ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศาลอุทรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 8 เสื้อแดงขอนแก่น ร่วมกันบุกเผาทำลายทรัพย์สินแบงก์กรุงเทพ 19 พ.ค.53 พร้อมให้ชดเชยค่าเสียหาย 29.5ล้านบาท ชี้แม้รับสารภาพเป็นผลดีต่อการพิจารณาคดี แต่เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นเอาเยี่ยงอย่างสร้างความวุ่นวายเสียหายต่อสังคมและสุจริตชน จึงไม่รอการลงอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วานนี้ (15 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้พิพากษาศาลอุทรณ์ ได้นั่งบัลลังอ่านคำพิพากษาพิจารณาคดี กรณีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 แกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ก่อเหตุบุกเข้าไปใน ธนาคารกรุงเทพฯ แล้วก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินของทางธนาคารเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ธนาคารกรุงเทพฯ จึงได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 8 คน
ศาลอุทรณ์ได้อ่านคำพิพากษาสรุปคดีของศาลชั้นต้นที่พิพากษาตัดสินคดีนี้ไป ก่อนที่จำเลยทั้ง 8 คน จะยื่นอุทรณ์คดี ว่า จำเลยทั้ง 8 คน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ,365(1) (2) ประกอบกับมาตรา 83, 362 ,364 คือ การกระทำของจำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในธนาคารผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ก็เพื่อเจตนาทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหายให้ได้รับความเสียหาย จึงให้ลงโทษฐานบุกรุก ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้ง 8 กับพวก ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงหลงผิดก่อให้เกิดการกระทำความผิด จึงสมควรกำหนดโทษจำคุกมีกำหนดกระทงละ 1 ปี โดยจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 คือจำคุกจำเลยที่ 1 รวม 3 กระทง มีกำหนด 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 คนละ 1 กระทง มีโทษกำหนดจำคุกคนละ 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 มีความผิดคนละสองกระทง มีกำหนดโทษจำคุกคนละ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้ง 8 คน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 และเมื่อพิจารณาถึงผลการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และจำเลยทั้ง 8 คน ก็มิได้มีการบรรเทาผลชดใช้ค่าเสียหาย
รวมทั้ง เพื่อมิให้บุคคลอื่นถือเป็นเยี่ยงอย่างก่อเหตุขึ้นในลักษณะเดียวกัน จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้ และให้จำเลยทั้ง 8 คนร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายแก่โจทย์ โดยให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดเป็นจำนวนเงิน 29.5 ล้านบาท ให้กับโจทย์ คือ ธนาคารกรุงเทพฯ ในฐานะผู้เสียหาย
ทั้งนี้ จากคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิจารณาและตัดสินคดีดังกล่าวตามข้อมูลข้างต้น ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นอย่างยิ่ง ศาลอุทรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในคำพิพากษาตัดสินดังออกมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วานนี้ (15 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้พิพากษาศาลอุทรณ์ ได้นั่งบัลลังอ่านคำพิพากษาพิจารณาคดี กรณีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 แกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ก่อเหตุบุกเข้าไปใน ธนาคารกรุงเทพฯ แล้วก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินของทางธนาคารเมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ธนาคารกรุงเทพฯ จึงได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 8 คน
ศาลอุทรณ์ได้อ่านคำพิพากษาสรุปคดีของศาลชั้นต้นที่พิพากษาตัดสินคดีนี้ไป ก่อนที่จำเลยทั้ง 8 คน จะยื่นอุทรณ์คดี ว่า จำเลยทั้ง 8 คน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ,365(1) (2) ประกอบกับมาตรา 83, 362 ,364 คือ การกระทำของจำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในธนาคารผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ก็เพื่อเจตนาทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหายให้ได้รับความเสียหาย จึงให้ลงโทษฐานบุกรุก ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้ง 8 กับพวก ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงหลงผิดก่อให้เกิดการกระทำความผิด จึงสมควรกำหนดโทษจำคุกมีกำหนดกระทงละ 1 ปี โดยจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 คือจำคุกจำเลยที่ 1 รวม 3 กระทง มีกำหนด 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 คนละ 1 กระทง มีโทษกำหนดจำคุกคนละ 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 มีความผิดคนละสองกระทง มีกำหนดโทษจำคุกคนละ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้ง 8 คน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 และเมื่อพิจารณาถึงผลการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และจำเลยทั้ง 8 คน ก็มิได้มีการบรรเทาผลชดใช้ค่าเสียหาย
รวมทั้ง เพื่อมิให้บุคคลอื่นถือเป็นเยี่ยงอย่างก่อเหตุขึ้นในลักษณะเดียวกัน จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้ และให้จำเลยทั้ง 8 คนร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายแก่โจทย์ โดยให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดเป็นจำนวนเงิน 29.5 ล้านบาท ให้กับโจทย์ คือ ธนาคารกรุงเทพฯ ในฐานะผู้เสียหาย
ทั้งนี้ จากคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิจารณาและตัดสินคดีดังกล่าวตามข้อมูลข้างต้น ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นอย่างยิ่ง ศาลอุทรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในคำพิพากษาตัดสินดังออกมา