“ปานศิริ” เผยยังไม่ออกหมายจับขบวนการบึ้มกลางกรุงเพิ่มเติม พบพยานหลักฐานมัด “โมฮัมหมัด” ผิดชัดเจน พร้อมย้ายผู้ต้องหาขาขาดรักษาที่ รพ.ตำรวจ รออาการดีขึ้นค่อยสอบปากคำและแจ้งข้อหา ได้ลายนิ้วมือคนที่นำสติกเกอร์ไปติดแล้ว ระบุความหมาย 2 ทาง ตามความเชื่อทางศาสนา-ขีปนาวุธ จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ยันเป้าสังหารตัวบุคคลไม่เกี่ยวสถานที่
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. และพล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้ร่วมประชุมคลี่คลายคดีเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด บริเวณซอยสุขุมวิท 71 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 รายซึ่งเป็นชาวอิหร่านตามที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ ตามหลักฐานที่ชุดสืบสวนสอบสวนรายงานให้ทราบ โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปานศิริเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งเป็นชาวอิหร่านในคดีระเบิด 3 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปแล้ว ประกอบด้วย นายซาอิด โมราดิ ผู้ต้องหาที่ถูกระเบิดขาขาด, นายโมฮัมหมัด คาซาอี ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, นายมาซุด ซีดากัส ซาเดท ผู้ต้องหาที่ทางการมาเลเซียจับกุมได้, นางโรฮานี ไลลา ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นคนเตรียมสถานที่พัก จัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงจักรยานยนต์ให้กับผู้ต้องหา และนายโนโรซิ ชายัน อาลี อัคบาร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมไปมากกว่า 5 ราย
พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับพบว่านายโมฮัมหมัด คาซาอี ที่ถูกควบคุมตัวไว้ขณะนี้นั้น พยานหลักฐานทั้งหมดระบุชัดเจนว่ามีการกระทำความผิดชัดเจนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายซาอิด โมราดิ ผู้ต้องหาอีกคนที่ขาขาดจากเหตุระเบิด ซึ่งขณะนี้ทางแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ยังคงทำการรักษาอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอให้ผู้ต้องหามีความพร้อมของสภาพร่างกายและจิตใจ จึงจะเข้าไปสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อหาได้ แต่ทั้งนี้ แพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ จะย้ายนายซาอิดมาทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ภายในบ่ายวันนี้ (6 มี.ค.)
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนหรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า มีการแบ่งหน้าที่กันในการก่อเหตุอย่างชัดเจน โดยนางโรฮานี ไลลา จะมีหน้าที่ติดต่อหาที่พัก จัดหาซื้อจักรยานยนต์เพื่อก่อเหตุ นายโนโรซิ ชายัน อาลี อัคบาร์ น่าจะเป็นตัวการสำคัญที่คอยวางแผนในการก่อเหตุ ส่วนฝ่ายปฏิบัติการหรือกลุ่มที่ลงมือจะเป็นผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ นายมาซุด นายซาอิด และนายโมฮัมหมัด คาซาอี ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งน่าจะมีชาวไทยร่วมอยู่ด้วยนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน
สำหรับสติกเกอร์ที่เขียนว่า “SEJEAL” ที่ติดไว้หลายจุด และยังพบอีกจำนวนมากในห้องพักของผู้ต้องหานั้น พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า ได้สั่งให้ไปสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว และพบว่าน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบตำรวจได้ลายนิ้วมือของบุคคลที่เกี่ยวข้องที่นำสติกเกอร์ไปติดไว้แล้ว
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการตรววจสอบของตำรวจสันติบาล ระบุว่า สติกเกอร์ดังกล่าวมีความหมายหรือแปลได้ 2 ทาง คือ 1. เป็นความหมายตามความเชื่อทางศาสนา และ 2. น่าจะเกี่ยวกับอาวุธ-ขีปนาวุธ ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดแน่ชัดอีกครั้ง และขอยืนยันว่าเป้าหมายการก่อเหตุของกลุ่มผู้ต้องหาครั้งนี้เป็นตัวบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานที่แต่อย่างใด
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. และพล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้ร่วมประชุมคลี่คลายคดีเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด บริเวณซอยสุขุมวิท 71 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 รายซึ่งเป็นชาวอิหร่านตามที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ ตามหลักฐานที่ชุดสืบสวนสอบสวนรายงานให้ทราบ โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปานศิริเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งเป็นชาวอิหร่านในคดีระเบิด 3 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปแล้ว ประกอบด้วย นายซาอิด โมราดิ ผู้ต้องหาที่ถูกระเบิดขาขาด, นายโมฮัมหมัด คาซาอี ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, นายมาซุด ซีดากัส ซาเดท ผู้ต้องหาที่ทางการมาเลเซียจับกุมได้, นางโรฮานี ไลลา ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นคนเตรียมสถานที่พัก จัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงจักรยานยนต์ให้กับผู้ต้องหา และนายโนโรซิ ชายัน อาลี อัคบาร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมไปมากกว่า 5 ราย
พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับพบว่านายโมฮัมหมัด คาซาอี ที่ถูกควบคุมตัวไว้ขณะนี้นั้น พยานหลักฐานทั้งหมดระบุชัดเจนว่ามีการกระทำความผิดชัดเจนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายซาอิด โมราดิ ผู้ต้องหาอีกคนที่ขาขาดจากเหตุระเบิด ซึ่งขณะนี้ทางแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ยังคงทำการรักษาอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอให้ผู้ต้องหามีความพร้อมของสภาพร่างกายและจิตใจ จึงจะเข้าไปสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อหาได้ แต่ทั้งนี้ แพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ จะย้ายนายซาอิดมาทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ภายในบ่ายวันนี้ (6 มี.ค.)
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนหรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า มีการแบ่งหน้าที่กันในการก่อเหตุอย่างชัดเจน โดยนางโรฮานี ไลลา จะมีหน้าที่ติดต่อหาที่พัก จัดหาซื้อจักรยานยนต์เพื่อก่อเหตุ นายโนโรซิ ชายัน อาลี อัคบาร์ น่าจะเป็นตัวการสำคัญที่คอยวางแผนในการก่อเหตุ ส่วนฝ่ายปฏิบัติการหรือกลุ่มที่ลงมือจะเป็นผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ นายมาซุด นายซาอิด และนายโมฮัมหมัด คาซาอี ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งน่าจะมีชาวไทยร่วมอยู่ด้วยนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน
สำหรับสติกเกอร์ที่เขียนว่า “SEJEAL” ที่ติดไว้หลายจุด และยังพบอีกจำนวนมากในห้องพักของผู้ต้องหานั้น พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า ได้สั่งให้ไปสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว และพบว่าน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบตำรวจได้ลายนิ้วมือของบุคคลที่เกี่ยวข้องที่นำสติกเกอร์ไปติดไว้แล้ว
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการตรววจสอบของตำรวจสันติบาล ระบุว่า สติกเกอร์ดังกล่าวมีความหมายหรือแปลได้ 2 ทาง คือ 1. เป็นความหมายตามความเชื่อทางศาสนา และ 2. น่าจะเกี่ยวกับอาวุธ-ขีปนาวุธ ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดแน่ชัดอีกครั้ง และขอยืนยันว่าเป้าหมายการก่อเหตุของกลุ่มผู้ต้องหาครั้งนี้เป็นตัวบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานที่แต่อย่างใด