กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี บุกทลายคลินิกเสริมความงามเถื่อน ย่านติวานนท์ พบพยาบาลสาว พร้อมของกลางเพียบ
วันนี้ (11 มี.ค.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นำกำลังเจ้าหน้าตำรวจโดย พ.ต.อ.สุพัตร พึ่งพวง ผู้กำกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี และทีม บุกทลายคลินิกเถื่อน โดยใช้ห้องพักคอนโดหรูย่านติวานนท์ เป็นสถานที่ประกอบการ ณ อาคารเอ เลขที่ 98/197 ชั้น 9 หลังเข้าตรวจค้นพบ ผู้ต้องหาคือ น.ส.วิริยะพร หีตหมื่น อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นนางพยาบาลอยู่ที่ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น แผนกหัวใจ กำลังฉีดยาสเต็มเซลล์เพื่อทำให้ผิวขาวแก่หญิงสาวผู้มาขอรับบริการเข็มละ 1,500 บาท และพบยาเสริมความงามเป็นจำนวนมาก เช่น กลูต้าไธโอน ซึ่งยาส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านการรับรองจาก อย. ในการเข้าจับกุมครั้งนี้ น.ส.วิริยะพร ผู้ทำการรักษาฉีดสเต็มเซลล์ ได้ให้การวกวนไปมา โดยได้ให้การว่าฉีดแค่วิตามินซี ได้ให้การว่า รับรักษามาประมาณ 2-3 เดือน มีลูกค้าประมาณ 10 กว่าราย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับตัวยาด้วยว่ารับมาแพงหรือไม่ สำหรับยารับซื้อต่อมาจากเพื่อนซึ่งมีคลินิกจำหน่ายอยู่แถวสุขุมวิท และมีเครือข่ายทางเฟซบุ๊ก ให้บริการทั้งในและนอกสถานที่
นายพสิษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากได้รับการประสานงานจาก กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) จึงได้ดำเนินการประสานและวางแผนเข้าจับกุมได้พบความผิดใน 3 ข้อหา คือ ความผิด ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ม.16 ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และ พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ยา ใช้ยาหรือจำหน่ายยาโดยยังไม่ได้รับการอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เท่าที่สอบถามเบื้องต้น ผู้ทำการรักษา ใช้ยาที่ไม่ผ่าน อย.และมีส่วนผสมของสาร “กลูต้าไธโอน” ซึ่งจะส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทำการตรวจสอบ นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้รับการร้องเรียน ว่า คลินิกประเภทนี้มีการกระบวนเชื่อมโยงในเรื่องการค้ามนุษย์ด้วย ซึ่งทางกระทรวงจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการขยายผลและช่วยกันแก้ปัญหาอย่างบูรณาการต่อไป
นอกจากนี้ นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า ความงามเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ จึงมีคนหลายกลุ่มนำมาเป็นช่องว่างไปใช้ โดยใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประโยชน์จริง หรือแม้แต่ยาบางตัวที่ใช้ในที่นี้ แพทยสภากำหนดห้ามแม้แต่แพทย์ยังไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็มีคนลักลอบนำเข้ามาฉีด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำการพิสูจน์ต่อไป นายแพทย์ สุขุมกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุพัตร พึ่งพวง ผู้กำกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ผกก.กก.ดส.) เผยว่า มีการค้นหาเครือข่ายทางเฟซบุ๊ก และมีการโฆษณาตัวยาชนิดต่างๆ หากมีสาวใดมาใช้บริการ จะมีการยืนยันผลการใช้ยา และจะมีชักชวนลูกค้าให้เข้าวงการนางแบบ ซึ่งยาต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและขยายผลโดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป