อธิการ มธ.แจงมติห้ามนิติราษฎร์ใช้พื้นที่เคลื่อนไหว หวั่นซ้ำรอย “6 ตุลา” หวังตัดไฟแต่ต้นลมมากกว่าจำกัดเสรีภาพ โอดทำอะไรฝ่ายไหนก็ด่า ด้าน “สุวินัย” โผล่หนุนด้วย ขณะที่ความเห็นทั้งหนุนทั้งค้านเพียบ
วันนี้ (31 ม.ค.) ภายหลัง นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เขียนข้อความลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว http://www.facebook.com/profile.php?id=100001043551826 ระบุมติเอกฉันท์ที่ประชุมกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัย เพื่อเคลื่อนไหวกรณีมาตรา 112 อีกต่อไป จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ วานนี้ (30 ม.ค.) นั้น
ล่าสุด นายสมคิด ได้เขียนข้อความเพื่อชี้แจงขยายรายละเอียดถึงประเด็นดังกล่าว ว่า “มีหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห้ามกลุ่มนิติราษฎร์เคลื่อนไหวเรื่อง ม.112 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกต่อไป โดยมองว่าเป็นการกำจัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น นี่ก็เป็นมุมมองหนึ่งที่เข้าใจได้ครับ แต่ผมอยากให้พวกเรามองอีกมุมมองหนึ่งด้วยว่า การที่ผู้บริหารมหาลัยต้องออกมาตรการนี้ออกมา คงเป็นกรณีฉุกเฉิน เพราะเกรงว่าอาจจะลุกลามจนกลายเป็น “6 ตุลาครั้งที่สอง” ได้ และถ้าจะเกิดก็คงจะเกิดที่ธรรมศาสตร์เหมือนเมื่อปี 2519... เพราะฉะนั้น ผมจึงมองว่ามาตรการนี้ของผู้บริหารมหาลัยเป็น “การตัดไฟแต่ต้นลม” มากกว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพครับ เพราะที่ผ่านมาธรรมศาสตร์ก็เปิดโอกาสให้กลุ่มนิติราษฎร์ใช้ธรรมศาสตร์เป็นที่เคลื่อนไหวมาหลายครั้งแล้ว...สรุปก็คือ ผมเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผู้บริหารมหาลัยครับ”
“ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือเสรีภาพในทางวิชาการใน มธ. แต่ต้องแยกเสรีภาพทั้งสองนี้ออกจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการขยายความขัดแย้ง และนำมาซึ่งความวุ่นวายใน มธ.และประเทศ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยหน้าเพจเฟซบุ๊กของนายสมคิดนั้น มีผู้ที่เห็นด้วยกับแนวทางกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์ก็ยังวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายมุม ซึ่งในมุมหนึ่ง นายสมคิด ก็ได้โพสต์ข้อความว่า
“เป็นอธิการ มธ.ก็ลำบากหน่อย เพราะ 1.แสดงความไม่เห็นด้วยทางวิชาการกับนิติราษฎร์ก็มีคนออกมาประท้วง ด่าและข่มขู่คุกคาม ให้ปลดจากตำแหน่ง 2.อนุญาตให้นิติราษฎร์ใช้ที่มหาลัยก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมากดดันคัดค้านต่อว่า 3.เห็นว่าควรพอได้แล้วกับ 112 (หลังจากอนุญาตไปแล้ว 4-5 ครั้ง) คนกลุ่มแรกก็ออกมาอีก 4.เห็นว่าไม่ควรไล่ล่าแม่มดก้านธูป คนกลุ่มแรกออกมาชมคนกลุ่ม 2 ออกมาว่าอีกสังคมไทยไม่ยอมให้คนยืนบนความถูกต้อง และพอดีพองามเลยหรือไง”
อย่างไรก็ตาม บนเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายสมคิด ก็ได้มีผู้ที่เห็นด้วยกับแนวทางกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเข้ามาแสดงความเห็นให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับสมาชิกเว็บไซต์บางราย แต่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อมติดังกล่าวของมหาวิทยาลัย อาทิ สมาชิกรายหนึ่งที่ระบุว่า “อาจารย์ครับ โดยส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยกับแก้ไข ม.112 เเต่ก็ไม่อยากให้ ban กิจกรรมของนิติราษฎร์ อยากให้เขาได้มีเวทีแสดงออกบ้าง ธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้วครับ” นายสมคิด ได้ชี้แจงว่า “ให้เสรีภาพเต็มที่ครับ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองจนเกิดความแตกแยก” และ “ไม่ได้ห้ามเรื่องอื่นๆ นะครับ จะแก้รัฐธรรมนูญ คัดค้านรัฐประหาร ก็ทำได้”
ขณะที่ นายสุวินัย ภรณวลัย อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหนึ่งในนักวิชาการกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ ได้เขียนบันทึกชื่อ “วิพากษ์ผู้วิพากษ์” บนเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว และนำไปแบ่งปันบนเฟซบุ๊กของนายสมคิด ด้วย โดยมีเนื้อหาว่า “มีหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห้ามกลุ่มนิติราษฎร์เคลื่อนไหวเรื่อง ม.112 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกต่อไป โดยมองว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น นี่ก็เป็นมุมมองหนึ่งที่เข้าใจได้ครับ แต่ผมอยากให้พวกเรามองอีกมุมมองหนึ่งด้วยว่า การที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยต้องออกมาตรการนี้ คงเป็นกรณีฉุกเฉินเพราะเกรงว่าอาจจะลุกลามจนกลายเป็น ′6 ตุลาครั้งที่สองได้′ และถ้าจะเกิดก็คงจะเกิดที่ธรรมศาสตร์เหมือนเมื่อปี 2519...เพราะฉะนั้น ผมจึงมองว่า มาตรการนี้ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยเป็น ′การตัดไฟแต่ต้นลม′ มากกว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพครับ เพราะที่ผ่านมา ธรรมศาสตร์ก็เปิดโอกาสให้กลุ่มนิติราษฎร์ใช้ธรรมศาสตร์เป็นที่เคลื่อนไหวมาหลายครั้งแล้ว...สรุปก็คือ ผมเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผู้บริหารมหาวิทยาลัยครับ”
ซึ่งอธิการบดีธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ตอบอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ว่า “ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือเสรีภาพในทางวิชาการใน มธ.แต่ต้องแยกเสรีภาพทั้งสองนี้ออกจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการขยายความขัดแย้ง และนำมาซึ่งความวุ่นวายใน มธ.และประเทศ” ก่อนที่ นายสุวินัย จะได้โพสต์ข้อความตอบกลับอีกครั้งว่า “ใช่เลยครับ ท่านอธิการ ตรรกะที่ผู้วิจารณ์ใช้ในการวิพากษ์การตัดสินใจของผู้บริหารมหาลัยในเรื่องนี้ผมว่าตะแบงไปและเป็นสูตรสำเร็จมากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเลย อีกทั้งยังประเมินความแหลมคมของสถานการณ์ต่ำไปด้วยครับ”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะนายกสมาคมสถาบันพระปกเกล้า แจ้งว่า ทางสมาคมฯ จะประชุมคณะกรรมการ และมีมติเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของ คณะนิติราษฎร์ ณ โรงแรมฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก และจะมีการแถลงข่าวในเวลา 17.30 น.
ด้าน นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล อุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ในฐานะศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ เปิดเผยว่า พื้นที่ มธ.ถือเป็นดินแดนประชาธิปไตยทุกตารางนิ้ว สำหรับกรณีที่ นายสมคิด แจ้งมติที่ประชุมกรรมการบริหาร มธ.ว่า มหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อเคลื่อนไหวกรณีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่าในความเป็นประชาธิปไตยของ มธ.ต้องเคารพต่อประชาคมของมหาวิทยาลัยด้วย สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นต้องนำไปศึกษาว่ามติบอร์ดถือเป็นมติประชาคม มธ.ส่วนรวมหรือไม่ และส่วนตัวในอดีตเคยทำกิจกรรมร่วมกับ นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำนิติราษฎร์ ซึ่งเป็นนักศึกษารุ่นน้อง ยืนยันว่า นายวรเจตน์ ไม่มีความคิดที่จะล้มสถาบัน