สก๊อตสุดฝืน ต้นทุนรังนกพุ่งแรง เดินหน้าปรับราคาขึ้น 5% ปีนี้ฝากความหวัง “เพียวเร่” ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ลุยทำตลาดต่อเนื่อง มั่นใจขยับแชร์สู่ 30% หรือใน 3 ปี ครองตลาดกว่าครึ่ง พร้อมต่อยอดรายได้รวมปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 38% หรือกว่า 3,400 ล้านบาท
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรวมผลไม้สกัดเข้มข้นมูลค่า 1,700 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมาเติบโตเพียง 6% จากปกติโต 20% เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่วนปีนี้มองว่าจะกลับมาเติบโตที่ 20% ได้อีกครั้ง ส่วนสำคัญมาจากผู้เล่นใหม่อย่าง เพียวเร่ หลังเปิดตัวมา 1 ปี ปีนี้จะบุกหนักมากยิ่งขึ้น
พร้อมงบการตลาด 50 ล้านบาท และพรีเซนเตอร์กลุ่มเดิม คือ "โฟร์ มินิท” พร้อมการทำตลาดแบบเต็มรูปแบบ มั่นใจว่า จากเดิมปีก่อนมีส่วนแบ่งทางการที่ 22% ปีนี้จะเพิ่มเป็น 30% ได้
ปัจจุบันตลาดรวมผลไม้สกัดเข้มข้น ประกอบด้วย พรุนสกัด900 ล้านบาท และเบอรี่สกัด 800 ล้านบาท ซึ่งทางสก๊อตมีผลิตภัณฑ์อยู่ในทั้ง 2 กลุ่ม หลังจากนี้ภายใน 3 ปี มั่นใจว่าทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ จะสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้ที่ 50% เท่าๆกัน ภายใต้งบการตลาดรวมใน 3 ปีของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ 400 ล้านบาท
นายสมโภช กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมรายได้ของบริษัท ปีที่ผ่านมา ทำได้ 2,460 ล้านบาท เติบโต 15% ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 30% เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ส่วนในปีนี้เชื่อว่าจะกลับมามีอัตราการเติบโตได้ที่ 38% หรือกว่า 3,400 ล้านบาท แบ่งเป็น รังนก 2,000 ล้านบาท ซุปไก่ 600 ล้านบาท คอลลาเจน 200 ล้านบาท และผลไม้สกัดเข้มข้นทั้งพรุนสกัดและเบอรี่สกัดอีก 600 ล้านบาท
โดยกลุ่มจะมีอัตราการเติบโตมากสุด คือ ผลไม้สกัด เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ ที่จะต้องทำการตลาดให้เต็มที่ และให้ความสำคัญมากสุดในปีนี้
ส่วนรังนกนั้น ยอมรับว่าช่วงปีที่ผ่านมาได้แบกรับต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนรังนกดิบที่มีราคาสูงขึ้น จากความต้องการมากขึ้น ขณะที่ซัพพลายเท่าเดิม ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทตัดสินใจปรับราคารังนกเพิ่มขึ้น 5% มีผลตั้งแต่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา และสก๊อตถือเป็นรายท้ายๆที่มีการปรับราคาสินค้าขึ้น ขณะที่คู่แข่งได้ปรับราคาขึ้นตั้งแต่ช่วงปี2554 ที่ผ่านมาแล้ว ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า หากมีการปรับค่าแรงขึ้นไปอีกนั้น จะส่งผลให้มีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นไปอีก และเชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และทุกตลาดให้มีการปรับราคาสินค้าขึ้นไปอีก
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรวมผลไม้สกัดเข้มข้นมูลค่า 1,700 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมาเติบโตเพียง 6% จากปกติโต 20% เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่วนปีนี้มองว่าจะกลับมาเติบโตที่ 20% ได้อีกครั้ง ส่วนสำคัญมาจากผู้เล่นใหม่อย่าง เพียวเร่ หลังเปิดตัวมา 1 ปี ปีนี้จะบุกหนักมากยิ่งขึ้น
พร้อมงบการตลาด 50 ล้านบาท และพรีเซนเตอร์กลุ่มเดิม คือ "โฟร์ มินิท” พร้อมการทำตลาดแบบเต็มรูปแบบ มั่นใจว่า จากเดิมปีก่อนมีส่วนแบ่งทางการที่ 22% ปีนี้จะเพิ่มเป็น 30% ได้
ปัจจุบันตลาดรวมผลไม้สกัดเข้มข้น ประกอบด้วย พรุนสกัด900 ล้านบาท และเบอรี่สกัด 800 ล้านบาท ซึ่งทางสก๊อตมีผลิตภัณฑ์อยู่ในทั้ง 2 กลุ่ม หลังจากนี้ภายใน 3 ปี มั่นใจว่าทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ จะสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้ที่ 50% เท่าๆกัน ภายใต้งบการตลาดรวมใน 3 ปีของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ 400 ล้านบาท
นายสมโภช กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมรายได้ของบริษัท ปีที่ผ่านมา ทำได้ 2,460 ล้านบาท เติบโต 15% ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 30% เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ส่วนในปีนี้เชื่อว่าจะกลับมามีอัตราการเติบโตได้ที่ 38% หรือกว่า 3,400 ล้านบาท แบ่งเป็น รังนก 2,000 ล้านบาท ซุปไก่ 600 ล้านบาท คอลลาเจน 200 ล้านบาท และผลไม้สกัดเข้มข้นทั้งพรุนสกัดและเบอรี่สกัดอีก 600 ล้านบาท
โดยกลุ่มจะมีอัตราการเติบโตมากสุด คือ ผลไม้สกัด เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ ที่จะต้องทำการตลาดให้เต็มที่ และให้ความสำคัญมากสุดในปีนี้
ส่วนรังนกนั้น ยอมรับว่าช่วงปีที่ผ่านมาได้แบกรับต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนรังนกดิบที่มีราคาสูงขึ้น จากความต้องการมากขึ้น ขณะที่ซัพพลายเท่าเดิม ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทตัดสินใจปรับราคารังนกเพิ่มขึ้น 5% มีผลตั้งแต่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา และสก๊อตถือเป็นรายท้ายๆที่มีการปรับราคาสินค้าขึ้น ขณะที่คู่แข่งได้ปรับราคาขึ้นตั้งแต่ช่วงปี2554 ที่ผ่านมาแล้ว ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า หากมีการปรับค่าแรงขึ้นไปอีกนั้น จะส่งผลให้มีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นไปอีก และเชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และทุกตลาดให้มีการปรับราคาสินค้าขึ้นไปอีก