xs
xsm
sm
md
lg

ซัด73%เข้าไม่ถึงกองทุนสตรีฯ หวั่นการเมืองแทรกใช้หาเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เปิดผลโพลล์ ชำแหละ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี”เผยกลุ่มผู้หญิง 73.2% ยังเข้าไม่ถึงข้อมูล และสัดส่วนสูงกว่า 98% ต้องการให้ตรวจสอบความโปร่งใส ด้านนายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนหวั่นถูกการเมืองแทรกแซง นอมินีจับจองกลายเป็นเครื่องมือหาเสียง แนะรัฐบาลไม่ต้องรีบ ใช้เวลา6เดือนคลอดกม.รองรับ

วานนี้ (22 มี.ค.) ที่โรงแรมปริ๊นซ์ตั้น ปาร์ค สวิท ในเวทีสัมมนา“กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี:สิ่งที่อยากเห็นและสิ่งที่อยากให้เป็น” จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นต่อกรณี “การจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ในพื้นที่ 10 จังหวัด ทั้ง 4 ภูมิภาคจากกลุ่มตัวอย่าง1,000 ราย แบ่งเป็นเพศหญิง 71% เพศชาย 29% อายุระหว่าง 15-61 ปี พบว่า กลุ่มตัวอย่างกว่า 70.7 % ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนดังกล่าว กลุ่มผู้หญิง 52.6% ต้องการสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ อีก 47.4% ไม่ต้องการสมัคร แต่ที่น่าห่วงคือกลุ่มตัวอย่าง 73.2 % ยังไม่มีข้อมูลและยังไม่ทราบถึงวิธีและการขอสนับสนุนงบประมาณ

นายจะเด็จ กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่างมากถึง 98% ต้องการให้กองทุนเกิดการตรวจสอบ และมีการจัดตั้งคณะกรรมการ หรือองค์กรกลางตรวจสอบ ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างยังเห็นด้วยหากมีเครือข่ายสตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการกองทุนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม

น.ส.วันเพ็ญ สุวรรณวิสิฏฐ์ ผอ.สำนักส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงโครงสร้างของกองทุนฯว่า รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณก้อนแรกจำนวน 7,700 ล้านบาท เพื่อให้สมาชิกองทุนฯมีแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ยในการพัฒนาอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาศักยภาพสตรีช่วยเหลือเยียวยาสตรีที่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้ได้มีการเปิดรับสมัครสมาชิกกองทุนฯที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 30 มี.ค.55 ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนในพื้นที่ หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ www.womenfund.thaigov.go.th พร้อมทั้งมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่าย เพื่อความเหมาะสมในการจัดตั้งกองทุนฯคาดว่าประมาณเดือน มิ.ย. 2555 กระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จ และยืนยันว่ารัฐบาลมีหน้าที่เพื่อสนับสนุน แต่จะไม่เข้าไปครองงำกองทุนแน่นอน

ด้านนางสาวอรุณี ศรีโต นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า ตนอยากให้ผู้หญิงทุกคนคิดว่ากองทุนพัฒนาสตรี จังหวัดละ100 ล้านบาท ไม่ใช่เงินรัฐบาลที่ให้มาฟรีๆ แต่อยากให้คิดว่า เป็นเงินที่มาจากภาษีของคนไทยทั้งประเทศ แล้วเมื่อได้เงินมาแล้ว ต้องต่อยอดให้งอกเงยเข้าถึงกลุ่มสตรีที่ต้องการรับความช่วยเหลือจริงๆ เช่น ผู้หญิงที่ตกงาน คนพิการ หรือการสร้างอาชีพสำหรับกลุ่มแม่บ้าน และรัฐบาลก็ไม่ควรนำเรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการหาเสียง อย่างไรก็ตาม อย่างเห็นกองทุนนี้มีความยั่งยืน ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกันเองในชุมชน ชาวบ้านเข้าถึงได้จริง เพราะที่ผ่านมาประชาชนส่วนมากไม่สามารถเข้าถึงกองทุนต่างๆได้ตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้

"สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและตำบล ยังหวั่นว่าจะถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมืองท้องถิ่น หรือมีนอมินี ทำให้ได้คนที่ไม่มีความสามารถหรือได้กลุ่มคนที่อยากมีชื่อเสียงแต่ทำงานไม่เป็นเข้ามาดูแลแทน ซึ่งจะส่งผลให้เงินกองทุนหรือผลประโยชน์ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง" นางสาว อรุณี กล่าว

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่ควรเร่งรีบอนุมัติโครงการกองทุนสตรี แต่ควรยืดเวลาออกไปอีกประมาณ 6 เดือน หรือมากกว่านั้น เพื่อให้กองทุนฯมี พ.ร.บ. ออกมารองรับ และต้องมีการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลความถูกต้องชัดเจนด้านประชากรหญิงในประเทศไทย ซึ่งต้องข้อมูลที่ทันสมัยหรือใกล้เคียงกับความเป็นจริงให้มากที่สุด เพราะเท่าที่ทราบ ยังไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรที่จะเข้ามารับผิดชอบโดยตรง ทุกวันนี้ยังแยกเป็นกระทรวงต่างๆเข้ามาจัดการในแต่ละเรื่อง และสิ่งสำคัญที่จะทำให้กองทุนพัฒนาสตรีมีความยั่งยืนได้ จะต้องมีการบริหารจัดการกองทุนที่ชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ และต้องมีองค์กรที่รับผิดชอบโดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น