ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีพีเอฟชี้ไตรมาสแรกปีนี้รายได้โตแค่ 30-40% เหตุราคาเนื้อสัตว์บกในประเทศอ่อนตัวลงและรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการบริษัทอาหารสัตว์และเกษตรครบวงจรในจีนและเวียดนามเพียง 2 เดือน มั่นใจทั้งปีรายได้โต 50%แตะ 3.2-3.3 แสนล้านบาท เปิดตัวร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ต เจาะกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่ไม่มีเวลาทำอาหารแต่ต้องการอาหารคุณภาพ
วานนี้ ( 12 มี.ค. ) นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดตัวร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ต ซึ่งเป็นซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ร้านสนุกซื้อ สะดวกทาน สาขา 2 ที่ชั้น 1 ฟอร์จูนทาวน์ รัชดา โดยมีนายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร นายพงษ์ วิเศษไพฑูรย์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการและนายวิรัตน์ เตชะนิรัติศัย รองกรรมการผู้จัดการธุรกิจค้าปลีกร่วมด้วย
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กล่าวว่า ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯคาดว่ามียอดขายรวมเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30-40% เนื่องจากรับรู้รายได้การเข้าไปลงทุนซื้อบริษัทผลิตอาหารสัตว์ในจีนและธุรกิจเกษตรครบวงจรในเวียดนามในช่วง 2เดือนนี้ (ก.พ.-มี.ค.) และธุรกิจในต่างประเทศสร้างรายได้ดีต่อเนื่องทั้งเวียดนาม อินเดียและจีน ส่วนธุรกิจในประเทศก็เติบโตในเกณฑ์ดี ยกเว้นราคาเนื้อไก่เนื้อหมูในประเทศจะอ่อนตัวลงมา ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลระยะสั้นเท่านั้น
ในช่วง 2- 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาเนื้อไก่และเนื้อหมูได้อ่อนตัว เป็นผลจากกำลังซื้อในประเทศหดตัวลงเป็นผลต่อเนื่องจากวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ผู้ผลิตประสบปัญหาการขาดทุน 10-15% เชื่อว่าราคาเนื้อสัตว์บกจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์และราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงลดการเลี้ยงลง ส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ 3.2-3.3 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 50 % และในอีก 5 ปีข้างหน้า รายได้ของซีพีเอฟจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 แสนล้านบาทในปี 2559 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งเป็นผลจากการขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายอดิเรก กล่าวต่อไปว่า ตามที่บริษัทฯให้ความสำคัญในธุรกิจค้าปลีก ทั้งร้านซีพี เฟรชมาร์ท และ ร้านไก่ย่างห้าดาว และล่าสุดเปิดตัวร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ต ซึ่งเป็นร้านซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์(Super Convenience Store) เพื่อให้ความสะดวกแก่คนในเมืองมากขึ้นโดยอาศัยช่องว่าระหว่างร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งกำหนดพื้นที่ร้านตั้งแต่ 300 ตร.ม.ขึ้นไป โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะเปิดสาขาเพิ่มเป็น 10แห่งเน้นทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่ารายได้จากธุรกิจค้าปลีกในปีนี้จะเติบโต 25-30% จากปีก่อนมีรายได้กว่าหมื่นล้านบาท โดยวางเป้าหมายในช่วง 5 ปีนี้จะขยายร้านซีพีเฟรชมาร์ท เพิ่มเป็น 2,000 แห่ง จาก 600 แห่งในปัจจุบัน ตู้เย็นชุมชุนเป็น 50,000 แห่ง จากที่มี 5,000 แห่ง และร้านซีพี ฟู้ดมาร์เก็ต จาก 2แห่งเพิ่มเป็น 200-300 แห่ง เน้นในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลก่อน
ร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ตเป็นการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกจากร้าน"ซีพี เฟรชมาร์ท"เน้นจำหน่ายสินค้าเครือซีพี 20% และสินค้านอกเครือ 80% โดยให้บริการอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันที่มีครอบครัวขนาดเล็กลง โดยจะมีสินค้าอาหารในสัดส่วน 85% ของสินค้าที่วางจำหน่ายทั้งหมด เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่และคนทำงานที่ไม่มีเวลาทำอาหาร แต่ต้องการอาหารที่มีคุณภาพและสะดวกต่อการปรุง โดยพื้นที่ภายในร้านแบ่งเป็น 3 ส่วน อาหารสะดวกทาน, อาหารสะดวกซื้อ และ อาหารสะดวกปรุง ที่จะนำกลับไปประกอบอาหารที่บ้าน โดยวางเป้าหมายยอดขายเฉลี่ยวันละ 1.2-1.5 แสนบาท
วานนี้ ( 12 มี.ค. ) นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดตัวร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ต ซึ่งเป็นซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ร้านสนุกซื้อ สะดวกทาน สาขา 2 ที่ชั้น 1 ฟอร์จูนทาวน์ รัชดา โดยมีนายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร นายพงษ์ วิเศษไพฑูรย์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการและนายวิรัตน์ เตชะนิรัติศัย รองกรรมการผู้จัดการธุรกิจค้าปลีกร่วมด้วย
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กล่าวว่า ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯคาดว่ามียอดขายรวมเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30-40% เนื่องจากรับรู้รายได้การเข้าไปลงทุนซื้อบริษัทผลิตอาหารสัตว์ในจีนและธุรกิจเกษตรครบวงจรในเวียดนามในช่วง 2เดือนนี้ (ก.พ.-มี.ค.) และธุรกิจในต่างประเทศสร้างรายได้ดีต่อเนื่องทั้งเวียดนาม อินเดียและจีน ส่วนธุรกิจในประเทศก็เติบโตในเกณฑ์ดี ยกเว้นราคาเนื้อไก่เนื้อหมูในประเทศจะอ่อนตัวลงมา ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลระยะสั้นเท่านั้น
ในช่วง 2- 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาเนื้อไก่และเนื้อหมูได้อ่อนตัว เป็นผลจากกำลังซื้อในประเทศหดตัวลงเป็นผลต่อเนื่องจากวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ผู้ผลิตประสบปัญหาการขาดทุน 10-15% เชื่อว่าราคาเนื้อสัตว์บกจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์และราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงลดการเลี้ยงลง ส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ 3.2-3.3 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 50 % และในอีก 5 ปีข้างหน้า รายได้ของซีพีเอฟจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 แสนล้านบาทในปี 2559 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งเป็นผลจากการขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายอดิเรก กล่าวต่อไปว่า ตามที่บริษัทฯให้ความสำคัญในธุรกิจค้าปลีก ทั้งร้านซีพี เฟรชมาร์ท และ ร้านไก่ย่างห้าดาว และล่าสุดเปิดตัวร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ต ซึ่งเป็นร้านซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์(Super Convenience Store) เพื่อให้ความสะดวกแก่คนในเมืองมากขึ้นโดยอาศัยช่องว่าระหว่างร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งกำหนดพื้นที่ร้านตั้งแต่ 300 ตร.ม.ขึ้นไป โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะเปิดสาขาเพิ่มเป็น 10แห่งเน้นทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่ารายได้จากธุรกิจค้าปลีกในปีนี้จะเติบโต 25-30% จากปีก่อนมีรายได้กว่าหมื่นล้านบาท โดยวางเป้าหมายในช่วง 5 ปีนี้จะขยายร้านซีพีเฟรชมาร์ท เพิ่มเป็น 2,000 แห่ง จาก 600 แห่งในปัจจุบัน ตู้เย็นชุมชุนเป็น 50,000 แห่ง จากที่มี 5,000 แห่ง และร้านซีพี ฟู้ดมาร์เก็ต จาก 2แห่งเพิ่มเป็น 200-300 แห่ง เน้นในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลก่อน
ร้านซีพี ฟู้ด มาร์เก็ตเป็นการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกจากร้าน"ซีพี เฟรชมาร์ท"เน้นจำหน่ายสินค้าเครือซีพี 20% และสินค้านอกเครือ 80% โดยให้บริการอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันที่มีครอบครัวขนาดเล็กลง โดยจะมีสินค้าอาหารในสัดส่วน 85% ของสินค้าที่วางจำหน่ายทั้งหมด เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่และคนทำงานที่ไม่มีเวลาทำอาหาร แต่ต้องการอาหารที่มีคุณภาพและสะดวกต่อการปรุง โดยพื้นที่ภายในร้านแบ่งเป็น 3 ส่วน อาหารสะดวกทาน, อาหารสะดวกซื้อ และ อาหารสะดวกปรุง ที่จะนำกลับไปประกอบอาหารที่บ้าน โดยวางเป้าหมายยอดขายเฉลี่ยวันละ 1.2-1.5 แสนบาท