00 ทำท่าจะเป็นเรื่องยาวเสียแล้วกับการเด้ง พนิตา กำภู ณ อยุธยา พ้นจากปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไปนั่งในกรุที่ปรึกษานายกฯ เมื่อสองสามวันก่อน เพราะต่างฝ่ายก็มี“แบ็กดี” มีพาวเวอร์ผลักดันไม่เบากันทั้งคู่ และเพิ่งรู้ว่า อดีตปลัดกระทรวงหมาดๆ คนนี้ เป็นพี่สาวของประวัฒน์ อุตตะโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และด้วยชื่อชั้นทางการเมือง ถือว่าไม่บันเบา เมื่อเทียบกับคนที่ชงเรื่องให้ปลดอย่างเจ้ากระทรวงคือ สันติ พร้อมพัฒน์ เพราะงานนี้ ถ้าเคลียร์กันไม่ดีรับรองว่าป่วนแน่
00 อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดและที่มาที่ไปของต้นเหตุการสั่งเด้ง และการตั้งกรรมการสอบสวนอดีตปลัดพม. ถือว่ายังไม่ชัดเจนว่ามาจากเรื่องอะไรกันแน่ แต่รับรองว่า มีเรื่อง “ผลประโยชน์” เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน อาจมีรายการไปขวาง รวมไปถึงการจะล้มประมูลใหม่ ประมาณนี้แหละ เพราะยี่ห้อ และหน้าตาของคนอย่าง สันติ แล้วรับรองว่าไม่ธรรมดา นี่ขนาดมานั่งแค่กระทรวงแบบนี้ ยังหาช่องเอาจนได้ แต่คราวนี้ดันมาเจอกับพี่สาวของ“ขาใหญ่”ในพรรคเดียวกัน โดยบังเอิญซึ่งบางทีเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พนิตา เป็นพี่สาวของประวัฒน์ เพราะแม้แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนที่ลงนามในคำสั่งย้าย ก็ยังยอมรับว่าไม่รู้ นี่ว่ากันเฉพาะแรง“สั่นสะเทือน”อย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับเรื่องความถูกผิด
00 น่าสังเกตก็คือ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้วถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างภาพลบทำลายแนวร่วมให้เกิดขึ้นกับรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาอีก และเมื่อดูจากมวลชนที่มาให้กำลังใจอดีตปลัดพม. ถือว่า “เหนียวแน่น” และมีพลังไม่เบา เมื่อบวกกับพลังของ“น้องชาย” งานนี้เชื่อว่าอาจต้องถึงมือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนายใหญ่เข้ามาเคลียร์เองก็ได้
00 ได้อ่านข่าวศาลอุทธรณ์จังหวัดขอนแก่น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 8 หัวโจกเสื้อแดง โทษฐานเผาธนาคารกรุงเทพที่นั่น ลดหลั่นกันลงไป และสั่งจำเลยบางคนชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายโจทก์อีกจำนวนถึงเกือบ 30 ล้านบาท ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง เมื่อได้เห็นรายงานการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เวลานี้เป็น ฯพณฯ รัฐมนตรี มีทรัพย์สินรวมกันกว่า 16 ล้านบาท โอ้ ชะตาชีวิตของมนุษย์นี่บางครั้งมันอัศจรรย์พันลึกจริงๆ แต่บางครั้งอาจจะเกี่ยวข้องกับความโง่ และความฉลาด รู้จักฉกฉวย ใช้ประโยชน์จากความเป็น“ไพร่” ด้วยกันเองก็ได้ ฝ่ายแรกเป็นไพร่ของจริง แต่ฝ่ายหลังนี่มันเป็นไพร่อีกประเภทหนึ่ง น่าจะเป็น “ไพร่พันธุ์พิเศษ” มันช่างต่างกันลิบ อ้อ “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” ทุด !!
00 “จนเครียด อยากกระทืบแม้ว” หลายคนกำลังเปลี่ยนคำพูดใหม่ จากเดิมที่เคยเห็นข้อความปลุกระดมยกยอ ทักษิณ ชินวัตร ว่า “จนเครียด คิดถึง ทักษิณ” แต่วันนี้เมื่อรัฐบาลน้องสาวตัวเอง ที่เป็นผลผลิตมาจากสมองใน“หัวสี่เหลี่ยม” ของพี่ชาย กำลังทำให้เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แพงกันทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่โม้ว่า “จะกระชากค่าครองชีพ” ลงมา นั้นกลายเป็นตรงข้าม เมื่อรัฐบาลกำลังอุ้มผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมันกระทืบคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งคนไทยที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนเสื้อแดงเป็นส่วนใหญ่นั่นแหละ !!
00 กำลังร่อนเร่มาสิงสถิตย์ อยู่ที่เขมรอีกรอบ ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนกับ ฮุน เซน เรื่องฮุบสัมปทานน้ำมันในอ่าวไทย หรืออย่างไร เห็นเร่งกันยิกเชียว มันก็ต้องคิดให้เห็นภาพแบบนี้ สำหรับคนอย่างเขา ทุกอย่างต้องมีแต่เรื่องกำไร ขณะที่น่าทุเรศไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งหัวหงอก หัวดำ ไม่เป็นอันทำงานในสภา ต่างกระวนกระวาย ต้องรีบไปพบ “เสนอหน้า” ให้ได้ ทำราวกับว่าโอกาสเปิดแล้ว พลาดไม่ได้เป็นอันขาด เวรกรรมของประเทศไทยจริงจริง !!
00 อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดและที่มาที่ไปของต้นเหตุการสั่งเด้ง และการตั้งกรรมการสอบสวนอดีตปลัดพม. ถือว่ายังไม่ชัดเจนว่ามาจากเรื่องอะไรกันแน่ แต่รับรองว่า มีเรื่อง “ผลประโยชน์” เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน อาจมีรายการไปขวาง รวมไปถึงการจะล้มประมูลใหม่ ประมาณนี้แหละ เพราะยี่ห้อ และหน้าตาของคนอย่าง สันติ แล้วรับรองว่าไม่ธรรมดา นี่ขนาดมานั่งแค่กระทรวงแบบนี้ ยังหาช่องเอาจนได้ แต่คราวนี้ดันมาเจอกับพี่สาวของ“ขาใหญ่”ในพรรคเดียวกัน โดยบังเอิญซึ่งบางทีเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พนิตา เป็นพี่สาวของประวัฒน์ เพราะแม้แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนที่ลงนามในคำสั่งย้าย ก็ยังยอมรับว่าไม่รู้ นี่ว่ากันเฉพาะแรง“สั่นสะเทือน”อย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับเรื่องความถูกผิด
00 น่าสังเกตก็คือ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้วถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างภาพลบทำลายแนวร่วมให้เกิดขึ้นกับรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาอีก และเมื่อดูจากมวลชนที่มาให้กำลังใจอดีตปลัดพม. ถือว่า “เหนียวแน่น” และมีพลังไม่เบา เมื่อบวกกับพลังของ“น้องชาย” งานนี้เชื่อว่าอาจต้องถึงมือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนายใหญ่เข้ามาเคลียร์เองก็ได้
00 ได้อ่านข่าวศาลอุทธรณ์จังหวัดขอนแก่น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 8 หัวโจกเสื้อแดง โทษฐานเผาธนาคารกรุงเทพที่นั่น ลดหลั่นกันลงไป และสั่งจำเลยบางคนชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายโจทก์อีกจำนวนถึงเกือบ 30 ล้านบาท ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง เมื่อได้เห็นรายงานการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เวลานี้เป็น ฯพณฯ รัฐมนตรี มีทรัพย์สินรวมกันกว่า 16 ล้านบาท โอ้ ชะตาชีวิตของมนุษย์นี่บางครั้งมันอัศจรรย์พันลึกจริงๆ แต่บางครั้งอาจจะเกี่ยวข้องกับความโง่ และความฉลาด รู้จักฉกฉวย ใช้ประโยชน์จากความเป็น“ไพร่” ด้วยกันเองก็ได้ ฝ่ายแรกเป็นไพร่ของจริง แต่ฝ่ายหลังนี่มันเป็นไพร่อีกประเภทหนึ่ง น่าจะเป็น “ไพร่พันธุ์พิเศษ” มันช่างต่างกันลิบ อ้อ “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” ทุด !!
00 “จนเครียด อยากกระทืบแม้ว” หลายคนกำลังเปลี่ยนคำพูดใหม่ จากเดิมที่เคยเห็นข้อความปลุกระดมยกยอ ทักษิณ ชินวัตร ว่า “จนเครียด คิดถึง ทักษิณ” แต่วันนี้เมื่อรัฐบาลน้องสาวตัวเอง ที่เป็นผลผลิตมาจากสมองใน“หัวสี่เหลี่ยม” ของพี่ชาย กำลังทำให้เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แพงกันทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่โม้ว่า “จะกระชากค่าครองชีพ” ลงมา นั้นกลายเป็นตรงข้าม เมื่อรัฐบาลกำลังอุ้มผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมันกระทืบคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งคนไทยที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนเสื้อแดงเป็นส่วนใหญ่นั่นแหละ !!
00 กำลังร่อนเร่มาสิงสถิตย์ อยู่ที่เขมรอีกรอบ ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนกับ ฮุน เซน เรื่องฮุบสัมปทานน้ำมันในอ่าวไทย หรืออย่างไร เห็นเร่งกันยิกเชียว มันก็ต้องคิดให้เห็นภาพแบบนี้ สำหรับคนอย่างเขา ทุกอย่างต้องมีแต่เรื่องกำไร ขณะที่น่าทุเรศไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งหัวหงอก หัวดำ ไม่เป็นอันทำงานในสภา ต่างกระวนกระวาย ต้องรีบไปพบ “เสนอหน้า” ให้ได้ ทำราวกับว่าโอกาสเปิดแล้ว พลาดไม่ได้เป็นอันขาด เวรกรรมของประเทศไทยจริงจริง !!
