xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหนังสืออ่วมน้ำท่วมโต1.5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ (PUBAT) ฟันธง อุตสาหกรรมสำนักพิมพ์โตต่อเนื่องแตะ 22,800 ล้านบาท ลั่นร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่าน หวังคนไทยอ่านหนังสือเพิ่ม 4 เท่าใน 2 ปี คาดปีนี้โตกว่า 5 % ลั่นเตรียมพร้อมรับมือ E-Book มั่นใจเสริมการอ่านเติบโต ช่วยเพิ่มยอดขายให้สำนักพิมพ์มากกว่าทำลาย


เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) จัดงาน “ปิดทองหลังหนังสือ” สื่อสังสรรค์ สาส์นสร้าง งานหนังสือขึ้น เพื่อเปิดเผยถึงผลวิเคราะห์อุตสาหกรรมสำนักพิมพ์และทิศทางการเติบโต และบทบาทของสมาคมที่ยืนอยู่บน พันธกิจของการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่าในปีนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะผลักดันให้อุตสาหกรรมหนังสือกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 5 %หลังประสบเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในปีที่แล้ว จนทำยอดรวมของอุตสาหกรรมสำนักพิมพ์โตเหนือน้ำเพียง 1.5%

“อุตสาหกรรมหนังสือมีมูลค่าตลาดในพ.ศ.2554 ประมาณ 21,000-21,700 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกโตประมาณ 10% ทว่าน่าเสียดายที่ยอดรวมทั้งปีโตเพียง 1%-1.5% หลังประสบเหตุการณ์น้ำท่วมกว่า 4 เดือน และสำนักพิมพ์ส่วนหนึ่งก็ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนั้น โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 500 ล้านบาท

ส่วนในแง่การเติบโตของสำนักพิมพ์นั้น สำนักพิมพ์ขนาดกลางมีสัดส่วนการเติบโตสูงสุดคือ 17.5% ต่อปี ในขณะที่สำนักพิมพ์ในกลุ่มผู้นำตลาดและสำนักพิมพ์ขนาดใหญ่ รายได้เติบโตเฉลี่ยประมาณ 5% และ
สำนักพิมพ์ขนาดเล็กเติบโตลดลงเหลือ 0.24% ซึ่งสำนักพิมพ์ขนาดเล็กที่ออกหนังสือจำนวนน้อยกว่า 10 เล่มต่อปี มักไม่มีงบประมาณด้านการตลาด หรือการส่งเสริมการขาย จึงยากที่จะต่อสู้ในธุรกิจ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้เตรียมวางแผนรองรับโดยให้ความรู้และช่วยเหลือ เพราะหวังให้สำนักพิมพ์เล็กดำรงอยู่และมีการเติบโตต่อเนื่อง






ในพ.ศ. 2555 นี้ สมาคมฯคาดว่า อุตสาหกรรมสำนักพิมพ์จะกลับมาเติบโตไม่น้อยว่า 5% หรือ มีมูลค่าตลาดรวมไม่น้อยกว่า 22,800 ล้านบาท เพราะสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย และภาพรวมของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมถึงเราได้รับการสนับสนุนของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี” นายวรพันธ์กล่าว

นายวรพันธ์ยังเปิดเผยอีกว่าในปีนี้ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) จะรุกหนักในการรณรงค์สร้างวัฒนธรรมการอ่าน โดยตั้งเป้าหมายให้คนไทยอ่านหนังสือมากขึ้น 4 เท่า หรืออ่านคนละ 20 เล่มต่อปี โดยมุ่งเน้นรณรงค์ส่งเสริมการอ่านในกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ 

“ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (IPA) สมาคมผู้จัดพิมพ์แห่งกลุ่มประเทศเอเซียแปซิฟิก (APPA) และสมาคมผู้จัดพิมพ์แห่งประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (ABPA) จัดกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จนเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมผลักดันให้กรุงเทพมหานครได้รับคัดเลือกจากองค์กร UNESCO ให้เป็นเมืองหนังสือโลก หรือ World Book Capital ในปี 2556 รวมถึงได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ หรือ IPA ให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม IPA Congress ครั้งที่ 30 ในปี 2557 อีกด้วย โดยปีนี้สมาคมฯ มีแผนจะจัดงานมหกรรมหนังสือ ทั่วทุกภูมิภาค อาทิ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและสัปดาห์หนังสือนานาชาติ, งานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน, งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ รวมถึงงานสัปดาห์หนังสือภูมิภาคที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ จ. อุบลราชธานี  ที่จัดเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี และจะขยายไปยังอ.หาดใหญ่ จ.สงขลาด้วย เพื่อกระจายการอ่านไปสู่ในทุกภูมิภาคทุกท้องถิ่นของสังคมไทย” นายวรพันธ์กล่าว

ในส่วนของกระแส E-Book นั้น นายวรพันธ์มองว่าแทปเล็ทคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ที่จะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้คนไทยที่ชื่นชอบเทคโนโลยี มีช่องทางในการเข้าถึงการอ่านได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสำนักพิมพ์ต้องเริ่มกำหนดแผนรองรับความก้าวหน้าดังกล่าว และปรับตัวให้ทัน
 
“E-Book ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มขยายเรื่องการอ่านในตลาดใหม่โดยเฉพาะกลุ่มที่อาจไม่ชอบอ่านหนังสือมากนัก แต่มีไลฟ์สไตล์ที่ผูกติดกับเทคโนโลยี เชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะไม่ทำให้ยอดขายหนังสือตก แต่ในทางกลับกันสามารถช่วยเพิ่มยอดขายของสำนักพิมพ์ได้อีกด้วย" นายวรพันธ์กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น