xs
xsm
sm
md
lg

"คาโอ"ปัดฝุ่น"แอทแทค" ทุ่มงบ500ล.เบียดคู่แข่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คาโอ ปัดฝุ่นแอทแทค ทุ่ม 500 ล้านบาท ส่งสูตรเข้มข้นใหม่ชิงผู้นำอับดับ2ถาวร หลังสลับขึ้นลง ที่ 2 และ 3 ตลอดมา พร้วมควงแขน“เคน –ธีรเดช” ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ มั่นใจคว้าแชร์ไม่ต่ำกว่า 20% ส่งรายได้รวมคาโอโตอีก 10% จาก 11,000 ล้านบาทของปีก่อน

นายโคโซ ไซโต ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาโอ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผงซักฟอก “แอทแทค” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผงซักฟอกมูลค่า 15,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกราว 4-5% มาจากกลุ่มสูตรเข้มข้นเป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมานิยมซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้ามากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ผงซักฟอกจากเดิมใช้แบบมาตรฐานสู่แบบเข้มข้นตามไปด้วย

ในส่วนของแอทแทค ปัจจุบัน มีสัดส่วนยอดขายระหว่างสูตรมาตราฐานที่ 60% และสูตรเข้มข้นอยู่ที่ 60% ซึ่งในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับลูตรเข้มข้น พร้อมหวังสัดส่วนในสูตรเข้มข้นเป็น 60% และมาตราฐานเป็น 40% โดยล่าสุดทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท สำหรับการทำการตลาด และการเปิดตัว ผงซักฟอก แอทแทคสูตรใหม่ “ แอทแทค ทรีดี คลีน แอ็คชั่น” พร้อมดึง เคน- ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
ร่วมเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้แอทแทคก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดอย่างถาวร ด้วยมาร์เก็ตแชร์ที่ 20 % จากที่ผ่านมาจะสลับขึ้นลงระหว่างอันดับ2และ3 ด้วยแชร์ 16%.ในปีก่อน หรือมียอดขายเติบโตขึ้น 15% จาก 3,000 ล้านบาทในปีก่อน พร้อมส่งผลให้ภาพราวมของบริษัทในปีนี้ จะเติบโตได้อีก 10% จาก 11,000 ล้านบาทของปีก่อน

สำหรับ แอทแทค ทรีดี คลีน แอ็คชั่น จะมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลง เนื่องจากเป็นสูตรเข้มข้น ทำให้ใช้ในปริมาณที่น้อย ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันราคาจำหน่ายยังถูกลงกว่าเดิมเฉลี่ยอีก 3-5 % คือ ขนาด3กก. ราคา 185 บาท, 2 กก. ราคา 158 บาท, 1 กก. ราคา 85 บาท, 470 กรัม ราคา 45 บาท, 220 กรัม ราคา 25 บาท และ 105 กรัม ราคา 10 บาท

นายโคโซ กล่าวต่อว่า จากต้นทุนวัตถุดิบ และค่าแรงที่มีแนวโน้มขยับสูงขึ้นนั้น ทางบริษัทจะมุ่งเน้นลดต้นทุนด้านอื่นๆทดแทน โดยปีนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้า แต่เมื่อถึงปลายปี หากแนวดน้มต้นทุนยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจจะมีการพิจารณาเรื่องการปรับราคาต้นทุนอีกครั้ง ซึ่งตามแผนการผลิตปีนี้ ยังไม่มีการลงทุนใหม่
แต่จะมุ่งเน้นเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น รองรับความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยเฉพาะการเปิด AEC ที่จะมาถึงนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อการทำธุรกิจ เพราะได้รับอานิสงส์จากเรื่องของภาษีการนำเข้า ส่วนแผนการรองรับตลาด AEC นั้น ทางบริษัทแม่ได้วางแผนรับมือไว้แล้ว คือ ไทย เป็นศูนย์กลางของกลุ่มสินค้าชำระล้าง ทั้งสบู่ และผงซักฟอก โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่ อมตะนคร ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ส่วนในประเทศอื่นๆ
ก็เช่นเดียวกัน โดยจะมองถึงความเหมาะสมที่จะเป็นฮับในกลุ่มสินค้าใดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น