“อากู๋” เล็งจีบ “ประวิทย์” พันธมิตรพรีเมียร์ลีก ประเดิมกอดคอร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 มั่นใจโกยรายได้ร่วม 500 ล้านบาท ฟากช่อง3 เล็งร่วมศึกชิงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬา ดันโฆษณาในสื่อทีวีโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2512-2515 นั้น ล่าสุดยังคงเดินหน้าที่จะเข้าร่วมประมูลเช่นเดิม คาดว่าจะเริ่มวางแผนการเข้าร่วมประมูลหลังจบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ไปก่อน โดยเบื้องต้นยังคงเข้าไปเพียงรายเดียว ขณะที่ตามแผนหากได้ลิขสิทธิ์มาแล้ว ก็จะมีการหาพาร์ทเนอร์ในการร่วมถ่ายทอดสดต่อไป เช่นเดียวกันลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ที่ได้ทางช่อง3 ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในการถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวีทั้ง 31 นัด ตลอดฤดูกาลแข่งขัน ระหว่างวันที่ 8มิ.ย.-1ก.ค. นี้ ภายใต้การลงทุนรวม ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนจากแกรมมี่ 200 ล้านบาท และทางช่อง3 อีก 200ล้านบาท มั่นใจว่าตลอดการแข่งขัน จะมีรายได้ร่วม 500 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ชมยังสามารถรับชมการแข่งขันผ่านทางกล่องวันสกายได้เช่นกัน ส่วนทางร้านค้าจะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ตามที่ทางยูโรกำหนดไว้
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนของช่อง 3 จะเป็นเรื่องของเวลา ส่วนรายได้จะแบ่งกันตามที่ตกลงกันไว้ ขณะที่ช่อง3 ยังสามารถหารายได้เพิ่มเติมเข้ามาได้อีกจากทางหน้าจอ จากรูปแบบรายการที่นำเสนอ หรือ โฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสด ตลอด 31 นัด เวลารวมทั้งหมด 120 ชม.แต่ละนัดมีเวลาโฆษณาได้ที่ 20 นาที รวมแล้วสามารถหารายได้จากโฆษณาไม่ต่ำกว่า 800 นาที คิดเป็นรายได้ราว 400 ล้านบาท ซึ่งการแข่งขันแต่ละนัดส่วนใหญ่จะเป็นช่วงนอนไพร์มไทม์ คือ หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ดังนั้นจึงเชื่อว่าตลอดการแข่งขัน ทางช่อง3 จะมีรายได้จากโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 25-30% เทียบกับช่วงปกติ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเป็นการแข่งขันแบบพร้อมกัน ดังนั้นทั้ง 4 คู่นี้ ทางแกรมมี่จะต้องหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมถ่ายทอดสดอีก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเจรจากับทางฟรีทีวีช่องอื่นๆต่อไป
***ช่อง3เล็งสิทธิ์คอนเทนต์กีฬาทุกรูปแบบ
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 3 กล่าวว่า ล่าสุดได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารภายในขึ้นมาใหม่อีก 25 ตำแหน่ง ส่วนใหญเป็นคนในบริษัท เพื่อเข้ามาช่วยดูแลสายงานต่างๆที่เติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายข่าวที่ใหญ่ขึ้น จึงต้องดึงผู้บริหารเข้ามาดูแลถึง 3 คน กีฬาก็เพิ่มขึ้น รวมถึงละครจากเดิมมีผู้จัดละครเพียง 4-5 ทีม ปัจจุบันมีถึง 30 ทีม
สำหรับคอนเทนต์กีฬา ทางช่อง3 ให้ความสนใจมากขึ้น และสนใจในทุกทัวร์นาเมนต์และทุกรูปแบบไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้เข้าไปประมูลคอนเทนต์เองเสมอไป ถึงแม้ที่ผ่านมาช่อง3 เคยประมูลคอนเทนต์กีฬาเพื่อนำมาถ่ายทอดสดเองมาแล้ว เช่น การแข่งขันฟุตบอลยูโรปี 2000
ด้านนายสุรินทร์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้คอนเทนต์กีฬาดีๆต่างก็มีผู้ได้สิทธิ์กันไปหมดแล้ว เหลือที่สำคัญเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น เช่น พรีเมียร์ลีก2012-2015 ซึ่งทางช่อง3 มองว่า การแข่งขันดังกล่าวไม่ตรงกับคาแรคเตอร์ของทางช่อง3 ในแง่เวลาการแข่งขัน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นช่วง 18.00น. เป็นช่วงไพร์มไทม์ หากได้สิทธิ์มาก็ไม่เกิดผลเท่าที่ควรดังนั้นครั้งนี้จึงไม่สนใจที่จะเข้าไปประมูลสิทธิ์การถ่ายทอดสดเอง
แต่ถ้าเป็นรูปแบบของการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมถ่ายทอดสด มีความเป็นไปได้สูงที่จะร่วมถ่ายทอดสด ในกรณีที่ทางรายเดิม คือ ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามหากทางช่อง3 ขยายการลงทุนสู่เคเบิลทีวีแล้ว ยอมรับว่าทางบริษัทพร้อมที่จะเข้าไปประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาดังๆทุกรายการ
ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงรอให้ทาง กสทช.ออกใบอนุญาติในการทำเคเบิลทีวีเท่านั้น
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า เฉพาะโฆษณาในสื่อทีวี 9 เดือนแรกของปีก่อน เติบโต 10-12% ทั้งปีโตประมาณ 3% ส่วนปีนี้มีคอนเทนต์กีฬาทั้ง การแข่งขันฟุตบอลยูโร และโอลิมปิคเข้ามา มั่นใจว่า จะกระตุ้นให้โฆษณาในสื่อโทรทัศน์เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยทั้งปีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 10% ได้ หรือเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาจากคอนเทนต์กีฬาที่ผ่านสื่อทีวี น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1,000
ล้านบาท
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2512-2515 นั้น ล่าสุดยังคงเดินหน้าที่จะเข้าร่วมประมูลเช่นเดิม คาดว่าจะเริ่มวางแผนการเข้าร่วมประมูลหลังจบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ไปก่อน โดยเบื้องต้นยังคงเข้าไปเพียงรายเดียว ขณะที่ตามแผนหากได้ลิขสิทธิ์มาแล้ว ก็จะมีการหาพาร์ทเนอร์ในการร่วมถ่ายทอดสดต่อไป เช่นเดียวกันลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ที่ได้ทางช่อง3 ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในการถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวีทั้ง 31 นัด ตลอดฤดูกาลแข่งขัน ระหว่างวันที่ 8มิ.ย.-1ก.ค. นี้ ภายใต้การลงทุนรวม ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนจากแกรมมี่ 200 ล้านบาท และทางช่อง3 อีก 200ล้านบาท มั่นใจว่าตลอดการแข่งขัน จะมีรายได้ร่วม 500 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ชมยังสามารถรับชมการแข่งขันผ่านทางกล่องวันสกายได้เช่นกัน ส่วนทางร้านค้าจะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ตามที่ทางยูโรกำหนดไว้
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนของช่อง 3 จะเป็นเรื่องของเวลา ส่วนรายได้จะแบ่งกันตามที่ตกลงกันไว้ ขณะที่ช่อง3 ยังสามารถหารายได้เพิ่มเติมเข้ามาได้อีกจากทางหน้าจอ จากรูปแบบรายการที่นำเสนอ หรือ โฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสด ตลอด 31 นัด เวลารวมทั้งหมด 120 ชม.แต่ละนัดมีเวลาโฆษณาได้ที่ 20 นาที รวมแล้วสามารถหารายได้จากโฆษณาไม่ต่ำกว่า 800 นาที คิดเป็นรายได้ราว 400 ล้านบาท ซึ่งการแข่งขันแต่ละนัดส่วนใหญ่จะเป็นช่วงนอนไพร์มไทม์ คือ หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ดังนั้นจึงเชื่อว่าตลอดการแข่งขัน ทางช่อง3 จะมีรายได้จากโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 25-30% เทียบกับช่วงปกติ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเป็นการแข่งขันแบบพร้อมกัน ดังนั้นทั้ง 4 คู่นี้ ทางแกรมมี่จะต้องหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมถ่ายทอดสดอีก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเจรจากับทางฟรีทีวีช่องอื่นๆต่อไป
***ช่อง3เล็งสิทธิ์คอนเทนต์กีฬาทุกรูปแบบ
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 3 กล่าวว่า ล่าสุดได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารภายในขึ้นมาใหม่อีก 25 ตำแหน่ง ส่วนใหญเป็นคนในบริษัท เพื่อเข้ามาช่วยดูแลสายงานต่างๆที่เติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายข่าวที่ใหญ่ขึ้น จึงต้องดึงผู้บริหารเข้ามาดูแลถึง 3 คน กีฬาก็เพิ่มขึ้น รวมถึงละครจากเดิมมีผู้จัดละครเพียง 4-5 ทีม ปัจจุบันมีถึง 30 ทีม
สำหรับคอนเทนต์กีฬา ทางช่อง3 ให้ความสนใจมากขึ้น และสนใจในทุกทัวร์นาเมนต์และทุกรูปแบบไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้เข้าไปประมูลคอนเทนต์เองเสมอไป ถึงแม้ที่ผ่านมาช่อง3 เคยประมูลคอนเทนต์กีฬาเพื่อนำมาถ่ายทอดสดเองมาแล้ว เช่น การแข่งขันฟุตบอลยูโรปี 2000
ด้านนายสุรินทร์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้คอนเทนต์กีฬาดีๆต่างก็มีผู้ได้สิทธิ์กันไปหมดแล้ว เหลือที่สำคัญเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น เช่น พรีเมียร์ลีก2012-2015 ซึ่งทางช่อง3 มองว่า การแข่งขันดังกล่าวไม่ตรงกับคาแรคเตอร์ของทางช่อง3 ในแง่เวลาการแข่งขัน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นช่วง 18.00น. เป็นช่วงไพร์มไทม์ หากได้สิทธิ์มาก็ไม่เกิดผลเท่าที่ควรดังนั้นครั้งนี้จึงไม่สนใจที่จะเข้าไปประมูลสิทธิ์การถ่ายทอดสดเอง
แต่ถ้าเป็นรูปแบบของการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมถ่ายทอดสด มีความเป็นไปได้สูงที่จะร่วมถ่ายทอดสด ในกรณีที่ทางรายเดิม คือ ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามหากทางช่อง3 ขยายการลงทุนสู่เคเบิลทีวีแล้ว ยอมรับว่าทางบริษัทพร้อมที่จะเข้าไปประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาดังๆทุกรายการ
ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงรอให้ทาง กสทช.ออกใบอนุญาติในการทำเคเบิลทีวีเท่านั้น
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า เฉพาะโฆษณาในสื่อทีวี 9 เดือนแรกของปีก่อน เติบโต 10-12% ทั้งปีโตประมาณ 3% ส่วนปีนี้มีคอนเทนต์กีฬาทั้ง การแข่งขันฟุตบอลยูโร และโอลิมปิคเข้ามา มั่นใจว่า จะกระตุ้นให้โฆษณาในสื่อโทรทัศน์เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยทั้งปีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 10% ได้ หรือเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาจากคอนเทนต์กีฬาที่ผ่านสื่อทีวี น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1,000
ล้านบาท