ASTVผู้จัดการรายวัน - เผยประชาชนกว่าร้อยละ 92 มั่นใจว่าศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ จำเป็นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ขณะร้อยละ 62 มองว่า นักการเมืองมุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้อง ขณะที่ สวนดุสิตโพลชี้ประชาชนไม่เชื่อ "ปู" เรื่องปรองดองและแก้ปัญหาค่าครองชีพ
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง “เสียงสะท้อนของสาธารณชนต่อนักการเมือง กับภารกิจที่ประชาชนอยากให้นายกรัฐมนตรีทำ” โดยสำรวจจากประชาชนใน 17 จังหวัด จำนวน 2,153 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค.55 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.8 มองว่า นักการเมืองมุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้อง แต่ร้อยละ 79.7 ยังคงต้องการนักการเมืองอยู่ เพราะเชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน เป็นปากเป็นเสียงให้แก่ประชาชนได้
ขณะเดียวกัน ประชาชนร้อยละ 86.1 ยังคงเชื่อมั่นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยร้อยละ 92.2 มั่นใจว่า ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ยังคงเป็นสถาบันหลัก ที่จำเป็นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ประชาชนร้อยละ 67.4 ชื่นชอบการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจแบบเฉียบพลัน โดยไม่แจ้งให้ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่รับทราบล่วงหน้า เพราะจะได้เห็นการทำงานที่แท้จริง ทำให้ข้าราชการตื่นตัวในการทำงาน โดยร้อยละ 77.7 อยากให้นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรง ร้อยละ 76.5 อยากให้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ให้บริการประชาชน เช่น สถานีขนส่ง โรงพยาบาลรัฐ สถานีตำรวจ เป็นต้น และ ร้อยละ 74.3 อยากให้ลงพื้นที่ตลาดสด ร้านค้า เพื่อตรวจสอบราคาสินค้า
**ไม่เชื่อ"ปู"เรื่องปรองดอง-ค่าครองชีพ
ขณะที่"สวนดุสิตโพล" สำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและฝ่ายค้าน จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 3,339 คน ระหว่างวันที่ 10 -17 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการเมืองไทย ณ วันนี้ ในภาพรวม
อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 44.36 % เพราะการเมืองไทยในวันนี้มีแต่ความขัดแย้ง และหวังประโยชน์ , มีหลายเหตุการณ์ที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการหรือควบคุมได้ ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เชื่อมั่น 23.40 % เพราะรู้สึกเบื่อการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม ไม่คาดหวังกับการเมืองบ้านเราอยู่แล้ว ,นักการเมืองขาดความสามัคคี แตกแยก ฯลฯ อันดับ 3 ค่อนข้างเชื่อมั่น 19.64 % เพราะ รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ต้องอาศัยเวลาค่อยเป็นค่อยไป การเมืองเป็นเรื่องสำคัญที่สังคมต่างจับตามอง อันดับ 4 เชื่อมั่นมาก 12.60 % เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและความเป็นผู้นำของนายกฯ รัฐบาลมีเสถียรภาพ,ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
ส่วนเรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “การเมืองไทย” มีดังนี้ ความเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี 59.96 % เรื่องที่ไม่เชื่อมั่น คือ การสร้างความปรองดองทางการเมือง 46.68 %
ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “เศรษฐกิจไทย” ณ วันนี้ ในภาพรวม อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 43.01 % เพราะทุกวันนี้ประชาชนต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้าอุปโภค บริโภคมีราคาแพง , การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศของรัฐบาล ฯลฯ
เรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ“ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “เศรษฐกิจไทย” เรื่องที่เชื่อมั่น 53.40 % การส่งเสริมธุรกิจการค้าและการลงทุน เรื่องที่ไม่เชื่อมั่น 60.35 % การแก้ปัญหาค่าครองชีพ
ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “สภาพสังคมไทย” ณ วันนี้ ในภาพรวม พบว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น 49.9 % เพราะสังคมไทยทุกวันนี้มีแต่ความแตกแยก ขาดสามัคคี
ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “ฝ่ายรัฐบาล” ณ วันนี้ ในภาพรวม “ความเชื่อมั่น” ต่อ “ฝ่ายรัฐบาล” ค่อนข้างเชื่อมั่น 32.29 เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจ
เรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “ฝ่ายรัฐบาล” เชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี 58.29 เรื่องที่ไม่เชื่อมั่นคือ การแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง 49.30 ส่วนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “ฝ่ายค้าน” ณ วันนี้ ในภาพรวม ไม่ค่อยเชื่อมั่น 37.28 เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ต่างฝ่ายต่างเอาดีใส่ตัวและกล่าวหากันไปมา
เรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “ฝ่ายค้าน” เรื่องที่เชื่อมั่น 59.33 %การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เรื่องที่ไม่เชื่อมั่น 53.24 % การเล่นเกมทางการเมือง
ระหว่าง “ฝ่ายรัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน” ประชาชนเชื่อมั่นฝ่ายใดมากกว่ากัน พบว่าเชื่อมั่น “ฝ่ายรัฐบาล” มากกว่า “ฝ่ายค้าน” 37.30 % เพราะ ชื่นชอบและเชื่อมั่นในตัวนายกฯ มีทีมงานเก่งและมีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่ดีในการช่วยเหลือประชาชน ฯลฯ ไม่เชื่อมั่นทั้ง 2 ฝ่าย 31.83 % เพราะ การเมืองไทยมีแต่ความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท โจมตีกันไปมา แย่งชิงผลประโยชน์ สนใจแต่อำนาจ พวกพ้อง ฯลฯ.
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง “เสียงสะท้อนของสาธารณชนต่อนักการเมือง กับภารกิจที่ประชาชนอยากให้นายกรัฐมนตรีทำ” โดยสำรวจจากประชาชนใน 17 จังหวัด จำนวน 2,153 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค.55 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.8 มองว่า นักการเมืองมุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้อง แต่ร้อยละ 79.7 ยังคงต้องการนักการเมืองอยู่ เพราะเชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน เป็นปากเป็นเสียงให้แก่ประชาชนได้
ขณะเดียวกัน ประชาชนร้อยละ 86.1 ยังคงเชื่อมั่นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยร้อยละ 92.2 มั่นใจว่า ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ยังคงเป็นสถาบันหลัก ที่จำเป็นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ประชาชนร้อยละ 67.4 ชื่นชอบการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจแบบเฉียบพลัน โดยไม่แจ้งให้ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่รับทราบล่วงหน้า เพราะจะได้เห็นการทำงานที่แท้จริง ทำให้ข้าราชการตื่นตัวในการทำงาน โดยร้อยละ 77.7 อยากให้นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรง ร้อยละ 76.5 อยากให้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ให้บริการประชาชน เช่น สถานีขนส่ง โรงพยาบาลรัฐ สถานีตำรวจ เป็นต้น และ ร้อยละ 74.3 อยากให้ลงพื้นที่ตลาดสด ร้านค้า เพื่อตรวจสอบราคาสินค้า
**ไม่เชื่อ"ปู"เรื่องปรองดอง-ค่าครองชีพ
ขณะที่"สวนดุสิตโพล" สำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและฝ่ายค้าน จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 3,339 คน ระหว่างวันที่ 10 -17 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการเมืองไทย ณ วันนี้ ในภาพรวม
อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 44.36 % เพราะการเมืองไทยในวันนี้มีแต่ความขัดแย้ง และหวังประโยชน์ , มีหลายเหตุการณ์ที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการหรือควบคุมได้ ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เชื่อมั่น 23.40 % เพราะรู้สึกเบื่อการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม ไม่คาดหวังกับการเมืองบ้านเราอยู่แล้ว ,นักการเมืองขาดความสามัคคี แตกแยก ฯลฯ อันดับ 3 ค่อนข้างเชื่อมั่น 19.64 % เพราะ รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ต้องอาศัยเวลาค่อยเป็นค่อยไป การเมืองเป็นเรื่องสำคัญที่สังคมต่างจับตามอง อันดับ 4 เชื่อมั่นมาก 12.60 % เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและความเป็นผู้นำของนายกฯ รัฐบาลมีเสถียรภาพ,ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
ส่วนเรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “การเมืองไทย” มีดังนี้ ความเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี 59.96 % เรื่องที่ไม่เชื่อมั่น คือ การสร้างความปรองดองทางการเมือง 46.68 %
ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “เศรษฐกิจไทย” ณ วันนี้ ในภาพรวม อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 43.01 % เพราะทุกวันนี้ประชาชนต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้าอุปโภค บริโภคมีราคาแพง , การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศของรัฐบาล ฯลฯ
เรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ“ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “เศรษฐกิจไทย” เรื่องที่เชื่อมั่น 53.40 % การส่งเสริมธุรกิจการค้าและการลงทุน เรื่องที่ไม่เชื่อมั่น 60.35 % การแก้ปัญหาค่าครองชีพ
ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “สภาพสังคมไทย” ณ วันนี้ ในภาพรวม พบว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น 49.9 % เพราะสังคมไทยทุกวันนี้มีแต่ความแตกแยก ขาดสามัคคี
ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “ฝ่ายรัฐบาล” ณ วันนี้ ในภาพรวม “ความเชื่อมั่น” ต่อ “ฝ่ายรัฐบาล” ค่อนข้างเชื่อมั่น 32.29 เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจ
เรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “ฝ่ายรัฐบาล” เชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี 58.29 เรื่องที่ไม่เชื่อมั่นคือ การแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง 49.30 ส่วนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “ฝ่ายค้าน” ณ วันนี้ ในภาพรวม ไม่ค่อยเชื่อมั่น 37.28 เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ต่างฝ่ายต่างเอาดีใส่ตัวและกล่าวหากันไปมา
เรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น” และ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อ “ฝ่ายค้าน” เรื่องที่เชื่อมั่น 59.33 %การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เรื่องที่ไม่เชื่อมั่น 53.24 % การเล่นเกมทางการเมือง
ระหว่าง “ฝ่ายรัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน” ประชาชนเชื่อมั่นฝ่ายใดมากกว่ากัน พบว่าเชื่อมั่น “ฝ่ายรัฐบาล” มากกว่า “ฝ่ายค้าน” 37.30 % เพราะ ชื่นชอบและเชื่อมั่นในตัวนายกฯ มีทีมงานเก่งและมีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่ดีในการช่วยเหลือประชาชน ฯลฯ ไม่เชื่อมั่นทั้ง 2 ฝ่าย 31.83 % เพราะ การเมืองไทยมีแต่ความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท โจมตีกันไปมา แย่งชิงผลประโยชน์ สนใจแต่อำนาจ พวกพ้อง ฯลฯ.
