00 ไม่รู้ว่าทำไมบ้านเมืองมันถึงได้โชคร้ายแบบนี้ เพราะบรรดาผู้นำ นักการเมืองมีแต่คนโง่ หรือแกล้งโง่ เอาเปรียบสังคมเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด มีอำนาจได้กดหัวคนอื่นอยู่ร่ำไป เรื่อง“ปรองดอง” ก็เช่นเดียวกัน ทำไมพวก ส.ส.เวรตะไลวันๆ ถึงคิดแต่เรื่องทุเรศ คิดว่าชาวบ้านทั่วไปเขาตามไม่ทันหรือไง น่าจะคิดง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ อย่าง นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่ระบุสั้นๆว่า ต้องหาข้อเท็จจริงก่อนนิรโทษฯ และให้อภัย ซึ่งการหาข้อเท็จจริงก็ต้องทำผ่านกระบวนการยุติธรรม และไปยุติที่ศาลยุติธรรมเท่านั้น คำพูดของเธอที่บอกว่า หากทำเพื่อความต้องการของพวกที่กำลังดิ้นรนหนีความผิด มันก็ไม่ใช่เป็นการปรองดอง เพราะนี่คือการเก็บกดเอาไว้ รอการปะทุขึ้นมา
00 บอกแล้วว่าคนอย่าง นิชา คนนี้ไม่ธรรมดา คำพูดคำจา คมคาย มีหลักการที่ยึดแน่นไม่วอกแวก เป็นธรรมชาติ สามารถอธิบายได้เป็นฉากๆ หากตัดเอาเรื่อง “ความสูญเสีย” อันใหญ่หลวงของเธอและครอบครัวออกไปชั่วขณะ เชื่อว่าในอนาคตเราจะมีนักต่อสู้คนใหม่ ผุดขึ้นมาประดับสังคมที่มีคนแบบนี้เหลือน้อยเต็มที ในทางตรงกันข้าม กรณีของ พล.อ.ร่มเกล้า ทำให้เราได้เห็นธาตุแท้ การเอาตัวรอด ทำตัวเป็น “ไม้หลักปักขี้เลน” หาแก่นสารไม่ได้ของ นายทหารยศพลเอกบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนอย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่นับวันยิ่งดูทุเรศ น่าเวทนา ไร้ค่าจริงๆ ที่ผ่านมาถ้าสงบนิ่งอยู่เฉย ใช้ชีวิตในบั้นปลายให้กลายเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ แต่มาวันนี้เหมือนกับตัวเองได้สาวไส้ “เปลือย” ตัวเองออกมาจนล่อนจ้อน
00 แม้จะเห็นด้วยกับคำพูดของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่สะท้อนภาพออกมาได้เห็นจริงมากขึ้นหลังจากประกาศวางมือจากวงการไปแล้ว ว่าการปรองดองด้วยเสียงข้างมากลากไปจะไม่มีทางได้รับการยอมรับ ตรงกันข้ามจะก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก รวมไปถึงการเร่งรัดให้มีการนิรโทษกรรมก็ไม่ต่างกัน ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปคำพิพากษาของศาล ก็จะไม่มีความหมาย ก็จะใช้เสียงข้างมากในสภามาลบล้าง ซึ่งมันพิลึก ที่ความถูกผิด จะต้องตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก ตัดสินกันด้วยการเลือกตั้ง แต่ก็ทะแม่งกับการตั้งคำถามแบบเค้นคอ "บิ๊กบัง" ว่าใครอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ทำนองว่าเป็น "ป๋าเปรม" หรือเปล่า รวมทั้งเป็นคนพาเข้าเฝ้าฯ หรือเปล่า มันน่าคิดว่ารื้อฟื้นให้จำติดตาทำไม มันดูแปลกพิกล
00 นี่ก็น่าสนใจกับคำพูดของ นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคปชป. ในฐานะกมธ.ปรองดอง ตั้งข้อสังเกตกรณีที่กมธ.เสียงข้างมาก ให้นิรโทษกรรมยกเลิกความผิดที่เกี่ยวกับการเมืองทั้งหมด รวมไปถึงให้เพิกถอนผลทางกม. ที่ดำเนินการโดย คตส.ทั้งหมด ซึ่งอีกไม่นานจะมีการลากเข้าสู่สภาเพื่อให้โหวตกัน และก็แน่นอนอยู่แล้วว่าฝ่ายไหนชนะ จากนั้นขั้นตอนต่อไปก็จะมีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯทันที เพื่อให้ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภา เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าช่วยเหลือพวก “หัวโจก” เสื้อแดง ที่ไม่มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองช่วงปิดสมัยประชุมสภา มันก็แค่นั้นแหละ สำหรับการปรองดองที่บัดซบที่สุด ทุด !!
00 บอกแล้วว่าคนอย่าง นิชา คนนี้ไม่ธรรมดา คำพูดคำจา คมคาย มีหลักการที่ยึดแน่นไม่วอกแวก เป็นธรรมชาติ สามารถอธิบายได้เป็นฉากๆ หากตัดเอาเรื่อง “ความสูญเสีย” อันใหญ่หลวงของเธอและครอบครัวออกไปชั่วขณะ เชื่อว่าในอนาคตเราจะมีนักต่อสู้คนใหม่ ผุดขึ้นมาประดับสังคมที่มีคนแบบนี้เหลือน้อยเต็มที ในทางตรงกันข้าม กรณีของ พล.อ.ร่มเกล้า ทำให้เราได้เห็นธาตุแท้ การเอาตัวรอด ทำตัวเป็น “ไม้หลักปักขี้เลน” หาแก่นสารไม่ได้ของ นายทหารยศพลเอกบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนอย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่นับวันยิ่งดูทุเรศ น่าเวทนา ไร้ค่าจริงๆ ที่ผ่านมาถ้าสงบนิ่งอยู่เฉย ใช้ชีวิตในบั้นปลายให้กลายเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ แต่มาวันนี้เหมือนกับตัวเองได้สาวไส้ “เปลือย” ตัวเองออกมาจนล่อนจ้อน
00 แม้จะเห็นด้วยกับคำพูดของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่สะท้อนภาพออกมาได้เห็นจริงมากขึ้นหลังจากประกาศวางมือจากวงการไปแล้ว ว่าการปรองดองด้วยเสียงข้างมากลากไปจะไม่มีทางได้รับการยอมรับ ตรงกันข้ามจะก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก รวมไปถึงการเร่งรัดให้มีการนิรโทษกรรมก็ไม่ต่างกัน ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปคำพิพากษาของศาล ก็จะไม่มีความหมาย ก็จะใช้เสียงข้างมากในสภามาลบล้าง ซึ่งมันพิลึก ที่ความถูกผิด จะต้องตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก ตัดสินกันด้วยการเลือกตั้ง แต่ก็ทะแม่งกับการตั้งคำถามแบบเค้นคอ "บิ๊กบัง" ว่าใครอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ทำนองว่าเป็น "ป๋าเปรม" หรือเปล่า รวมทั้งเป็นคนพาเข้าเฝ้าฯ หรือเปล่า มันน่าคิดว่ารื้อฟื้นให้จำติดตาทำไม มันดูแปลกพิกล
00 นี่ก็น่าสนใจกับคำพูดของ นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคปชป. ในฐานะกมธ.ปรองดอง ตั้งข้อสังเกตกรณีที่กมธ.เสียงข้างมาก ให้นิรโทษกรรมยกเลิกความผิดที่เกี่ยวกับการเมืองทั้งหมด รวมไปถึงให้เพิกถอนผลทางกม. ที่ดำเนินการโดย คตส.ทั้งหมด ซึ่งอีกไม่นานจะมีการลากเข้าสู่สภาเพื่อให้โหวตกัน และก็แน่นอนอยู่แล้วว่าฝ่ายไหนชนะ จากนั้นขั้นตอนต่อไปก็จะมีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯทันที เพื่อให้ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภา เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าช่วยเหลือพวก “หัวโจก” เสื้อแดง ที่ไม่มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองช่วงปิดสมัยประชุมสภา มันก็แค่นั้นแหละ สำหรับการปรองดองที่บัดซบที่สุด ทุด !!
