ASTVผู้จัดการรายวัน- ค่าแรง 300 บาท กระทบ อุตสาหกรรมโรงแรมป่วน บิ๊ก ดุสิตธานี ยังสะเทือน คาดภาพรวมทั้งอุตสาหกรรม มีลุ้นปรับลดพนักงานอาจได้เห็นในครึ่งปีหลัง ระบุเป็นครั้งแรก ขึ้นฐานเงินเดือน 40% สูงสุดในประวัติการณ์
การประกาศใช้กฎกระทรวง กำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ วันละ 300 บาท มีผล 1 เม.ย.55 ใน 7 จังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ภูเก็ต นครปฐม และ ปทุมธานี นายชนินทธ์ โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของและผู้บริหารโรงแรมในกลุ่มดุสิตธานี กล่าวว่า
จะเห็นผลกระทบชัดเจนในกลุ่มโรงแรมหัวเมืองในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งมีฐานค่าแรงค่อยข้างต่ำ เพราะ เป็นพื้นที่ที่ราคาห้องพักโรงแรม เฉลี่ยแล้วต่ำกว่าภาคอื่นหรืออยู่ราว 800-1,000 บาทต่อคืน ในส่วนของดุสิตธานี ที่จะกระทบ ก็มีโรงแรมที่นครราชสีมา และ อีกหลายพื้นที่ ส่วน จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาจได้รับผลกระทบน้อย เช่น กรุงเทพฯ และ ภูเก็ต
สำหรับโรงแรมดุสิต คงเลือกใช้วิธีปรับฐานเงินเดือนให้เท่ากับที่รัฐกำหนด จะไม่นำค่าเซอร์วิสชาร์จมารวม แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 12 เดือนหลังปรับขึ้นค่าแรงงาน จะได้เห็นวงการอุตสาหกรรมโรงแรม คือ การ ปรับลด พนักงาน มีใช้เท่าที่จำเป็น โรงแรม ที่มีผลประกอบการต่ำกำไรน้อย หรือพอดีทุน อาจตัดสินใจ ปิดกิจการหรือขายธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่า
จะมีผู้ประกอบการโรงแรมในกลุ่มนี้จำนวนมากราว 3-4 พันแห่ง ทั่วประเทศ ส่วนภาพรวมแรงงานในอุตสาหกรรมโรงแรมทั้งประเทศจะมีไม่น้อยกว่า 5 แสนคน
“ขณะนี้ ต้นทุนดำเนินงานของผู้ประกอบการโรงแรม ปรับขึ้นต่อเนื่อง เช่น ค่าFTไฟฟ้า ที่ขึ้นตามราคาน้ำมัน การปรับขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหาร ราว 10% และ ยังมาเจอการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกเกือบ 40% สูงสุดในรอบ 30 ปี ที่ผมทำงานมา ขณะที่อุตสาหกรรมโรงแรมแข่งขันสูง โรงแรมเกิดใหม่มีมาก ทำให้ ไม่สามารถปรับขึ้นค่าห้องพักได้ตามต้นทุนจริง “
ล่าสุด กลุ่มโรงแรมดุสิต ได้ปรับสู่การเป็นองค์กรรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำโปรแกรม การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว EarthCheck ประเดิมในโรงแรมดุสิตธานีกรุ๊ป 10 แห่ง แบ่งเป็น ในประเทศ 8 แห่ง ต่างประเทศ 2 แห่ง ดูไบ และ มะนิลา ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ให้เป็นที่ต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ซึ่งEarthCheck
เป็นโปรแกรมขององค์กรอิสระ มีใช้ใน 1,300 องค์กรใน 70 ประเทศทั่วโลก โปรแกรมนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 20% ลดการกระจายคาร์บอนไดออกไซต์ 20 กิโลกรับต่อการพัก หนึ่งคืน ลดการใช้น้ำ 30% ลดของเสียที่ต้องฝั่งกลบ 30% ต่อลิตร ดุสิตตั้งเป้าหมาย นำโรงแรมในเครือเข้าสู่ EarthCheck ในระดับเงินทั้งหมดและระดับทองบางแห่ง ภายในปี 2560 และ เข้าสู่ ระดับเงินทั้งหมด
ระดับทองและระดับแพลตตินั่มบางแห่งในปี 2564
***ทิฟฟานีขึ้นค่งแรง 37%****
น.ส.อลิสา พันธุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา และกรรมการใน สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ในส่วนของ ทิฟฟานี่โชว์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ หลัง ปรับขึ้นอัตราค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวัน บริษัทต้องปรับขึ้นเงินเดือน ให้แก่พนักงานสูงถึง 34% จากจำนวนหนักงานกว่า 200 คน
ส่วนภาพรวมธุรกิจโรงแรมที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้จะอยู่ในกลุ่มโรงแรมระดับ 2-3 ดาว ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ราว 80% ของโรงแรมในเมืองพัทยา ซึ่งกลุ่มนี้ต้องปรับขึ้นเงินเดือนถึง 30% ฉะนั้นเป็นไปได้ที่ครึ่งปีหลัง อาจเห็นการปรับลดพนักงาน และ ทำให้ ตลาดแรงงานด้านบริการยิ่งหายากขึ้น พัฒนาก็ยาก เพราะจำนวนคนน้อย
สำหรับภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวเมืองพัทยา ยังดีต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน เพราะ มีตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซีย เดินทางมาจำนวนมาก หรือ 50% ของต่างชาติในพัทยา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว พักโรงแรมระดับ 3 ดาว สิ่งที่ชาวรัสเซียต้องการให้พัทยาปรับปรุง คือจัดโซน ท่องเที่ยว แยกไนท์ไลฟ์ ออก เป็นสัดส่วน เพราะ ไม่ต้องการให้ลูกซึ่งเป็นเด้ก
ที่มาด้วยกันเห็นสิ่งที่ไม่สมควร ส่วนตลาดคนไทย จะนิยมเดินทางมาช่วง สุดสัปดาห์
ล้อมกรอบ
บิ๊กรร.เอเชียผงาดนั่งนายกทีเอชเอ
ลั่นนโยบายตลาดเชิงรุกรับAEC
วานนี้(28 มี.ค.55) ในการประชุมสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) วาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมโรงแรมไทย แทนนายประกิจ ชินอมรพงษ์ ที่หมดวาระ ผลการเลือกตั้งมีเพียงทีมเดียวที่ส่งเข้าประกวด และสรุปที่เลือกนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มโรงแรมเอเชีย ขึ้นเป็นนายกสมาคม ทีเอชเอ
ทั้งนี้นโยบายการทำงานของ นายสุรพงษ์ ได้ ระบุว่า จะเร่งสานต่อโครงการเดิม โดยเฉพาะการผลักดันการแก้กฏหมายให้โรงแรม ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เข้ามาจดทะเบียนธุรกิจได้อย่างถูกต้อง พร้อมเร่งรัฐบาลให้ออกระเบียบ การจัดสัมมนาในแต่ละหน่วยงานให้เลือกใช้โรงแรมจดทะเบียนถูกกกหมายโดยแนบใบอนุญาติโรงแรม ในการตั้งเบิกค่าใช้จ่าย
ส่วนแผนงานการตลาด ผลักดันการทำตลาดเชิงรุก รองรับ การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 เน้นความพร้อมด้านธุรกิจ และ การตลาด
ส่วนกรณีขึ้นค่าจ้างแรงงานเป็น อัตรา 300 บาท ต่อวัน จะต้องให้แต่ละโรงแรมเข้าไปดูโครงสร้างการจ่ายเงินของตัวเอง ว่าใช้วิธีรวมค่าเซอร์วิสชาร์จหรือไม่ หรือใช้แบบผสม จากนั้นจึงหาแนวทางแก้ไขอย่างเปนระบบ โดยภาคเหนือในจังหวัดรองกระทบสูงสุด เช่น น่าน พะเยา จะต้องขึ้นค่าแรง 100% จากปัจจุบัน
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ อดีตนายกสมาคม โรงแรมไทย กล่าวว่า ต้องการให้สานต่อการผลักดันโรงแรมเข้าจดทะเบียนตามกฏหมาย เพื่อ การดูแลภาพของอุตสาหกรรมนี้ได้ทั้งระบบ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้แก่สมาชิก ล่าสุด สมาคม เตรียมจัดทำเว็บไซต์ ให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามานำเสนอขาย และจะลิงค์เข้ากับเว็บของ ททท. เพื่อขยายตลาด แทนการใช้บริการของเว็บ
ต่างชาติอย่าง อโกด้า หรือเอ็กซพีเดีย ที่ต้องเสียค่าฟีร์ กว่า 20% พร้อม เปิดเวทีการเทรดให้แก่ สมาชิก ปีนี้เจาะตลาด แอฟริกาใต้ และเอเชีย
การประกาศใช้กฎกระทรวง กำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ วันละ 300 บาท มีผล 1 เม.ย.55 ใน 7 จังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ภูเก็ต นครปฐม และ ปทุมธานี นายชนินทธ์ โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของและผู้บริหารโรงแรมในกลุ่มดุสิตธานี กล่าวว่า
จะเห็นผลกระทบชัดเจนในกลุ่มโรงแรมหัวเมืองในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งมีฐานค่าแรงค่อยข้างต่ำ เพราะ เป็นพื้นที่ที่ราคาห้องพักโรงแรม เฉลี่ยแล้วต่ำกว่าภาคอื่นหรืออยู่ราว 800-1,000 บาทต่อคืน ในส่วนของดุสิตธานี ที่จะกระทบ ก็มีโรงแรมที่นครราชสีมา และ อีกหลายพื้นที่ ส่วน จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาจได้รับผลกระทบน้อย เช่น กรุงเทพฯ และ ภูเก็ต
สำหรับโรงแรมดุสิต คงเลือกใช้วิธีปรับฐานเงินเดือนให้เท่ากับที่รัฐกำหนด จะไม่นำค่าเซอร์วิสชาร์จมารวม แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 12 เดือนหลังปรับขึ้นค่าแรงงาน จะได้เห็นวงการอุตสาหกรรมโรงแรม คือ การ ปรับลด พนักงาน มีใช้เท่าที่จำเป็น โรงแรม ที่มีผลประกอบการต่ำกำไรน้อย หรือพอดีทุน อาจตัดสินใจ ปิดกิจการหรือขายธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่า
จะมีผู้ประกอบการโรงแรมในกลุ่มนี้จำนวนมากราว 3-4 พันแห่ง ทั่วประเทศ ส่วนภาพรวมแรงงานในอุตสาหกรรมโรงแรมทั้งประเทศจะมีไม่น้อยกว่า 5 แสนคน
“ขณะนี้ ต้นทุนดำเนินงานของผู้ประกอบการโรงแรม ปรับขึ้นต่อเนื่อง เช่น ค่าFTไฟฟ้า ที่ขึ้นตามราคาน้ำมัน การปรับขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหาร ราว 10% และ ยังมาเจอการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกเกือบ 40% สูงสุดในรอบ 30 ปี ที่ผมทำงานมา ขณะที่อุตสาหกรรมโรงแรมแข่งขันสูง โรงแรมเกิดใหม่มีมาก ทำให้ ไม่สามารถปรับขึ้นค่าห้องพักได้ตามต้นทุนจริง “
ล่าสุด กลุ่มโรงแรมดุสิต ได้ปรับสู่การเป็นองค์กรรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำโปรแกรม การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว EarthCheck ประเดิมในโรงแรมดุสิตธานีกรุ๊ป 10 แห่ง แบ่งเป็น ในประเทศ 8 แห่ง ต่างประเทศ 2 แห่ง ดูไบ และ มะนิลา ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ให้เป็นที่ต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ซึ่งEarthCheck
เป็นโปรแกรมขององค์กรอิสระ มีใช้ใน 1,300 องค์กรใน 70 ประเทศทั่วโลก โปรแกรมนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 20% ลดการกระจายคาร์บอนไดออกไซต์ 20 กิโลกรับต่อการพัก หนึ่งคืน ลดการใช้น้ำ 30% ลดของเสียที่ต้องฝั่งกลบ 30% ต่อลิตร ดุสิตตั้งเป้าหมาย นำโรงแรมในเครือเข้าสู่ EarthCheck ในระดับเงินทั้งหมดและระดับทองบางแห่ง ภายในปี 2560 และ เข้าสู่ ระดับเงินทั้งหมด
ระดับทองและระดับแพลตตินั่มบางแห่งในปี 2564
***ทิฟฟานีขึ้นค่งแรง 37%****
น.ส.อลิสา พันธุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา และกรรมการใน สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ในส่วนของ ทิฟฟานี่โชว์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ หลัง ปรับขึ้นอัตราค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวัน บริษัทต้องปรับขึ้นเงินเดือน ให้แก่พนักงานสูงถึง 34% จากจำนวนหนักงานกว่า 200 คน
ส่วนภาพรวมธุรกิจโรงแรมที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้จะอยู่ในกลุ่มโรงแรมระดับ 2-3 ดาว ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ราว 80% ของโรงแรมในเมืองพัทยา ซึ่งกลุ่มนี้ต้องปรับขึ้นเงินเดือนถึง 30% ฉะนั้นเป็นไปได้ที่ครึ่งปีหลัง อาจเห็นการปรับลดพนักงาน และ ทำให้ ตลาดแรงงานด้านบริการยิ่งหายากขึ้น พัฒนาก็ยาก เพราะจำนวนคนน้อย
สำหรับภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวเมืองพัทยา ยังดีต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน เพราะ มีตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซีย เดินทางมาจำนวนมาก หรือ 50% ของต่างชาติในพัทยา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว พักโรงแรมระดับ 3 ดาว สิ่งที่ชาวรัสเซียต้องการให้พัทยาปรับปรุง คือจัดโซน ท่องเที่ยว แยกไนท์ไลฟ์ ออก เป็นสัดส่วน เพราะ ไม่ต้องการให้ลูกซึ่งเป็นเด้ก
ที่มาด้วยกันเห็นสิ่งที่ไม่สมควร ส่วนตลาดคนไทย จะนิยมเดินทางมาช่วง สุดสัปดาห์
ล้อมกรอบ
บิ๊กรร.เอเชียผงาดนั่งนายกทีเอชเอ
ลั่นนโยบายตลาดเชิงรุกรับAEC
วานนี้(28 มี.ค.55) ในการประชุมสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) วาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมโรงแรมไทย แทนนายประกิจ ชินอมรพงษ์ ที่หมดวาระ ผลการเลือกตั้งมีเพียงทีมเดียวที่ส่งเข้าประกวด และสรุปที่เลือกนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มโรงแรมเอเชีย ขึ้นเป็นนายกสมาคม ทีเอชเอ
ทั้งนี้นโยบายการทำงานของ นายสุรพงษ์ ได้ ระบุว่า จะเร่งสานต่อโครงการเดิม โดยเฉพาะการผลักดันการแก้กฏหมายให้โรงแรม ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เข้ามาจดทะเบียนธุรกิจได้อย่างถูกต้อง พร้อมเร่งรัฐบาลให้ออกระเบียบ การจัดสัมมนาในแต่ละหน่วยงานให้เลือกใช้โรงแรมจดทะเบียนถูกกกหมายโดยแนบใบอนุญาติโรงแรม ในการตั้งเบิกค่าใช้จ่าย
ส่วนแผนงานการตลาด ผลักดันการทำตลาดเชิงรุก รองรับ การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 เน้นความพร้อมด้านธุรกิจ และ การตลาด
ส่วนกรณีขึ้นค่าจ้างแรงงานเป็น อัตรา 300 บาท ต่อวัน จะต้องให้แต่ละโรงแรมเข้าไปดูโครงสร้างการจ่ายเงินของตัวเอง ว่าใช้วิธีรวมค่าเซอร์วิสชาร์จหรือไม่ หรือใช้แบบผสม จากนั้นจึงหาแนวทางแก้ไขอย่างเปนระบบ โดยภาคเหนือในจังหวัดรองกระทบสูงสุด เช่น น่าน พะเยา จะต้องขึ้นค่าแรง 100% จากปัจจุบัน
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ อดีตนายกสมาคม โรงแรมไทย กล่าวว่า ต้องการให้สานต่อการผลักดันโรงแรมเข้าจดทะเบียนตามกฏหมาย เพื่อ การดูแลภาพของอุตสาหกรรมนี้ได้ทั้งระบบ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้แก่สมาชิก ล่าสุด สมาคม เตรียมจัดทำเว็บไซต์ ให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามานำเสนอขาย และจะลิงค์เข้ากับเว็บของ ททท. เพื่อขยายตลาด แทนการใช้บริการของเว็บ
ต่างชาติอย่าง อโกด้า หรือเอ็กซพีเดีย ที่ต้องเสียค่าฟีร์ กว่า 20% พร้อม เปิดเวทีการเทรดให้แก่ สมาชิก ปีนี้เจาะตลาด แอฟริกาใต้ และเอเชีย
