ASTVผู้จัดการรายวัน - ฮาวายไทยฯลุยส่งออกเส้นหวายเทียมเจาะตลาดอาเซี่ยน หวังทดสอบตลาดพร้อมศึกษากฎปฏิบัติ จุดดี-ด้อยตลาดแต่ละประเทศรองรับการเปิดACE พร้อมตั้งเป้าขายเฟอร์นิเจอร์ปี55รวม 230ล้านบาทโตจากปี54กว่า100% เดินหน้าขยายโชว์รูมแสดงเฟอร์นิเจอร์ ทุ่มงบ100ล้านบาท ผุดสาขาเพชรพระราม ดึงลูกค้าผู้ใช้จริง -ดีไซน์เนอร์สเปกสินค้าเข้าโครงการ
นายวิวัฒน์ วิภวพาณิชย์ กรรมการผู้บริหาร กลุ่มฮาวายไทย กล่าวว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน หรือ AEC ในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทมีแผนจะส่งออกเส้นหวายเทียม ที่ผลิตโดยบริษัทฮาวายไทยอินดัสเทลีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก ออกไปขายในกลุ่มประเทศอาเซี่ยน เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพราะเป็นประเทศที่มีพันธมิตรทางการค้าอยู่ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการทำตลาดในประเทศดังกล่าว
“การเปิดตลาดส่งออกเส้นหวายเทียมในประเทศอาเซียนเป็นก้าวแรกของการรับมือกับการเปิดAEC ซึ่งเป็นการทดสอบตลาดและเรียนรู้ตลาด ทั้งใน ด้านกฎหมาย ต้นทุนการตลาด ต้นทุนค่าขนส่ง และข้อปฏิบัติต่างๆ ของแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้บริษัทบริหารจัดการต้นทุน และรายได้ เพื่อเป็นการบาลลานช์ต้นทุนและกำไรให้อยู่ในระดับเดียวกับการทำตลาดในประเทศ และที่สำคัญจะทำให้สามารถรู้จุดเด่นและจุดด้อยของตลาดในแต่ละประเทศด้วย”
ส่วนตลาดเฟอร์นิเจอร์นั้นในปี บริษัทตั้งเป้าว่ามียอดขายอยู่ที่ 230ล้านบาทหรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดขายรวม 130ล้านบาทกว่า 100% โดยจะเน้นการสร้างช่องทางการขายผ่านโครงการวึ่งมีแชร์รายได้รวมอยู่ที่80-90% โดยเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าผ่านกลุ่มดีไซเนอร์ และมันฑนากรนักออกแบบ ซึ่งเป็นผู้สเปกสินค้าในโครงการขนาใหย่ เช่นโรงแรม และธนาคารต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโชว์รูมแสดงสินค้า สาขาเพชพระราม ที่มีพื้นที่แสดงสินค้ากว่า 2,900 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโชว์รูมแสดงสินค้าแห่งที่2ของบริษัท ซึ่งในงบลงทุนก่อสร้าง100ล้านบาท โดยสาขาแรกตั้งอยู่เลียบถนนลาดพร้าว101/3 ทั้งนี้การเปิดตัวโชว์รูมใหม่ เพื่อเป็นการสร้างความชัดเจนในตัวธุรกิจของบริษัท และยังเป็นแสดงสินค้าของ ฮาวายไทย เพื่อสร้างการรับรู้ และเป็นการสร้างไอเดียร์ในการแต่งส่วนและตกแต่งบ้านให้ลูกค้าด้วย
ปัจจุบัน บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าแบ่งออกเป็น2ส่วนคือการขายตลาดในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ อยู่ที่30% และตลาดส่งออกซึ่งมีรายได้ 70% ในส่วนของตลาดส่งออกนั้น50% ของยอดขายมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยบริษัทส่งออกใน2รูปแบบ คือ รับจ้างผลิตสินค้าภายใต้แบรน์อื่นให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ในอเมริกา และการขายผ่านแบรนด์ของ ฮาวายไทย โดยการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ส่วนรายได้จากการส่งออกอีก50% เป็นการขายในกลุ่มประเทศยุโรป กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศเอเซีย
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในปี2555 นี้คาดว่าจะไม่มีปัจจัยลบใดเข้ามากระทบ เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในอเมริการเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ในขณะที่ วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปก็มีการแก้ที่ชัดเจนมากขึ้น ส่วนตลาดในประเทศเองหลังผ่านปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปี54แล้วกำลังซื้อก็เริ่มกลับมาดีขึ้นลูกค้าเองก็มีการซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านและซื้อทดแทนเฟอร์นิเจอร์เดิมที่เสียหายในช่วงน้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อการขยายตัวในทิศทางที่ดีของตลาดในปีนี้
นายวิวัฒน์ วิภวพาณิชย์ กรรมการผู้บริหาร กลุ่มฮาวายไทย กล่าวว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน หรือ AEC ในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทมีแผนจะส่งออกเส้นหวายเทียม ที่ผลิตโดยบริษัทฮาวายไทยอินดัสเทลีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก ออกไปขายในกลุ่มประเทศอาเซี่ยน เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพราะเป็นประเทศที่มีพันธมิตรทางการค้าอยู่ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการทำตลาดในประเทศดังกล่าว
“การเปิดตลาดส่งออกเส้นหวายเทียมในประเทศอาเซียนเป็นก้าวแรกของการรับมือกับการเปิดAEC ซึ่งเป็นการทดสอบตลาดและเรียนรู้ตลาด ทั้งใน ด้านกฎหมาย ต้นทุนการตลาด ต้นทุนค่าขนส่ง และข้อปฏิบัติต่างๆ ของแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้บริษัทบริหารจัดการต้นทุน และรายได้ เพื่อเป็นการบาลลานช์ต้นทุนและกำไรให้อยู่ในระดับเดียวกับการทำตลาดในประเทศ และที่สำคัญจะทำให้สามารถรู้จุดเด่นและจุดด้อยของตลาดในแต่ละประเทศด้วย”
ส่วนตลาดเฟอร์นิเจอร์นั้นในปี บริษัทตั้งเป้าว่ามียอดขายอยู่ที่ 230ล้านบาทหรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดขายรวม 130ล้านบาทกว่า 100% โดยจะเน้นการสร้างช่องทางการขายผ่านโครงการวึ่งมีแชร์รายได้รวมอยู่ที่80-90% โดยเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าผ่านกลุ่มดีไซเนอร์ และมันฑนากรนักออกแบบ ซึ่งเป็นผู้สเปกสินค้าในโครงการขนาใหย่ เช่นโรงแรม และธนาคารต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโชว์รูมแสดงสินค้า สาขาเพชพระราม ที่มีพื้นที่แสดงสินค้ากว่า 2,900 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโชว์รูมแสดงสินค้าแห่งที่2ของบริษัท ซึ่งในงบลงทุนก่อสร้าง100ล้านบาท โดยสาขาแรกตั้งอยู่เลียบถนนลาดพร้าว101/3 ทั้งนี้การเปิดตัวโชว์รูมใหม่ เพื่อเป็นการสร้างความชัดเจนในตัวธุรกิจของบริษัท และยังเป็นแสดงสินค้าของ ฮาวายไทย เพื่อสร้างการรับรู้ และเป็นการสร้างไอเดียร์ในการแต่งส่วนและตกแต่งบ้านให้ลูกค้าด้วย
ปัจจุบัน บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าแบ่งออกเป็น2ส่วนคือการขายตลาดในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ อยู่ที่30% และตลาดส่งออกซึ่งมีรายได้ 70% ในส่วนของตลาดส่งออกนั้น50% ของยอดขายมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยบริษัทส่งออกใน2รูปแบบ คือ รับจ้างผลิตสินค้าภายใต้แบรน์อื่นให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ในอเมริกา และการขายผ่านแบรนด์ของ ฮาวายไทย โดยการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ส่วนรายได้จากการส่งออกอีก50% เป็นการขายในกลุ่มประเทศยุโรป กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศเอเซีย
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในปี2555 นี้คาดว่าจะไม่มีปัจจัยลบใดเข้ามากระทบ เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในอเมริการเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ในขณะที่ วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปก็มีการแก้ที่ชัดเจนมากขึ้น ส่วนตลาดในประเทศเองหลังผ่านปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปี54แล้วกำลังซื้อก็เริ่มกลับมาดีขึ้นลูกค้าเองก็มีการซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านและซื้อทดแทนเฟอร์นิเจอร์เดิมที่เสียหายในช่วงน้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อการขยายตัวในทิศทางที่ดีของตลาดในปีนี้