ASTVผู้จัดการรายวัน -เอแบคโพลชี้ประชาชน ห่วงปัญหาปากท้อง มากกว่าความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่สวนดุสิตโพล ระบุประชาชนเบื่อข่าวนักการเมืองทะเลาะกัน แทนที่จะแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ด้าน ปชป.ลุยแจกสติ๊กเกอร์ "แพงทั้งแผ่นดิน" 1 ล้านแผ่น ขึ้นแบนเนอร์ 1 แสนแผ่นทั่วประเทศ กดดันรัฐบาลแก้ปัญหาของแพง
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล เปิดเผยผลวิจัย สถานการณ์การเมืองไทย ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ของคนกรุงเทพมหานคร และบันทึกเชิงนโยบายโครงการ คืนพื้นที่เกษตรกรรมให้บางกอก จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปี ขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2,245 คน ระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า มีความก้ำกึ่งกันในความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ว่าจะสามารถเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยได้ โดยถือว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แต่ร้อยละ 50 กังวลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง และค่าครองชีพมากกว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่มีเพียงร้อยละ 12.9
สำหรับปัญหาที่ประชาชนประสบในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่คือ ราคาสินค้าสูงขึ้น รองลงมาคือปัญหาราคาน้ำมันแพง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ภัยธรรมชาติ ยาเสพติด
ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ ยังระบุว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาสินค้าสูงเกินไป และขาดตลาด รวมทั้งไม่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เคยโทรศัพท์ร้องเรียนเรื่องราคาสินค้ากับกรมการค้าภายใน ยังระบุว่า ราคาสินค้ายังสูงเช่นเดิม
**เซ็งข่าวนักการเมืองทะเลาะกัน
ขณะที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็น ประชาชนทั่วประเทศ ในหัวข้อ "ประชาชนต้องการข่าวสารจากสื่อวันนี้อย่างไร" โดยพบว่า ประชาชน ร้อยละ 95.04 สนใจข่าวการเมือง และ ร้อยละ 93.93 สนใจข่าวเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เรื่องการเมืองที่ประชาชนอยากรู้ คือ การทำงานและการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 62.55 ส่วนเรื่องที่ไม่อยากรู้คือ การทะเลาะเบาะแว้ง ความขัดแย้งแตกแยกของนักการเมือง ร้อยละ 64.32
สำหรับข่าวเศรษฐกิจ ที่ประชาชนอยากรู้ คือ การประกาศปรับราคาขึ้น-ลง ของสินค้าทุกประเภท ร้อยละ 44.82 รองลงมาคือ การแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ร้อยละ 24.27 และการขึ้นเงินเดือนและค่าจ้างแรงงานต่าง ๆ ร้อยละ 13.68 ส่วนเรื่องที่ไม่อยากรู้ คือ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีหนี้สินต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ ร้อยละ 53.89
อย่างไรก็ตาม ข่าวสารด้านสังคมที่ประชาชนอยากรู้ คือ การปราบปรามยาเสพติด แหล่งผลิต และผู้ค้ารายใหญ่ ร้อยละ 59.27 โดยข่าวการศึกษาที่ประชาชนอยากรู้ คือ นโยบายด้านการศึกษา เช่น เรียนฟรี แจกแท็บเล็ต ร้อยละ 51.43
***ปชป.แจกสติ๊กเกอร์ขึ้นแบนเนอร์พรึ่บ
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ภาคใต้ ที่นายกรัฐมนตรีจัดครม.สัญจร พบว่า สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องมากที่สุดคือ ความเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพ และปัญหาปากท้องประชาชน แม้รัฐบาลจะประสานเสียงว่า สินค้าไม่ได้แพงก็ตาม โดยมีสินค้าตัวเดียวที่หยิบยกมากลบกระแส คือ น้ำมันปาล์ม อ้างราคา 42 บาท เทียบกับยุค นายอภิสิทธิ์ ในช่วงน้ำมันปาล์มขาดแคลน ราคา 47 บาท ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะราคา 42 บาทนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และยังมีการใช้ราคานี้มาจนถึงปัจจุบัน ตอกย้ำว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ของแพง ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ จะจัดทำสติ๊กเกอร์ "แพงทั้งแผ่นดิน" จำนวน 1 ล้านแผ่น และแบนเนอร์ 1 แสนแผ่น ติดทั่วประเทศ เพื่อประจานการบริหารที่ล้มเหลว และกดดันรัฐบาลให้แก้ปัญหาของแพงให้ได้.
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล เปิดเผยผลวิจัย สถานการณ์การเมืองไทย ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ของคนกรุงเทพมหานคร และบันทึกเชิงนโยบายโครงการ คืนพื้นที่เกษตรกรรมให้บางกอก จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปี ขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2,245 คน ระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า มีความก้ำกึ่งกันในความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ว่าจะสามารถเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยได้ โดยถือว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แต่ร้อยละ 50 กังวลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง และค่าครองชีพมากกว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่มีเพียงร้อยละ 12.9
สำหรับปัญหาที่ประชาชนประสบในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่คือ ราคาสินค้าสูงขึ้น รองลงมาคือปัญหาราคาน้ำมันแพง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ภัยธรรมชาติ ยาเสพติด
ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ ยังระบุว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาสินค้าสูงเกินไป และขาดตลาด รวมทั้งไม่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เคยโทรศัพท์ร้องเรียนเรื่องราคาสินค้ากับกรมการค้าภายใน ยังระบุว่า ราคาสินค้ายังสูงเช่นเดิม
**เซ็งข่าวนักการเมืองทะเลาะกัน
ขณะที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็น ประชาชนทั่วประเทศ ในหัวข้อ "ประชาชนต้องการข่าวสารจากสื่อวันนี้อย่างไร" โดยพบว่า ประชาชน ร้อยละ 95.04 สนใจข่าวการเมือง และ ร้อยละ 93.93 สนใจข่าวเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เรื่องการเมืองที่ประชาชนอยากรู้ คือ การทำงานและการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 62.55 ส่วนเรื่องที่ไม่อยากรู้คือ การทะเลาะเบาะแว้ง ความขัดแย้งแตกแยกของนักการเมือง ร้อยละ 64.32
สำหรับข่าวเศรษฐกิจ ที่ประชาชนอยากรู้ คือ การประกาศปรับราคาขึ้น-ลง ของสินค้าทุกประเภท ร้อยละ 44.82 รองลงมาคือ การแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ร้อยละ 24.27 และการขึ้นเงินเดือนและค่าจ้างแรงงานต่าง ๆ ร้อยละ 13.68 ส่วนเรื่องที่ไม่อยากรู้ คือ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีหนี้สินต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ ร้อยละ 53.89
อย่างไรก็ตาม ข่าวสารด้านสังคมที่ประชาชนอยากรู้ คือ การปราบปรามยาเสพติด แหล่งผลิต และผู้ค้ารายใหญ่ ร้อยละ 59.27 โดยข่าวการศึกษาที่ประชาชนอยากรู้ คือ นโยบายด้านการศึกษา เช่น เรียนฟรี แจกแท็บเล็ต ร้อยละ 51.43
***ปชป.แจกสติ๊กเกอร์ขึ้นแบนเนอร์พรึ่บ
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ภาคใต้ ที่นายกรัฐมนตรีจัดครม.สัญจร พบว่า สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องมากที่สุดคือ ความเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพ และปัญหาปากท้องประชาชน แม้รัฐบาลจะประสานเสียงว่า สินค้าไม่ได้แพงก็ตาม โดยมีสินค้าตัวเดียวที่หยิบยกมากลบกระแส คือ น้ำมันปาล์ม อ้างราคา 42 บาท เทียบกับยุค นายอภิสิทธิ์ ในช่วงน้ำมันปาล์มขาดแคลน ราคา 47 บาท ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะราคา 42 บาทนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และยังมีการใช้ราคานี้มาจนถึงปัจจุบัน ตอกย้ำว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ของแพง ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ จะจัดทำสติ๊กเกอร์ "แพงทั้งแผ่นดิน" จำนวน 1 ล้านแผ่น และแบนเนอร์ 1 แสนแผ่น ติดทั่วประเทศ เพื่อประจานการบริหารที่ล้มเหลว และกดดันรัฐบาลให้แก้ปัญหาของแพงให้ได้.