ASTVผู้จัดการรายวัน – “วุฒิศักดิ์” ได้ผู้ร่วมทุนใหม่แล้ว กองทุนการเงินจากต่างประเทศถือหุ้น 30% เสริมแกร่ง รุกต่างประเทศต่อเนื่อง ผนึกมิสทินขยายตลาด ด้านมิสทินเปิดแผนรับเออีซี จับมือสหพัฒน์ผุดโรงงานที่พม่าเป็นฐานผลิต เล็งลุยต่อที่อินโดนีเซีย
นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯได้สรุปผู้ร่วมทุนเข้ามาถือหุ้นรายใหญ่รายใหม่แล้ว โดยเป็นกองทุนการเงินจากต่างประเทศ เข้ามาถือหุ้น 30% ของทุนจดทะเบียน ส่วนที่หลือ 70% ยังเป็นของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม และยังเป็นครั้งแรกของกองทุนดังกล่าวนี้ด้วยที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยจากนี้ไปจะทำให้วุฒิศักดิ์มีความแข็งแกร่งด้านการเงินมากขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย ซึ่งปีนี้มีแผนที่จะขยายต่างประเทศหลายแห่ง เช่น ที่ประเทศกัมพูชา 2 สาขา ที่ลาว 3 สาขา เป็นต้น คาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ขณะที่ปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่งในไทยใช้งบลงทุนแห่งละ 10-15 ล้านบาท และจะใช้งบการตลาดรวม 200 ล้านบาทในปีนี้ จากปัจจุบันมี 115 สาขาในไทย
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับทาง บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์มิสทิน พัฒนาผลิตภัณฑ์โลชั่นมิสทิน ไวท์ สปา กลูต้าไธโอน ยูวี ไวท์ ใช้งบประมาณทำตลาด 50 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 6 ล้านขวดในสิ้นปีนี้ และในอนาคตอาจมีความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้านสินค้าและช่องทางจำหน่ายต่อไปซึ่งขณะนี้มีสินค้าบางตัวของบริษัทไปจำหน่ายผ่านแคตาล็อก ฟรายเดย์ เช่น น้ำดื่ม เป็นต้น
*** “มิสทิน” ผนึกสหพัฒน์รับเออีซี
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนการลงทุนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558 เรียบร้อยแล้ว เช่น การร่วมทุนกับทางเครือสหพัฒน์ ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 40% เปิดโรงงานมิสทินในประเทศพม่า 1 โรงงาน อยู่ในโครงการสวนอุตสาหกรรมของเครือสหพัฒน์ จะผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อใช้เป็นฐานผลิตหลักในการบุกอาเซียนของมิสทินต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้มิสทินมีโรงงานผลิตสินค้าประเภทเครื่องหอมในพม่าอยู่แล้ว 1 โรงงาน
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนลงทุนในประเทศอินโดนีเซียด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร และเลือกรูปแบบว่าจะลงทุนเปิดร้านเครื่องสำอางหรือเปิดโรงงานผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายในระบบขายตรง หรือการใช้แบรนด์ใหม่ในการทำตลาด คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท
ทั้งแผนลงทุนในพม่าและอินโดนีเซียคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีจากนี้ จึงจะเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง
สำหรับการทำตลาดในประเทศ บริษัทเน้นหาพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ล่าสุดจับมือกับวุฒิศักดิ์ คลินิก พัฒนาผลิตภัณฑ์โลชั่นมิสทิน ไวท์ สปา กลูต้าไธโอน ยูวี ไวท์
นายดนัยกล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 12,000 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีที่แล้ว ซึ่งจะมากกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตเป็นเลขหลักเดียว เพราะมีปัจจัยด้านต้นทุนค่าครองชีพ
ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อมากน้อยเพียงใด และมั่นใจว่าจากแผนการลงทุนทั้งหมดภายใน 5 ปี (2555-2559) บริษัทฯจะมียอดขายรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วนน้อยมากยังไม่ถึง 10%
*******
นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯได้สรุปผู้ร่วมทุนเข้ามาถือหุ้นรายใหญ่รายใหม่แล้ว โดยเป็นกองทุนการเงินจากต่างประเทศ เข้ามาถือหุ้น 30% ของทุนจดทะเบียน ส่วนที่หลือ 70% ยังเป็นของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม และยังเป็นครั้งแรกของกองทุนดังกล่าวนี้ด้วยที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยจากนี้ไปจะทำให้วุฒิศักดิ์มีความแข็งแกร่งด้านการเงินมากขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย ซึ่งปีนี้มีแผนที่จะขยายต่างประเทศหลายแห่ง เช่น ที่ประเทศกัมพูชา 2 สาขา ที่ลาว 3 สาขา เป็นต้น คาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ขณะที่ปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่งในไทยใช้งบลงทุนแห่งละ 10-15 ล้านบาท และจะใช้งบการตลาดรวม 200 ล้านบาทในปีนี้ จากปัจจุบันมี 115 สาขาในไทย
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับทาง บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์มิสทิน พัฒนาผลิตภัณฑ์โลชั่นมิสทิน ไวท์ สปา กลูต้าไธโอน ยูวี ไวท์ ใช้งบประมาณทำตลาด 50 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 6 ล้านขวดในสิ้นปีนี้ และในอนาคตอาจมีความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้านสินค้าและช่องทางจำหน่ายต่อไปซึ่งขณะนี้มีสินค้าบางตัวของบริษัทไปจำหน่ายผ่านแคตาล็อก ฟรายเดย์ เช่น น้ำดื่ม เป็นต้น
*** “มิสทิน” ผนึกสหพัฒน์รับเออีซี
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนการลงทุนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558 เรียบร้อยแล้ว เช่น การร่วมทุนกับทางเครือสหพัฒน์ ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 40% เปิดโรงงานมิสทินในประเทศพม่า 1 โรงงาน อยู่ในโครงการสวนอุตสาหกรรมของเครือสหพัฒน์ จะผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อใช้เป็นฐานผลิตหลักในการบุกอาเซียนของมิสทินต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้มิสทินมีโรงงานผลิตสินค้าประเภทเครื่องหอมในพม่าอยู่แล้ว 1 โรงงาน
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนลงทุนในประเทศอินโดนีเซียด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร และเลือกรูปแบบว่าจะลงทุนเปิดร้านเครื่องสำอางหรือเปิดโรงงานผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายในระบบขายตรง หรือการใช้แบรนด์ใหม่ในการทำตลาด คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท
ทั้งแผนลงทุนในพม่าและอินโดนีเซียคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีจากนี้ จึงจะเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง
สำหรับการทำตลาดในประเทศ บริษัทเน้นหาพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ล่าสุดจับมือกับวุฒิศักดิ์ คลินิก พัฒนาผลิตภัณฑ์โลชั่นมิสทิน ไวท์ สปา กลูต้าไธโอน ยูวี ไวท์
นายดนัยกล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 12,000 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีที่แล้ว ซึ่งจะมากกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตเป็นเลขหลักเดียว เพราะมีปัจจัยด้านต้นทุนค่าครองชีพ
ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อมากน้อยเพียงใด และมั่นใจว่าจากแผนการลงทุนทั้งหมดภายใน 5 ปี (2555-2559) บริษัทฯจะมียอดขายรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วนน้อยมากยังไม่ถึง 10%
*******
