“จตุพร” พลิ้วไม่ตอบข้อเท็จจริงเงื่อนงำตั้ง 5 หจก. อ้างไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นข่าวหลายรอบแล้ว เรื่องมันจบไปนานแล้ว ไม่มีอะไรต้องชี้แจงอีก พร้อมโวหากมีปัญหาจริงคงโดน ป.ป.ช.ถลกหนังไปแล้ว บอกอายุมากพอสมควรไม่มีประโยชน์ที่จะต้องมาใช้ลีลาหลอกถาม
วันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา ได้ติดตามปมร้อนกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กับพวก คือ นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย และนายฐาปนา จินดากาญจน์ อดีตผู้มัครสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช สุมหัวตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โดยทิ้งปริศนาไว้มากมายทั้งเรื่อง เปิดพร้อมกัน 5 แห่งรวด มีที่ตั้งเลขที่เดียวกัน เลิกกิจการพร้อมกัน ให้กู้ยืมเกือบเท่าทุนจดทะเบียนทั้งที่ผลประกอบการทำกำไรอย่างมากแค่หลักพันบาท
โดยเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา นายจตุพรได้รับโทรศัพท์จากนักข่าวที่พยายามติดต่อเพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เมื่อนักข่าวถามว่า ขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดตั้ง หจก.5 แห่ง ในช่วงปี 2545 นายจตุพรกล่าวว่า “ผมไม่ตอบอะไร เป็นเรื่องเดิม ข่าวนี้ลงมาเป็นร้อยๆ รอบแล้ว แต่สำนักข่าวอิศราเอาข่าวนี้มาลงใหม่ ความจริงเป็นของที่ “มติชน” ลงไปหลายรอบแล้ว ลงกันหลายฉบับนะ “ประชาชาติ” ก็ลงตามปกติ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย มันก็จบไปแล้ว”
เมื่อถามว่า ทำไม หจก.ทั้ง 5 แห่ง แจ้งเลิกกิจการอย่างรวดเร็ว จัดตั้งปี 2545 และเลิกกิจการปี 2547 นายจตุพรกล่าวว่า “ผมไม่ตอบ.. (หัวเราะ) เรื่องมันจบไปนานแล้ว ลองไปดูข่าวสิ ตอนนั้นนะ มันเป็นข่าวไปแล้ว คือเราไม่ฟื้นสิ่งที่พวกทีมที่ออกจากมติชนทำ ความจริง เขาก็ทำลงใน มติชนอยู่ ..(หยุดนิดหนึ่ง) คือ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่พวกน้องเอามาลงใหม่ ในตอนที่ยึดอำนาจเรื่องนี้ก็เอามาลง ต่างกรรมต่างวาระกัน พี่ว่าเรื่องนี้ลงเป็น 10 ครั้งแล้วมั้ง”
เมื่อถามว่า การจัดตั้ง หจก.ทั้ง 5 แห่งไม่ใช่เรื่องใหม่ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ได้มีเรื่องอะไรใหม่ (เสียงแข็ง) ไม่เชื่อลองไปเปิดเช็กเครื่องคอมพิวเตอร์ดูเลย พอเรามาจับใหม่แล้วพี่ต้องตอบสิ่งที่มันลงไปแล้ว พี่ว่ามันไม่ใช่นะ
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าคุณจตุพรเอาเงินไปตั้ง หจก.8 ล้านกว่าบาท แต่เงินที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สินต่ำกว่า เงินส่วนนี้มันหายไปไหน นายจตุพร (หัวเราะ).. พร้อมกล่าวว่า ก็มันจบไปแล้ว พี่ก็แจ้งไปแล้ว ทุกอย่างถือว่าแจ้งครบไปหมดแล้ว
เมื่อถามว่า หมายถึงแจ้งข้อมูลบัญชีทรัพย์สินไปหมดแล้ว นายจตุพรกล่าวว่า “การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ก็คือ การแจ้งสิ่งที่มีอยู่จริงในช่วงที่แจ้ง (เน้นเสียง) ของเราก็ตรงไปตรงมา คือ ถ้ามีปัญหาเขา (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ) ก็ถลกหนังแดงเถือกอยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ เครือข่าย ที่แยกตัวออกมาจาก “มติชน” แล้ว มาทำ “สำนักข่าวอิศรา” เขาเป็นคนเอาไปลงมติชนเอง ลงประชาชาติเองไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร”
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าการจัดตั้ง หจก.5 แห่ง ไม่ใช่เรื่องใหม่ นายจตุพรกล่าวว่า “ลองไปดูสิ (เน้นเสียง) ลองไปเช็กในเน็ตดู พี่ก็ยังดูว่าทำไมเอามาลง ในสิ่งที่คณะนี้เคยลงหลายรอบแล้ว แล้วเราต้องมาตอบสิ่งซ้ำๆ ซากๆ มันเพื่ออะไร“”
เมื่อถามว่า แต่การจัดตั้ง หจก.5 แห่งเป็นข้อมูลใหม่ นายจตุพรกล่าวว่า “มันจะใหม่อย่างไง.. (เสียงแข็ง)”
เมื่อถามว่า มีการตรวจพบว่า หจก.ทั้ง 5 แห่ง ปล่อยเงินกู้ให้กับหุ้นส่วนผู้จัดการเอง นายจตุพร (ถอนหายใจ) พร้อมกล่าวว่า คือ มันจบไปแล้ว.. (ลากเสียงยาว) เราไปถามสิ่งที่มันลงไปแล้ว คือ เจ้าตัวที่เอาข้อมูลนี่มาลง มาเปิดในสำนักข่าวอิศรา ก็น่าจะเป็นกลุ่มคนกลุ่มเดียวที่เคยเอาไปลงใน “มติชน” - “ประชาชาติ” แล้ว มันก็จบไปแล้วไม่มีอะไรไง เราไปถามสิ่งที่จบแล้วได้ไง แล้วพี่ก็ไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาตอบ แล้วมันเรื่องอะไรที่ทางคณะเดิมที่ย้ายออกมาจากมติชน แล้วก็มาทำสิ่งที่ทำไว้เดิม พอถึงเวลาก็มาเล่นที เราไม่ใช่ลูกไล่ ที่มันจะต้องมาชี้แจงทุกครั้ง มันเรื่องอะไรกัน”
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าการเปิด หจก.ทั้ง 5 แห่งไม่มีปัญหาอะไร นายจตุพรกล่าวว่า “ไม่ใช่ยืนยันหรือไม่ยืนยัน (เสียงแข็ง) แต่มันไม่เข้าท่าไง คือถ้าเป็นเรื่องของใหม่ก็พอว่า แต่นี่คณะนี้... เอามาเปิดหลายรอบแล้ว เราอาจจะเพิ่งมาทำ ก็ลองไปดูในเน็ตก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเข้ามาตรวจสอบหรือไหม นายจตุพรกล่าวว่า “มันจะกลัวอะไร (ลากเสียงยาว) ก็ยื่นมาไม่รู้กี่รอบแล้ว หมายถึงว่า หนึ่งก็คือเรื่องนี้เปิดมาไม่รู้กี่รอบ เราก็แสดงบัญชี ป.ป.ช.หลายรอบแล้ว”
เมื่อถามว่า หจก.ทั้ง 5 แห่งทำธุรกิจจริง หรือเปิดมาเฉยๆ นายจตุพร (หัวเราะ หึหึๆ ) พร้อมกล่าววว่า ก็มันจบไปแล้ว เราไปถามสิ่งที่จบไปแล้ว เราพูดไม่รู้เรื่องนะ...(เสียงแข็ง) คือหมายความว่า เรามาถาม ถามเพื่ออะไร ถามในสิ่งที่คณะน้องบางคน เอาไปลงนสพ. ลงหลายรอบแล้ว อย่างที่พี่เล่าให้ฟัง ก็ไปย้อนดูสิ ถ้ามันเป็นเรื่อง ปานนี้มีเรื่องไปแล้ว แต่นี่มันไม่ใช่ไง
“ก็คณะของน้องอ่ะ ลงมาตั้งแต่ยุคขับเคลื่อน ตั้งแต่ คมช. (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) ยึดอำนาจ ก็เปิดต่างกรรมต่างวาระหลายครั้ง ถ้ามันผิดจริง ป่านนี่ผมถูกถลกหนังแดงเถือกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหม่ พี่ดูแล้วสำนักข่าวน้องที่ลง ให้เขาคลิปปิ้งข่าวดูทุกวัน ไม่ได้มีอะไรใหม่ ฉะนั้นเราไม่ตอบสิ่งที่มันจบไปแล้ว และเรามาถามสิ่งที่มันจบไปแล้ว มันไม่ถูก และโดยสำคัญที่สุด คนที่เอามาลงก็เคยนำไปใช้ลงหนังสือพิมพ์ ต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งอยู่แล้ว” นายจตุพรกล่าว
เมื่อถามว่า แต่สำนักข่าวอิศราต้องการให้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ นายจตุพรกล่าวว่า “มันเรื่องของน้อง ไม่ใช่เรื่องของพี่ (เสียงแข็ง) แต่เรื่องของพี่ก็คือ เรื่องนี้มันจบไปแล้ว และทีมที่แยกตัวมาจากมติชน ก็เคยเอาไปลงมาหลายรอบแล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ พี่ก็ไม่ได้ตื่นเต้น กับสิ่งที่ไม่ได้น่าตกใจอะไร เพราะสิ่งเหล่านี้ได้ลงต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งแล้ว”
เมื่อถามว่า แล้วเรื่องตึกอัลฟ่า บิลดิ้ง ชั้น 12 หจก.ทั้ง 5 แห่ง เข้าไปตั้งอยู่ได้อย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่พี่ต้องตอบน้อง พี่บอกแล้วไงว่ามันจบไปแล้ว เรามาถามวนแบบนี้ พี่ก็อายุมากพอสมควร ไม่มีประโยชน์ที่น้องจะต้องมาใช้ลีลาอะไรกัน (เสียงดุ) แต่ว่านี่เตือนว่า เราก็บอกเท่านี้ น้องก็น่าจะรู้แล้ว ไปเช็กดูในเน็ต ในที่กลุ่มของน้อง แต่ไม่ใช่ว่าน้องจะใช้ความสามารถในการมาหลอกล่อถามมา มันไม่มีประโยชน์
“ที่พี่คุยด้วยอยู่นี่ เพื่อที่จะบอกว่า คณะที่ทำงานกับน้องเอาเรื่องนี้มาลงแล้วหลายรอบ ลงหนังสือพิมพ์ด้วย ไม่ใช่ลงในเว็บ เหมือนกัน เนื้อหาเดียวกัน “มติชน” หน้าสองลงเต็มเลย ประชาชาติก็ลง หลายพวกหลายคณะก็ลง ผู้จัดการ เอเอสทีวี ก็เอาไปลง ลงหลายครั้ง เพราะฉะนั้น เราก็มาถามสิ่งที่จบไปแล้ว มันไม่มีประโยชน์ แล้วน้องก็มาหลอกล่อ ควรจะเคารพคนที่น้องต้องมาถามด้วย เพราะเรามันไม่ใช่นักการเมืองประเภทที่จะมาหลอกล่อจะอะไรมันไม่ใช่ เมื่อไรมันใช่ก็ใช่ แต่เรื่องนี้มันจบไปแล้ว เท่านั้นเอง” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่มีประโยชน์อะไร อยากจะทำอะไรก็เชิญ เพียงแต่ว่าพวกคุณเอามาเปิดต่างกรรมต่างวาระกันหลายรอบแล้ว คำว่า “อิศรา” มันควรจะมีคุณค่านะ (เสียงแข็ง) พอเปิดของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เสร็จก็มาเปิดของพี่ต่อ แต่ของพี่มันเปิดหลายรอบแล้ว โดยคณะนี้ และเนื้อความไม่ได้แตกต่างอะไรเลย เหมือนกันเด๊ะ ลงไปเช็กดู ทำเป็นเรื่องตื้นเต้นไปได้ ตัวเองเปิดเองอะไรเอง คุณจะมาเปิดทุกครั้งมันก็บ้าแล้ว และเราจะมาตอบทุกครั้งมันก็ไม่ใช่คนปกติ มันไม่ใช่เรื่อง ...”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการลงทุนธุรกิจ 5 แห่งของนายจตุพร เคยปรากฏเป็นข่าวเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ในข่าวดังกล่าวมิได้ถูกตั้งคำถามเรื่องเงื่อนงำ “ที่มา” ของเงินลงทุน 25 ล้านบาทและ “เงินให้กู้ยืม” จำนวน 23.7 ล้านบาทแต่อย่างใด