xs
xsm
sm
md
lg

ปูดอีก! อาศัยไทยก่อเหตุ การข่าวสั่งระวังหลายกลุ่มจ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (13 มี.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง ว่า ครม.รับทราบสรุปผลการประชุมบูรณาการด้านการข่าวเพื่อป้องกันและแก้ไขการก่อการร้าย หรือการก่อเหตุร้าย ซึ่งได้ข้อสรุปเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 14ก.พ.ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในการขอตัวนายมาซุด ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยกระทรวงการต่างประเทศได้รับการประสานงานและร่วมมืออย่างดีจากมาเลเซีย และมีการขอข้อมูลเพิ่มเติม เข้าใจว่าจะมีความคืบหน้าในการขยายผลเร็วนี้
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการควบคุมวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ในการก่อเหตุร้าย โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ในหลายหน่วยงาน และอยู่ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ ทำให้ยากต่อการบูรณาการ ที่ประชุมเห็นชอบให้หน่วยงานหลักเพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันควบคุมวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และการพูดถึงแนวโน้มก่อเหตุในไทย โดยที่ประชุมสรุปว่าไทยได้สืบทราบและจับกุมผู้ก่อเหตุในไทยได้ถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ความเสี่ยงในการก่อเหตุร้ายในไทยลดลงอย่างมารก และอย่างมีนัยยะสำคัญ
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังมีกลุ่มความขัดแย้งของชาติต่างๆ เข้ามาอาศัยในไทยจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจใช้ความรุนแรงต่อกันระหว่างเชื้อชาติ จึงทำให้ไทยมีความเสี่ยงที่ประชุมมีความเห็นให้เพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุร้าย เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องต่างๆ ที่สำคัญได้แก่ การตรวจคนเข้าเมือง การติดตั้งวงจรปิดในพื้นที่มีความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัยบุคคลและสถานที่สำคัญ ตามกฎหมายต่อกลุ่มจัดทำ การดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มที่จัดทำหนังสือเดินทางปลอม การตรวจสอบด้านการข่าวและการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสรุปการผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อการบูรณาการข่าวเพื่อป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การก่อเหตุร้ายครั้งที่2/2555 ดังนี้
1. ความคืบหน้าของคดีเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 14กุมภาพันธ์ 2555 ในเรื่องการขอตัว นายมาซุด เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกระทรวงการต่างประเทศได้รับการประสานจากมาเลเซียขอข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับนายมาซุด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับสำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาข้อมูลเพื่อส่งให้มาเลเซีย ในการนี้ที่ประชุมเห็นสมควรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้แสวงหาทางสบสวนสอบสวน ผู้ต้องหาให้ไดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเครือข่ายของกลุ่มก่อเหตุร้ายในไทยและที่มาของอุปกรณ์ทำระเบิดให้มากที่สุด เพื่อให้หน่วยข่าวในประโยชน์ขยายผลกรป้องกันการก่อเหตุร้ายต่อไป รวมทั้งเห็นสมควรเน้นย้ำให้ระมัดระวังเรื่องการให้ข่าวสื่อมวลชนที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และอาจกระทบต่อแหล่งข่าว ที่หน่วยข่าวกำลังตรวจสอบขยายผล
2. มาตรการและกลไกควบคมวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ก่อเหตุร้าย ปัจจุบันมีหน่วยรับผิดชอบในการกำหนดแนวทางและตั้งกลไกควบคุมวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถใช้ก่อเหตุร้ายอยู่หลายหน่วยงาน โดยมีกฎหมายรองรับอยู่หลายฉบับทำให้ยากต่อการบูรณาการ อย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภพ ทั้งในเรื่องของการควบคุม การเคลื่อนย้ายภายในประเทศ และการควบคุมการนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งการดำเนินการที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ที่ประชุมจึงเห็นสมควรให้หน่วยงานรับผิดชอบหลักเพิ่มความเข้มงวดกวดขัน ในการควบคุมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆดังกล่าว รวมทั้งขอให้ สมช.เป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการการบริหารจัดการเรื่องต่างๆดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินการสามารถดำเนินไปอย่างเป็นระบบ และเป็นเอกภาพในทิศทางเดียวกันต่อไป
3.แนวโน้มการก่อเหตุร้ายในไทยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าจากการที่ทางการไทยสามารถสืบทราบและจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายในไทย 2 ครั้ง ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ความเสี่ยงที่จะมีการก่อเหตุร้ายในไทยลดลง อย่างไรก็ตามโดยที่ปัจจุบันยังมีกลุ่มคนต่างประเทศที่ขัดแย้งกันได้เข้ามาอาศัยอยู่ในปะเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจใช้วิธีการ ใช้ความรุนแรงในลักษณะก่อเหตุร้ายต่อกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายจึงทำให้ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงที่อาจมีการก่อเหตุร้ายขึ้น ที่ประชุมจึงเห็นสมควรให้มีการเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุร้าย โดยเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องต่างๆที่สำคัญ ได้แก่การตรวจตราและติดตามคนเข้าเมือง การติดตั้งทีวีวงจรปิด ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัยบุคล และสถานที่สำคัญ การดำเนินการตามกฎหมายต่อกลุ่มที่จัดทำหนังสือเดินทางปลอม การตรวจสอบด้านการข่าว และการประสาความร่วมมือกับต่างประเทศ
อีกด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอแจ้งข้อกล่าวหากับนายซาอิด โมราดิ ผู้ต้องหาคดีระเบิดได้รับบาดเจ็บขาขาดสองข้างจากเหตุระเบิดซอยสุขุมวิท 71 โดยแพทย์ผู้ตรวจรักษาจะส่งหนังสือแจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันอาการว่า สามารถให้การได้หรือไม่อย่างไร โดยขณะนี้ได้ควบคุมตัวนายซาอิด ไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ จนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล จากนั้นพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออนุญาตศาลฝากขังต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีอาการดีขึ้นสามารถรับประทานอาหารและพูดคุยได้ตามปกติ ส่วนจะพร้อมให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเมื่อใดนั้น คงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่แพทย์ได้รายงานอาการของนายซาอิด ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบทุกวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น