ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติเผยแผนงาานแบงก์พาณิชย์ จ่อขอเพิ่มทุนเกือบทุกแห่ง ระบุเพื่อรองรับการปล่อยกู้-เศรษฐกิจผันผวน แต่ยังไม่มีแบงก์ไหนมีเงินกองทุนต่ำกว่าเกณฑ์
นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ สายสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ ธนาคารพาณิยที่จดทะบียนในประเทศไทยกลังอยู่ะหว่างการหารือเพ่อเสนอแนการดำเนินการประจำปีกับธท. ซึ่งขณะนี้ ได้หารือไปแล้วเกือบครทุกธนาคาร โดยแผนที่ส่งมานั้น จะเป็นการเสนอแนวทางการดำเนินการของแต่ละธนาคารในปี 2555 ทั้งด้านกลยุทธ์ในการระดมเงินฝากและการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการลงทุนนปีนี้
นอกจากนี้ เกือบทุกธนาคารที่เสนอแผนที่มีแนวคิดจะเพิ่มทุนในปีนี้ เพื่อคงสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐานบีไอเอสไว้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมั่นคงเพื่อรองรับสถานการณ์การต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้
นายเกริกกล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชยปล่อยสินเชื่อในระดับสูงคือเติบโตประมาณ 15%ซึ่งสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ดังนั้น จึงต้องมีแผนการที่จะเพิ่้มทุน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน รวมถึงรองรับการปล่อยสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้อีกประมาณ 7-8% แม้ว่าในแต่ละปีธนาคารพาณิชย์จะมีผลกำไรในอัตราที่ดี ที่จะเพิ่มเข้าไปในสัดส่วนของทุนอยู่แล้ว แต่อาจจะมองว่ายังไม่เพียงพอ จึงมีแผนที่จะเพิ่มทุนในแนวทางอื่นเพิ่มเติมอีก
"ขณะนี้ยังไม่มีธนาคารพาณิชย์แห่งใดมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่า 8.5% ตามเกณฑ์ของธปท. แต่เป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อส่วนหนึ่ง ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความอ่อนแอของระบบธนาคาร"
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์ในช่วงนี้ แม้ว่าเกือบทุกธนาคารจะเสนอแผนเพิ่มทุนมายังธปท. แต่ยังเป็นแผนคร่าวๆ ส่วนรายละเอียดนั้นจะขึ้นอยู่ระยะเวลาที่เหมาะสม จึงจะทำรายละเอียดมาเสนออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีข่าวธนาคารกรุงไทยได้รายงานกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ว่าจะมีการเพิ่มทุนเพื่อขอซื้อหุ้นของบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(เคทีซี)นั้น นายเกริกกล่าวอีกว่า ตามแผนที่ธนาคารกรุงไทยส่งมานั้น มีแนวทางที่จะเพิ่มทุนเช่นเดียวกับธนาคารหลายแห่ง แต่ไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุนเพื่อซื้อหุ้นของเคทีซีตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ สายสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ ธนาคารพาณิยที่จดทะบียนในประเทศไทยกลังอยู่ะหว่างการหารือเพ่อเสนอแนการดำเนินการประจำปีกับธท. ซึ่งขณะนี้ ได้หารือไปแล้วเกือบครทุกธนาคาร โดยแผนที่ส่งมานั้น จะเป็นการเสนอแนวทางการดำเนินการของแต่ละธนาคารในปี 2555 ทั้งด้านกลยุทธ์ในการระดมเงินฝากและการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการลงทุนนปีนี้
นอกจากนี้ เกือบทุกธนาคารที่เสนอแผนที่มีแนวคิดจะเพิ่มทุนในปีนี้ เพื่อคงสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐานบีไอเอสไว้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมั่นคงเพื่อรองรับสถานการณ์การต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้
นายเกริกกล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชยปล่อยสินเชื่อในระดับสูงคือเติบโตประมาณ 15%ซึ่งสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ดังนั้น จึงต้องมีแผนการที่จะเพิ่้มทุน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน รวมถึงรองรับการปล่อยสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้อีกประมาณ 7-8% แม้ว่าในแต่ละปีธนาคารพาณิชย์จะมีผลกำไรในอัตราที่ดี ที่จะเพิ่มเข้าไปในสัดส่วนของทุนอยู่แล้ว แต่อาจจะมองว่ายังไม่เพียงพอ จึงมีแผนที่จะเพิ่มทุนในแนวทางอื่นเพิ่มเติมอีก
"ขณะนี้ยังไม่มีธนาคารพาณิชย์แห่งใดมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่า 8.5% ตามเกณฑ์ของธปท. แต่เป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อส่วนหนึ่ง ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความอ่อนแอของระบบธนาคาร"
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์ในช่วงนี้ แม้ว่าเกือบทุกธนาคารจะเสนอแผนเพิ่มทุนมายังธปท. แต่ยังเป็นแผนคร่าวๆ ส่วนรายละเอียดนั้นจะขึ้นอยู่ระยะเวลาที่เหมาะสม จึงจะทำรายละเอียดมาเสนออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีข่าวธนาคารกรุงไทยได้รายงานกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ว่าจะมีการเพิ่มทุนเพื่อขอซื้อหุ้นของบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(เคทีซี)นั้น นายเกริกกล่าวอีกว่า ตามแผนที่ธนาคารกรุงไทยส่งมานั้น มีแนวทางที่จะเพิ่มทุนเช่นเดียวกับธนาคารหลายแห่ง แต่ไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุนเพื่อซื้อหุ้นของเคทีซีตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด