“ยิ่งลักษณ์” เปิดงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ยกย่องสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นต้นแบบของสตรีไทย เทิดพระเกียรติ 80 พรรษา 12 สิงหาฯ พร้อมเผย 5 ยุทธศาสตร์พัฒนาบาบาทสตรี เชื่อยืนข้างสุภาพบุรุษอย่างสมศักดิ์ศรี และมีบทบาทในเวทีสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเบื้องต้นจะเน้นการพัฒนา สร้างงาน สร้างรายได้ เชิญสตรีร่วมแสดงความเห็น เชื่อเป็นการสร้างอนาคตประเทศ
วันนี้ (31ก.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี “พลังสตรี พลังขับเคลื่อนประเทศไทย” พร้อมกับกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้ยืนอยู่บนเวทีอย่างภาคภูมิใจว่าวันนี้รัฐบาลในฐานะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งได้รับโอกาสจากคนทั้งประเทศให้มาทำในตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ และในฐานะเป็นผู้หญิงก็จะได้มีโอกาสในภารกิจขับเคลื่อนบทบาทสตรีไทย และวันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นวันสตรีไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคมเป็นวันสตรีไทย ตั้งแต่ปี 2546 โดยมีวัตถุประสงค์ให้สตรีไทยได้แสดงความคิด ความรู้ ความสามารถ และผลงาน ที่เกิดจากภูมิปัญญา และบทบาทของสตรีไทยในด้านต่างๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา และถือว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลที่จะได้แสดงความจงรักภักดีและเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาครบรอบ 80 พรรษา และด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณอันมีต่อปวงชนชาวไทยอันหาที่สุดไม่ได้ เพราะสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นต้นแบบของสตรีไทยของไทยทุกคน และทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาสตรีไทยนานัปการ
นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจึงมีความมุ่งมั่นพัฒนาสตรีไทย และมุ่งมั่นยกระดับศักยภาพของสตรีไทยให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน และดำรงอยู่ได้บนเวทีโลกอย่างสมศักดิ์ศรี เชื่อมั่นว่าสตรีไทยมีความเก่ง มีความรู้ ความสามารถ เพียงแค่มีโอกาสร่วมกันแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ และยืนเคียงข้างสุภาพบุรุษอย่างสมศักดิ์ศรี เชื่อว่าพลังเหล่านี้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย รัฐบาลนี้มีนโยบายชัดเจนในการพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเราจะเดินตามกรอบยุทธศาสตร์ใหญ่ 5 ยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาบทบาทสตรี คือ 1. เสริมสร้างความเข้าใจ และทัศนคติที่ดีต่อสตรี และยอมรับในความเสมอภาค ระหว่างหญิงกับชาย เชื่อว่าสังคมไทยเปิดกว้างในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของสตรี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สตรีที่จะแสดงบทบาทอย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม หรือแม้กระทั่งการเมือง
2. พัฒนาศักยภาพ และเพิ่มโอกาส ซึ่งสตรีไทยมีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนาน เพียงแค่ได้รับโอกาส และการต่อยอดที่ถูดต้อง ทำให้สตรีสามารถหาเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้ 3. การพัฒนาสุขภาวะ คุณภาพชีวิต ในความมั่นคงของชีวิต ซึ่งสตรีต้องดูแลสุขภาพ ตั้งแต่แรกเกิด อยู่ในครรภ์ จนถึงผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรี เพื่อความมั่นคง ปลอดภัย ทั้งระดับครอบครัว ชุมชน และสังคม
4. การพัฒนาศักยภาพสตรีที่จะเพิ่มโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมทั้งทางการเมือง การบริหาร และการตัดสินใจในระดับต่างๆ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลอยากเห็นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ความเป็นผู้นำของสตรีไทย มีความรู้ ความสามารถ จะดึงศักยภาพนี้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีความเข้มแข็ง และ 5. การเสริมสร้างการพัฒนาศักยภาพ และกลไกของสตรีในระดับองค์กร และทุกชุมชน รัฐบาลพร้อมเป็นแกนกลางทำงานร่วมกับทุกองค์กร เพื่อร่วมกันผลักดันศักยภาพสตรี รัฐบาลจะบูรณาการทุดระทรวงในการเสริมสร้างศักยภาพของสตรี และกองทุนพัฒนาเป็นอีกบทบาทหนึ่งของรับาล หรือเป็นกลไกที่จะต่อยอดเสริมสร้างศักยภาพสตรีให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า โดยกรอบการพัฒนาในการขับเคลื่อนเพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง สำหรับนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเบื้องต้นจะเน้นในการพัฒนาศักยภาพ 3 แนวทาง คือ 1. การพัฒนา สร้างงาน สร้างรายได้ ที่จะมีการสนับสนุนเข้าถึงแหล่งเงินทุน องค์ความรู้ และบริการต่างๆ จะมีการขับเคลื่อนเป็นรูปธรรม โดยการโอนเงินไปยังจังหวัด เพื่อให้มีการทำประชาคมในพื้นที่ที่จะพัฒนาคุณภาพของสตรี ตั้งแต่ระดับจังหวัด ชุมชน และระดับประเทศ 2. พัฒนาคุณภาพสตรีผู้ด้อยโอกาส และสนับสนุนการสงเคราะห์เยียวยาสตรี ที่ประสบปัญหา ไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มีชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี ดูแลตั้งแต่ครรภ์มารดา จนถึงเชิงตะกอน ไม่ว่าจะเป็นใคร และ 3. เสริมสร้างศักยภาพในความเก่ง ความสามารถให้มีความเป็นผู้นำ ยกระดับจากระดับชุมชน จังหวัด และไปถึงระดับประเทศ เพื่อให้ทั่วโลกรับรู้ความสามารถของสตรี เสริมสร้างบทบาทสตรีระดับประเทศ และมีบทบาทในเวทีโลกและที่สำคัญก้าวไปสู่เวทีอาเซียน และประชาคมโลก
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่ออีกว่า การทำงานนี้จะไม่สำเร็จ ถ้าเราไม่ได้มีการทำงานร่วมกัน และขอเชิญชวนสตรี ร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไทย เป็นการตอบโจทย์ เป็นประโยชน์ต่อสตรีไทยทุกคน และเป็นกองทุนต่อยอดพัฒนาศักยภาพสตรีไทย และความแข็งแรงของประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน สร้างสรรค์ เพื่อสร้างอนาคตของประเทศไทย
