ASTVผู้จัดการรายวัน-"พนิตา"เลื่อนฟ้อง"สันติ" เป็น 22 มี.ค. เหตุสำนวนหลักฐานไม่พร้อม ด้าน"สันติ" ไม่ห่วงถูกฟ้อง ยันทำตามหน้าที่ ย้อนเป็นข้าราชการต้องทำตามกฎหมาย "ประวัฒน์"พร้อมเคลียร์ใจ อ้างต้องปกป้องชื่อเสียงพรรคและวงศ์ตระกูล ปชป.จับตาส่อเป็นมวยล้ม ต้มคนดู
จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย น้องชาย จะเดินทางไปศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้องนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเตรียมยื่นฟ้องอีกหลายเรื่อง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) หากนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีคำสั่งให้ทบทวนมติครม. ที่มีการโยกย้ายนางพนิตา ออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ กลับมาทบทวนใหม่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปศาลอาญา เพื่อรอรายงานข่าวดังกล่าว ซึ่งปรากฎว่า นางพนิตา ได้ขอเลื่อนการฟ้องร้องไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 22 มี.ค.นี้ เนื่องจากสำนวนหลักฐานไม่พร้อม
** "สันติ"ยันทำตามหน้าที่
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน นางพนิตา ซึ่งถูกกล่าวหา เรื่องเบิกจ่ายเงินบริจาคใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ ว่า ความจริงแล้ว ตนไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ กับอดีตท่านปลัดฯ แค่ทำตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีเอกสารแจ้งมา ก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และเรียกเงินคืน จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีโทษทัณฑ์อะไร และไม่เชื่อว่าจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค เพราะเป็นเรื่องของปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน
"แค่ทำตามกฎระเบียบ และกฎหมาย และผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง การใช้เงินของส่วนราชการ งบประมาณไม่ถูกไม่ต้อง เราก็ต้องตรวจสอบ เพราะเป็นความจำเป็นต่อการบริหารราชการที่ดี ไม่ได้มีเรื่องของความขัดแย้ง หรือสิ่งใดๆ แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติดูแลบริหารราชการแผ่นดินธรรมดา และหากพรรคเพื่อไทย จะตั้งกระทู้ถามผมในเรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะทำตามกฎหมาย และโดยส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น แม้แต่ตัวปลัดฯ เอง ก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน"นายสันติกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงวันนี้มีการเคลียร์ใจกับนายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นน้องชายนางพนิตา แล้วหรือยัง นายสันติ กล่าวว่า คิดว่าท่านประวัฒน์ ก็คงเข้าใจ แต่การตั้งคณะกรรมการสอบตามการสั่งการของ สตง.นั้น ทำให้นายประวัฒน์ เสียใจ และตนก็เสียใจเหมือนกัน การทำงานในหน้าที่ ก็ต้องเป็นการทำงานในหน้าที่ เราก็คงไม่ได้เลือกปฏิบัติ ว่าคนนั้นคนนี้ เป็นใคร และคนที่เป็นข้าราชการแผ่นดิน ก็ต้องทำตามระเบียบของกฎหมาย และเรื่องของความเสียใจ ตนก็เสียใจเหมือนกัน ก็คล้ายๆ กับท่านประวัฒน์ แต่ทำไงได้ ในเมื่อ สตง. ทำหนังสือมาอย่างนั้น ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย สอบแล้วได้ผลอย่างไร ก็ค่อยว่ากัน แต่ก็ขอให้ทางคณะกรรมการฯ ให้ความเป็นธรรมกับท่านปลัดฯ ก็เท่านั้นเอง ทุกอย่างกำลังดำเนินการอยู่
สำหรับนางพนิตา ที่จะยื่นฟ้องร้อง ดำเนินคดีอาญาตนในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม มาตรา 157 นั้น ก็เป็นสิทธิของเขา ไม่ได้มีปัญหา ถ้าหากตราบใดที่ทุกคนทำในสิ่งที่ถูกต้อง อะไรที่เป็นสิทธิ ก็เป็นสิทธิ ส่วนที่นางพนิตา ยื่นคำขาดว่า หากยังไม่มีความชัดเจน อาจจะยื่น ฟ้องไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ตนคงเรียนว่า ทุกอย่างที่เป็นสิทธิก็ดำเนินการได้ แต่ก็ยังยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอคติใดๆ ทั้งสิ้น
** "ประวัฒน์"พร้อมเคลียร์ใน"สันติ"
นายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมพรรค ว่า จะรอดูช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อหารือกรณีการโยกย้ายนางพนิตา เนื่องจากการประชุมพรรคครั้งนี้ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของพรรค และงบประมาณต่างๆ ซึ่งจะมีคณะกรรมการการเลือกตั้งเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้พรรคเกิดความเสียหาย
สำหรับการประชุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ประธาน ส.ส.พรรค ได้เสนอทางออกที่ตนยอมรับได้ โดยจะเสนอนายกรัฐมนตรี ให้นัดพูดคุยกับนายสันติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งตั้งแต่เกิด เรื่องยังไม่เคยพูดคุยกันแม้แต่ครั้งเดียว และจะหาโอกาสพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีด้วย
นายประวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องระหว่างตนกับนายสันติ ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ยอมรับว่าเหนื่อยใจ และอึดอัดใจในกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากตนเป็นส.ส.ของพรรค ต้องปกป้องชื่อเสียงพรรค แล้วในฐานะที่เป็นน้องชาย ก็ต้องปกป้องชื้อเสียงวงศ์ตระกูล และป้องกันการถูกกลั่นแกล้งของข้าราชการประจำในอนาคต ส่วนที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการสบสวนทางวินัย ตนไม่ติดใจ เนื่องจากเห็นว่ามีความเป็นกลาง
**วิปฝ่ายค้านชี้ส่อเป็นมวยล้ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอให้ติดตามดูว่าจะเป็นมวยล้มหรือไม่ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างยืนยันว่าฝ่ายตัวเองถูกต้อง โดยทางปลัดฯ บอกว่าที่ถูกย้าย เพราะว่าจะมีการหากินกับโครงการสร้างตึกใหม่ ของกระทรวงฯ ส่วนฝ่ายรัฐมนตรี อ้างว่าปลัดฯ ใช้เงินผิดประเภทในการเดินทางไปต่างประเทศ สุดท้ายเรื่องนี้ อาจจะเจ๊ากันไป และกลายเป็นมวยล้ม
จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย น้องชาย จะเดินทางไปศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้องนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเตรียมยื่นฟ้องอีกหลายเรื่อง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) หากนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีคำสั่งให้ทบทวนมติครม. ที่มีการโยกย้ายนางพนิตา ออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ กลับมาทบทวนใหม่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปศาลอาญา เพื่อรอรายงานข่าวดังกล่าว ซึ่งปรากฎว่า นางพนิตา ได้ขอเลื่อนการฟ้องร้องไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 22 มี.ค.นี้ เนื่องจากสำนวนหลักฐานไม่พร้อม
** "สันติ"ยันทำตามหน้าที่
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน นางพนิตา ซึ่งถูกกล่าวหา เรื่องเบิกจ่ายเงินบริจาคใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ ว่า ความจริงแล้ว ตนไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ กับอดีตท่านปลัดฯ แค่ทำตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีเอกสารแจ้งมา ก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และเรียกเงินคืน จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีโทษทัณฑ์อะไร และไม่เชื่อว่าจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค เพราะเป็นเรื่องของปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน
"แค่ทำตามกฎระเบียบ และกฎหมาย และผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง การใช้เงินของส่วนราชการ งบประมาณไม่ถูกไม่ต้อง เราก็ต้องตรวจสอบ เพราะเป็นความจำเป็นต่อการบริหารราชการที่ดี ไม่ได้มีเรื่องของความขัดแย้ง หรือสิ่งใดๆ แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติดูแลบริหารราชการแผ่นดินธรรมดา และหากพรรคเพื่อไทย จะตั้งกระทู้ถามผมในเรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะทำตามกฎหมาย และโดยส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น แม้แต่ตัวปลัดฯ เอง ก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน"นายสันติกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงวันนี้มีการเคลียร์ใจกับนายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นน้องชายนางพนิตา แล้วหรือยัง นายสันติ กล่าวว่า คิดว่าท่านประวัฒน์ ก็คงเข้าใจ แต่การตั้งคณะกรรมการสอบตามการสั่งการของ สตง.นั้น ทำให้นายประวัฒน์ เสียใจ และตนก็เสียใจเหมือนกัน การทำงานในหน้าที่ ก็ต้องเป็นการทำงานในหน้าที่ เราก็คงไม่ได้เลือกปฏิบัติ ว่าคนนั้นคนนี้ เป็นใคร และคนที่เป็นข้าราชการแผ่นดิน ก็ต้องทำตามระเบียบของกฎหมาย และเรื่องของความเสียใจ ตนก็เสียใจเหมือนกัน ก็คล้ายๆ กับท่านประวัฒน์ แต่ทำไงได้ ในเมื่อ สตง. ทำหนังสือมาอย่างนั้น ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย สอบแล้วได้ผลอย่างไร ก็ค่อยว่ากัน แต่ก็ขอให้ทางคณะกรรมการฯ ให้ความเป็นธรรมกับท่านปลัดฯ ก็เท่านั้นเอง ทุกอย่างกำลังดำเนินการอยู่
สำหรับนางพนิตา ที่จะยื่นฟ้องร้อง ดำเนินคดีอาญาตนในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม มาตรา 157 นั้น ก็เป็นสิทธิของเขา ไม่ได้มีปัญหา ถ้าหากตราบใดที่ทุกคนทำในสิ่งที่ถูกต้อง อะไรที่เป็นสิทธิ ก็เป็นสิทธิ ส่วนที่นางพนิตา ยื่นคำขาดว่า หากยังไม่มีความชัดเจน อาจจะยื่น ฟ้องไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ตนคงเรียนว่า ทุกอย่างที่เป็นสิทธิก็ดำเนินการได้ แต่ก็ยังยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอคติใดๆ ทั้งสิ้น
** "ประวัฒน์"พร้อมเคลียร์ใน"สันติ"
นายประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมพรรค ว่า จะรอดูช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อหารือกรณีการโยกย้ายนางพนิตา เนื่องจากการประชุมพรรคครั้งนี้ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของพรรค และงบประมาณต่างๆ ซึ่งจะมีคณะกรรมการการเลือกตั้งเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้พรรคเกิดความเสียหาย
สำหรับการประชุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ประธาน ส.ส.พรรค ได้เสนอทางออกที่ตนยอมรับได้ โดยจะเสนอนายกรัฐมนตรี ให้นัดพูดคุยกับนายสันติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งตั้งแต่เกิด เรื่องยังไม่เคยพูดคุยกันแม้แต่ครั้งเดียว และจะหาโอกาสพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีด้วย
นายประวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องระหว่างตนกับนายสันติ ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ยอมรับว่าเหนื่อยใจ และอึดอัดใจในกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากตนเป็นส.ส.ของพรรค ต้องปกป้องชื่อเสียงพรรค แล้วในฐานะที่เป็นน้องชาย ก็ต้องปกป้องชื้อเสียงวงศ์ตระกูล และป้องกันการถูกกลั่นแกล้งของข้าราชการประจำในอนาคต ส่วนที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการสบสวนทางวินัย ตนไม่ติดใจ เนื่องจากเห็นว่ามีความเป็นกลาง
**วิปฝ่ายค้านชี้ส่อเป็นมวยล้ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอให้ติดตามดูว่าจะเป็นมวยล้มหรือไม่ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างยืนยันว่าฝ่ายตัวเองถูกต้อง โดยทางปลัดฯ บอกว่าที่ถูกย้าย เพราะว่าจะมีการหากินกับโครงการสร้างตึกใหม่ ของกระทรวงฯ ส่วนฝ่ายรัฐมนตรี อ้างว่าปลัดฯ ใช้เงินผิดประเภทในการเดินทางไปต่างประเทศ สุดท้ายเรื่องนี้ อาจจะเจ๊ากันไป และกลายเป็นมวยล้ม
