xs
xsm
sm
md
lg

สินค้าแห่ขึ้นราคา ไตรมาส2ปรับอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้นอย่างต่อนเนื่องรวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบในกรารผลิตสินค้าต่างๆก็ทยอยปรับราคาสูงขึ้นตลอดเช่นกัน ส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าหลายราย ไม่สามารถทนแบกรับภาระต่อไปได้ จำเป็นต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุน ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในภาวะที่ค่าครองชีพแพงชนิดที่ว่า ไม่ปราณีใคร
ASTVผู้จัดการรายวัน รวบรวมข้อมูลสินค้าที่มีการเคลื่อนไหวในการปรับราคาขึ้น ในช่วงนี้ ซึ่งพบว่ามีหลากหลายสินค้าและหลากหลายระดับราคาต่างกันไป
สินค้าอาหารการกินอย่าง รังนก ซึ่งรายใหญ่อย่าง สก๊อต ของบริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ก็ปรับราคารังนกสก๊อตไปแล้วไม่นานนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม โดยขึ้นราคาไป 5% จากราคาเดิม ซึ่งนายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เราจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เพราะต้นทุนสูงขึ้นอย่างน่ากลัว และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อค่าแรง 300 บาทมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายนนี้ ต้นทุนจะต้องเพิ่มขึ้นอีก และผู้ประกอบการคงต้องปรับราคาขึ้นอีกแน่ หลังจากที่คู่แข่งรังนกรายอื่นปรับราคาไปก่อนเมื่อปลายปีที่แล้ว
ขณะที่เครื่องดื่มนมเปรี้ยวรายใหญ่ของตลาดแบรนด์ ยาคูลท์ ก็ปรับราคาขายปลีกขึ้นอีก 2 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมที่ผ่นมา ส่งผลให้จากราคาเดิมขวดละ 5 บาทเพิ่มเป็น 7 บาททันที หลังจากที่ไม่ได้ปรับราคาจำหน่ายมาหลายปีแล้ว
ส่วนค่ายศรีไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดผลิตภัณฑ์ภาชนะก็ยังอั้นราคาไม่อยู่เช่นกัน เมื่อนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ออกมายอมรับว่า บริษัทฯไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกต่อไปได้แล้ว เพราะราคาวัตถุดิบ รวมทั้งค่าแรงงาน และค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่จะต้องปรับราคาขายสินค้าของศรีไทยฯทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีกอย่างต่ำ 10% ในช่วงเดือนเมษายนนี้
สำหรับสินค้าที่เป็นยากันยุง ก็อยู่ในความเคลื่อนไหวของการขึ้นราคาเช่นกัน นางวรรณี ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย คายาริ ไพรทัม สเปรย์ และยากันยุง คายาริ กล่าวว่า บริษัทฯจะปรับราคาสินค้าขึ้นในเร็วๆนี้ ในกลุ่มของ ยาจุดกันยุงแบบขดคายาริ อีก 2 บาท จากเดิมราคา 15 บาท เป็น 17 บาท ส่วนสินค้าที่เป็นกล่องขนาดบรรจุ 8 ขด และกลุ่มสเปรย์ ยังไม่มีการปรับราคาในครั้งนี้แต่อย่างใด
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า การขึ้นราคาสินค้าจะชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองนี้ หลังจากที่ปัจจัยหลักคือ การขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาท ที่จะเริ่มนำร่องก่อนใน 7 จังหวัด ซึ่งมองว่าตัวนี้จะเป็นการช่วยทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อขึ้นมาส่วนหนึ่ง ดังนั้นเจ้าของสินค้าก็ต้องเตรียมที่จะใช้จังหวะนี้มาปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
นอกจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้นบางชนิดแล้ว ผู้ประกอบการยังใช้กลยุทธ์การปรับตัวรูปแบบอื่นเช่น การลดขนาดสินค้าหรือปริมาณบรรจุลง แต่จำหน่ายราคาเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกว่าสินค้าแพงขึ้นน หรือการลดการทำโปรโมชันหรือลด แลก แจก แถม ลง สังเกตุได้ว่า แคมเปญโปรโมชัน ตั้งแต่ต้นปีนมานี้จะน้อยลงไปมากเมื่อเทียบกับช่วงปรกติ
เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หากยังต้องมาแข่งขันกันเรื่องแคมเปญลดราคาแล้ว ก็ยิ่งทำให้ต้องแบกรับภาระหนักขึ้นไปอีก ดังนั้นหากไม่สามารถจัดการเรื่องราคาวัตถุดิบสูงขึ้นได้ ก็จำเป็นต้องหันมาปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการทำโปรโมชั่นแทนก่อน
อย่างไรก็ตาม แคมเปญลดราคายังพอมีให้เห็นไม่ใช่หายไปหมด โดยเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้ สินค้าเครื่องดื่ม กับค้าปลีกจะทำโปรโมชั่นกันมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น