน ประกอบด้วย 1.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ 3.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 4.นายเกียรติ สิทธีอมร 5.นายชำนิ ศักดิเศรษฐ 6.นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค 7. ดร.ผุสดี ตามไท 8.นายศุภชัย ศรีหล้า 9.นายกนก วงศ์ตระหง่าน 10. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม 11.นายสรรเสริญ สมะลาภา 12.นายสาธิต ปิตุเตชะ 13.นายพีรยศ ราฮิมมูลา 14.นายนราพัฒน์ แก้วทอง และ15.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค 9 คน ประกอบด้วย 1.นายวิทยา แก้วภราดัย 2. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช 3. นายอาคม เอ่งฉ้วน 4. นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ 5. นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร 6. นางอานิก อัมระนันทน์ 7. นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร 8. นายณัฐ บรรทัดฐาน และ 9. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ
อย่างไรก็ตามในวันที่ 31 มี.ค. พรรคประชาธิปัตย์ จะจัดประชุมตัวแทนกลุ่มสมัชชาประชาชน ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี และในเวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ และวิสัยทัศน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการทำงานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงยุทธศาสตร์พรรคหลังการประชุมใหญ่สามัญว่า จะมีการเริ่มต้นในการทำสมัชชาพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะมีการประกาศแนวทางต่อไป โดยการหารือในครั้งนี้ จะระดมความคิดเห็นของประชาชน เพื่ออนาคตของประเทศ เพราะขณะนี้คนจำนวนมากทราบดีว่า เราอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะการเมืองกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ เป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจอย่างเดียว แต่ปัญหาเศรษฐกิจถูกทิ้งไว้ รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระดับโครงสร้าง ก็ไมได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะหารือถึงการออกแบบประเทศไทย เพื่อให้เห็นว่าอนาคตของประเทศไทยที่ควรจะเป็นเป็นอย่างไรเพื่อนำไปสู่การเดินหน้าร่วมกัน
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้รายงานยุทธศาสตร์พรรคว่า ใน4 ปี นับแต่ปี 2555-2558 จะมีการดำเนินยุทธศาสตร์ 15 ข้อ เพื่อทำให้พรรคมีบทบาทในเวทีสากล และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วประเทศ สามารถเอาชนะการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากในสภา เพื่อเป็นรัฐบาลนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยการพัฒนาฐานสนับสนุนพรรคให้มั่นคง ดังนี้ คือ
1. สมาชิกพรรคมีอุดมการณ์ เข้มแข็ง ทุ่มเทรับใช้พรรค โดยจะขยายฐานสมาชิก 2. ขยายแนวร่วมทางการเมือง มุ่งเป้าไปยังสาขาอาชีพต่าง ๆ 3. สาขาพรรคเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ เพื่อรับภาระงานการเมืองในเขตพื้นที่ 4. ระดมความคิดในแนวทาง เครือข่ายสมัชชาประชาชน-ประชาธิปัตย์ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน ยืนหยัดรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5. ท้องถิ่นเข้มแข็ง ประชาธิปไตยมั่นคง 6. จัดกลุ่มจังหวัดเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานการเมืองของพรรค 7. พรรคเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 8. พรรคของมวลชนที่มีฐานการเงินมั่นคง ให้มีคณะกรรมการบริหารเงินทุนและมีหน่วยงานเฉพาะ ทำหน้าที่รณรงค์ระดมทุนหารายได้เข้าสู่พรรคโดยวิธีการถูกต้อง เปิดเผย โปร่งใส โดยคณะกรรมการฯ ดังกล่าว เป็นผู้วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุน หารายได้จากการสนับสนุนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง
9. การประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเป็นระบบ เน้นบทบาทผลงานของพรรค ทิศทางการแก้ปัญหาของประชาชน ที่เรียกว่า “วาระประชาชน” 10. เตรียมความพร้อมเพื่อการเลือกตั้งทั่วไป จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง มีแผนระยะสั่น กลางและยาว เตรียมความพร้อมของผู้สมัคร การทำงบประมาณการเลือกตั้งและอื่น ๆ 11. พรรคเข้มแข็งมีประสิทธิภาพเป็นที่พึ่งของประชาชน 12. ส่งเสริมความรร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระดับนานาชาติ 13. นโยบายพรรคทันสมัย พร้อมเป็นรัฐบาลที่ดี 14. ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค สนับสนุนการเมืองภาคประชาชน และ 15. องค์กรพรรคเข้มแข็ง พรรคแข็งแรง
ส่วนแผนการใช้จ่ายเงินปี 2556 นั้น ทางพรรคมีแผนการใช้จ่ายเงินตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวรวม 151 ล้านบาท เพื่อจัดอบรมสมาชิกพรรค ยุวประชาธิปัตย์ พัฒนาสาขาพรรค รวมถึงการจัดโครงการสมัชชาประชาชนที่จะมีขึ้นที่เมืองทองธานี สำหรับงบประมาณที่ใช้มากที่สุดจะเน้นหนักที่แผนการดำเนินงานการพัฒนาสาขาพรรคให้เข้มแข็ง วงเงิน 35.2 ล้านบาท ในส่วนการขยายฐานสมาชิกพรรควงเงิน 22 ล้านบาท และยังมีแผนงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์อีก 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.54 และการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้พรรคมีสมาชิกทั้งหมด 2,879,117 คน
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการแก้ไขข้อบังคับพรรค ตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบใน 2 ข้อหลัก คือ คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยตามข้อบังคับในปัจจุบันมีกรรมการเพียง 9 คน ทางคณะกรรมการฯเห็นว่าสามารถดึงบุคลากรภายในพรรคเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น จึงเสนอแก้ไขข้อบังคับให้มีจำนวน 15 คน ซึ่งเมื่อสมาชิกเห็นชอบ ต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรอง
จากนั้นสมาชิกได้ทำการลงคะแนนลับ เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการ 3 คณะ คือ คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ 9 คน ประกอบด้วย 1.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 3.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน 4.นายกรณ์ จาติกวณิช 5.นายอลงกรณ์ พลบุตร 6.นายนิพนธ์ บุญญามณี 7.นายถาวร เสนเนียม 8.นายวิฑูรย์ นามบุตร และ 9.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู
คณะกรรมนโยบายพรรคจำนวน 15 คน ประกอบด้วย 1.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ 3.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 4.นายเกียรติ สิทธีอมร 5.นายชำนิ ศักดิเศรษฐ 6.นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค 7. ดร.ผุสดี ตามไท 8.นายศุภชัย ศรีหล้า 9.นายกนก วงศ์ตระหง่าน 10. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม 11.นายสรรเสริญ สมะลาภา 12.นายสาธิต ปิตุเตชะ 13.นายพีรยศ ราฮิมมูลา 14.นายนราพัฒน์ แก้วทอง และ15.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค 9 คน ประกอบด้วย 1.นายวิทยา แก้วภราดัย 2. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช 3. นายอาคม เอ่งฉ้วน 4. นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ 5. นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร 6. นางอานิก อัมระนันทน์ 7. นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร 8. นายณัฐ บรรทัดฐาน และ 9. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ
อย่างไรก็ตามในวันที่ 31 มี.ค. พรรคประชาธิปัตย์ จะจัดประชุมตัวแทนกลุ่มสมัชชาประชาชน ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี และในเวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ และวิสัยทัศน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการทำงานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงยุทธศาสตร์พรรคหลังการประชุมใหญ่สามัญว่า จะมีการเริ่มต้นในการทำสมัชชาพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะมีการประกาศแนวทางต่อไป โดยการหารือในครั้งนี้ จะระดมความคิดเห็นของประชาชน เพื่ออนาคตของประเทศ เพราะขณะนี้คนจำนวนมากทราบดีว่า เราอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะการเมืองกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ เป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจอย่างเดียว แต่ปัญหาเศรษฐกิจถูกทิ้งไว้ รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระดับโครงสร้าง ก็ไมได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะหารือถึงการออกแบบประเทศไทย เพื่อให้เห็นว่าอนาคตของประเทศไทยที่ควรจะเป็นเป็นอย่างไรเพื่อนำไปสู่การเดินหน้าร่วมกัน
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้รายงานยุทธศาสตร์พรรคว่า ใน4 ปี นับแต่ปี 2555-2558 จะมีการดำเนินยุทธศาสตร์ 15 ข้อ เพื่อทำให้พรรคมีบทบาทในเวทีสากล และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วประเทศ สามารถเอาชนะการเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากในสภา เพื่อเป็นรัฐบาลนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยการพัฒนาฐานสนับสนุนพรรคให้มั่นคง ดังนี้ คือ
1. สมาชิกพรรคมีอุดมการณ์ เข้มแข็ง ทุ่มเทรับใช้พรรค โดยจะขยายฐานสมาชิก 2. ขยายแนวร่วมทางการเมือง มุ่งเป้าไปยังสาขาอาชีพต่าง ๆ 3. สาขาพรรคเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ เพื่อรับภาระงานการเมืองในเขตพื้นที่ 4. ระดมความคิดในแนวทาง เครือข่ายสมัชชาประชาชน-ประชาธิปัตย์ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน ยืนหยัดรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5. ท้องถิ่นเข้มแข็ง ประชาธิปไตยมั่นคง 6. จัดกลุ่มจังหวัดเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานการเมืองของพรรค 7. พรรคเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 8. พรรคของมวลชนที่มีฐานการเงินมั่นคง ให้มีคณะกรรมการบริหารเงินทุนและมีหน่วยงานเฉพาะ ทำหน้าที่รณรงค์ระดมทุนหารายได้เข้าสู่พรรคโดยวิธีการถูกต้อง เปิดเผย โปร่งใส โดยคณะกรรมการฯ ดังกล่าว เป็นผู้วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุน หารายได้จากการสนับสนุนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง
9. การประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเป็นระบบ เน้นบทบาทผลงานของพรรค ทิศทางการแก้ปัญหาของประชาชน ที่เรียกว่า “วาระประชาชน” 10. เตรียมความพร้อมเพื่อการเลือกตั้งทั่วไป จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง มีแผนระยะสั่น กลางและยาว เตรียมความพร้อมของผู้สมัคร การทำงบประมาณการเลือกตั้งและอื่น ๆ 11. พรรคเข้มแข็งมีประสิทธิภาพเป็นที่พึ่งของประชาชน 12. ส่งเสริมความรร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระดับนานาชาติ 13. นโยบายพรรคทันสมัย พร้อมเป็นรัฐบาลที่ดี 14. ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค สนับสนุนการเมืองภาคประชาชน และ 15. องค์กรพรรคเข้มแข็ง พรรคแข็งแรง
ส่วนแผนการใช้จ่ายเงินปี 2556 นั้น ทางพรรคมีแผนการใช้จ่ายเงินตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวรวม 151 ล้านบาท เพื่อจัดอบรมสมาชิกพรรค ยุวประชาธิปัตย์ พัฒนาสาขาพรรค รวมถึงการจัดโครงการสมัชชาประชาชนที่จะมีขึ้นที่เมืองทองธานี สำหรับงบประมาณที่ใช้มากที่สุดจะเน้นหนักที่แผนการดำเนินงานการพัฒนาสาขาพรรคให้เข้มแข็ง วงเงิน 35.2 ล้านบาท ในส่วนการขยายฐานสมาชิกพรรควงเงิน 22 ล้านบาท และยังมีแผนงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์อีก 20 ล้านบาท