xs
xsm
sm
md
lg

5 องค์กรสิทธิฯ โผล่ป้องนิติราษฎร์ จวกรัฐคุกคามสิทธิ จี้ มธ.ทบทวนห้ามใช้พื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

5 องค์กรสิทธิฯ โผล่ร่อนแถลงการณ์ จวกรัฐข่มขู่ เสียดสี คุกคามสิทธิ ป้องนิติราษฎร์ แสดงความเห็นตามเสรีภาพทางวิชาการ ฉะพวกค้านเคารพสิทธิผู้อื่นด้วย สับธรรมศาสตร์ห้ามใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเคลื่อนไหวล้ม ม.112 ไม่สอดคล้องวัตถุประสงค์สถาบัน จี้ทบทวนคำสั่ง

วันนี้ (31 ม.ค.) 5 องค์กรสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.), มูลนิธิผสานวัฒนธรรม, คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.), เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (คนส.) และโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม ได้ออกแถลงการณ์ องค์กรสิทธิห่วงใยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการมีส่วนร่วมในการเสนอแก้ไขกฎหมายตามกรอบรัฐธรรมนูญ กำลังถูกคุกคาม โดยระบุว่า

จากข้อเสนอของนักวิชาการนิติศาสตร์กลุ่มนิติราษฎร์และกิจกรรมของคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 เพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือที่ทราบกันทั่วไปว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้นำมาซึ่งการถกเถียงอย่างกว้างขวางในสังคม มีทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน ซึ่งความคิดเห็นที่แตกต่างในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย ตราบใดที่การใช้สิทธิดังกล่าวได้ดำเนินไปในกรอบของสันติวิธีและเป็นไปตามตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยรัฐมีหน้าที่ต้องปกป้องและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าวของประชาชนทุกคน แต่ในขณะที่ปรากฏว่า มีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์บางกลุ่ม ได้แสดงออกในลักษณะของการคุกคามการใช้สิทธิเสรีภาพของกลุ่มนิติราษฎร์นั้น แทนที่รัฐจะได้ทำหน้าที่ดังกล่าวของตน กลับปรากฏว่า ผู้นำของรัฐบาลทั้งในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติบางคนได้แสดงออกไปในทางเสียดสี ข่มขู่ กระทั่งคุกคามการใช้สิทธิเสรีภาพของกลุ่มนิติราษฎร์

ประเทศไทยเป็นสังคมประชาธิปไตย ภายใต้บรรยากาศของความแตกต่างทางความคิดทางการเมือง การแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่แตกต่างของคณะนิติราษฎร์เป็นเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นและความเชื่อ ตลอดจนข้อเสนอต่อการดำเนินการแก้ไขกฎหมายตามกรอบวิธีการที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญจึงเป็นสิ่งปกติ เมื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดที่ไม่เห็นชอบด้วยกับความเห็นและข้อเสนอดังกล่าว ก็ย่อมมีสิทธิที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของตน และสามารถถกเถียงโต้แย้งได้ด้วยเหตุผล อย่างสันติและอารยะ แต่ต้องเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างจากตน ซึ่งเป็นแก่นของคุณค่าแห่งประชาธิปไตย ดังนั้น เมื่อการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างตามครรลองประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ กลับนำมาซึ่งการคุกคามสิทธิเสรีภาพของคนอื่น รัฐจึงจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่แตกต่างและสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการแก้ไขและการปฏิรูปกฎหมายอันเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญคือรัฐจะต้องไม่เป็นผู้คุกคามสิทธิเสรีภาพดังกล่าวนี้เสียเอง ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามหน้าที่ของตนในการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดและยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพดังกล่าวของประชาชนโดยทันที

ยิ่งไปกว่านั้น สถาบันการศึกษามีภารกิจในการส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการและสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานที่มิใช่เพียงแต่เป็นสถาบันซึ่งผลิตปัญญาชนเพื่อรับใช้ประชาชนและสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคและความเป็นธรรม โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นพื้นที่สำหรับสิทธิและเสรีภาพเสมอมา ดังนั้น การที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ห้ามกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเองใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในการรณรงค์เคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นสิทธิและเสรีภาพที่กลุ่มนิติราษฎร์ และประชาชนทั่วไปสามารถกระทำได้ตามหลักการประชาธิปไตย จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเป็นสถาบันศึกษาของรัฐและประเพณีปฏิบัติอันดีงามของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ เสรีภาพความคิดและการแสดงออก ตามครรลองของกฎหมายและประชาธิปไตยเป็นการทำลายจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้โปรดทบทวนคำสั่งห้ามกลุ่มนิติราษฎร์ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำกิจกรรมตราบใดที่การทำกิจกรรมดังกล่าวอยู่ในกรอบของสันติวิธีและสิทธิมนุษยชน

อนึ่ง พึงตระหนักว่า สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตย บุคคลอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของบุคคลอื่น แต่พึงปกป้องสิทธิในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของเขา
กำลังโหลดความคิดเห็น