xs
xsm
sm
md
lg

ปมซ่อนเงื่อนลุ้นระทึก ถอดถอน“ภักดี-ป.ป.ช.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**วันนี้( 9 มี.ค.) ที่ประชุมวุฒิสภา จะมีการประชุมลับ เพื่อลงมติว่าจะถอดถอน นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกจากตำแหน่งหรือไม่
มติดังกล่าวที่จะทำให้ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา-อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับแต่งตั้งจาก พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน สมัยเป็นประธานคมช. ที่ออกคำสั่ง คปค.ตั้ง นายภักดี ให้ร่วมเป็น 1 ใน 9 ป.ป.ช.ชุดนี้ ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนานถึง 9 ปีเต็ม
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ของนายภักดี จะได้อยู่ หรือต้องกระเด็นหลุดจากเก้าอี้ จะกลายเป็นป.ป.ช. คนแรกที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือไม่
เสียงของวุฒิสภา ที่จะถอดถอนจะต้องใช้เสียง ส.ว.ถึง 3 ใน 4 หรือ 112 เสียง จากจำนวน ส.ว.ทั้งหมด 149 คน ที่ถือว่ามากพอสมควร
เชื่อว่าช่วงสายๆ วันที่ 9 มี.ค. ก็น่าจะรู้ผลว่า คะแนนให้อยู่ต่อ ลอยลำ หรือ คะแนนให้นายภักดีออกจากตำแหน่ง
หากผลออกมาเป็นแบบเฉียดฉิว ให้ ภักดี ได้อยู่ต่อ ออกมาแบบนี้ จะมีผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของ คณะกรรมการป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระ ซึ่งมีอำนาจมากที่สุดในการสอบสวนเอาผิดกับนักการเมือง-ข้าราชการ ที่ทุจริตคอร์รัปชัน แต่คนของป.ป.ช. กลับเกือบต้องหลุดจากตำแหน่ง จากกรณีถุกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมกับการเป็น ป.ป.ช.
คะแนนจะออกมาแบบไหน เชื่อว่าแม้นายภักดี จะมั่นใจลึกๆว่า เคลียร์ข้อกล่าวหาทั้งหมดได้ แต่ก็คงต้องลุ้นหนักไม่ใช่น้อย
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ หากสืบสาวราวเรื่องดูกันให้ดีๆ ก็จะพบว่า เป็นเรื่องการเมืองแน่นอน โดยเฉพาะการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล กับองค์กรอิสระอย่างป.ป.ช. ที่ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่
คือเริ่มมาจากการที่ 129 ส.ส.เพื่อไทย เข้าชื่อกันยื่นเรื่องให้วุฒิสภา ถอดถอนนายภักดี ออกจากตำแหน่งตามช่องทางของรัฐธรรมนูญ มาตรา 248 ที่เขียนไว้ว่า
**“ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภา ว่ากรรมการป.ป.ช.ผู้ใด กระทำการขาดความเที่ยงธรรม จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายหรือมีพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอย่างร้ายแรง เพื่อให้วุฒิสภา มีมติให้พ้นจากตำแหน่ง”
ซึ่งแกนนำในการเดินเรื่องทั้งหมดก็คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที และส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่นำรายชื่อส.ส. 129 คน ยื่นคำร้องขอให้วุฒิสภา มีมติให้นายภักดี พ้นจากตำแหน่ง
ด้วยข้อหาว่า เมื่อพลเอกสนธิ ตั้งนายภักดี เป็น 1 ใน 9 ป.ป.ช. ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 29 แต่ นายภักดี กลับไม่ลาออกจากตำแหน่ง กรรมการ บริษัทไทยวัฒนาฟาร์มาซูติคัล เด็กซ์โทรส จำกัด จึงกระทำผิดกฎหมาย ตามพ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 11 (3) ที่ห้าม กรรมการป.ป.ช. ไปมีตำแหน่งใดๆ ในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ทำธุรกิจเพื่อมุ่งหากำไร อีกทั้งการที่นายภักดี รับตำแหน่งประธานอนุกรรมการไต่สวน คดีร้องเรียนการทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ กระทรวงสาธารณสุข ตามมติที่ประชุมใหญ่ป.ป.ช. ทั้งที่ตัวนายภักดี เคยมีส่วนร่วมในการเสนอโครงการดังกล่าว สมัยรับราชการที่กระทรวงสาธารณสุข จึงเป็นสิ่งไม่สมควร และขัดต่อระเบียบ ป.ป.ช.
ที่บอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ ก็เพราะการสอบสวนเรื่อง การทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ ของป.ป.ช. เป็นการสอบที่ย้อนหลังไปในสมัยที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย คุมกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงรัฐบาลไทยรักไทย และ “เจ๊หน่อย” ก็คือผู้ผลักดันให้น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ตำแหนง รมว.ไอซีที ในโควต้ากทม. ของพรรคเพื่อไทย
การยื่นเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนนายภักดี ทำให้ไม่ใช่แค่ตัวนายภักดีเท่านั้น แต่หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นเรื่องการเมือง-การดิสเครดิตฝ่าย ป.ป.ช.
เมื่อโดนแบบนี้ นายภักดี ก็สู้ตายเช่นกัน ไม่ยอมโดนไล่ต้อนง่ายๆ เห็นได้จากการพยายามงัดเอกสารหลักฐาน รวมถึงพยานบุคคลต่างๆ มาลบล้างคำร้องดังกล่าวของ ส.ส.เพื่อไทย
**ต้องดูว่า เสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาจะเชื่อน้ำหนัก-คำชี้แจงของฝ่ายผู้ร้อง คือ น.อ.อนุดิษฐ์ หรือฝ่ายผู้ถูกร้องคือนายภักดี
เพราะทั้งสองฝ่ายหักล้าง เฉือนคมกันเต็มที่ ดูได้จากวันที่วุฒิสภาให้ทั้งสองฝ่าย คือน.อ.อนุดิษฐ์ มาทำการแถลงปิดคำร้อง และให้ นายภักดี มาแถลงโต้คำร้อง เมื่อ 6 มี.ค.55 ที่ดุเดือดอย่างมาก ถึงขั้นนายภักดี บอกกลางที่ประชุมวุฒิสภา ขณะแถลงคำโต้แย้งว่า นี่คือ แผนการที่ต้องการจะทำลายองค์กร ป.ป.ช. รวมถึงหวังผลล้มการสอบสวนคดีทุจริตคอมพิวเตอร์ของป.ป.ช. ที่พัวพันถึงผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองบางคน ทั้งที่ข้อกล่าวหาทุกข้อ ไม่เป็นความจริง แต่กลับใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้องมาเป็นพยานหลักฐาน ในการยื่นคำร้อง
ส่วนบรรยากาศนอกห้องประชุม และในห้องประชุมวันดังกล่าว ก็ร้อนแรงพอกัน เหมือนกับมีการตั้งป้อมกันไว้แล้ว ระหว่างฝ่ายที่ยืนข้างนายภักดี กับฝายที่หนุนหลังกลุ่มส.ส.เพื่อไทย เช่น การเปิดเผยกลางที่ประชุมว่า มีการล็อบบี้ให้พา ส.ว.ไปกินข้าวที่บ้านพยานฝั่งผู้ร้องด้วย ดูแล้วพฤติการณ์เหมือนกับจะขอคะแนนเสียงให้โหวตถอดถอนนายภักดี อย่างไร อย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม หากส.ว.ส่วนใหญ่ เห็นว่านายภักดี ชี้แจงข้อกล่าวหาไม่ขึ้น พยานหลักฐานแย้งฝ่ายผู้ร้องไม่ได้ แล้วยังไปลงมติ ช่วยกันไว้ ก็คงไม่เป็นผลดีกับวุฒิสภาเช่นกัน แม้จะเป็นการลงมติลับ ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คนหนึ่งที่คงลุ้นหนักไม่แพ้นายภักดี ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณหญิงสุดารัตน์ นั่นเอง
**หลังมีการพูดกันไปทั่วตึกวุฒิสภา และสำนักงานป.ป.ช.ว่า น.อ.อนุดิษฐ์ ที่ยื่นคำร้องครั้งนี้ เป็นผู้ร้องนอมินี ให้กับใครบางคน ซึ่งทุกคนรู้ว่า คือใคร ?
กำลังโหลดความคิดเห็น