ASTVผู้จัดการรายวัน - "จารุพงศ์"สั่งฝ่ายกฎหมายเร่งพิจารณาคำตัดสินป.ป.ช.กรณียึดทรัพย์"สุพจน์"ดูช่องทางตั้งกรรมการสอบวินัยต่อได้ทันทีหรือไม่ คาด1-2วันชัดเจน ขณะที่ชุด"ธงทอง"ยุติสอบข้อเท็จจริง หวั่นซ้ำซ้อนกับป.ป.ช.ชี้ กม.ป.ป.ช.สูงกว่าอำนาจกก.สอบข้อเท็จจริงของข้าราชการ
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้อายัดทรัพย์นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยร่ำรวยผิดปกติและทุจริตต่อหน้าที่ว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมนั้นขณะนี้ได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายและบริหารบุคคลของกระทรวงนำคำวินิจฉัยของป.ป.ช.ที่ชัดเจนมาพิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวข้อง เนื่องจากกฎหมายป.ป.ช.นั้นสูงกว่ากฎหมายและระเบียบของข้าราชการพลเรือน ทั้งนี้เพื่อกำหนดบทบาทในส่วนของกระทรวงคมนาคมว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรเช่น คำวินิจฉัยที่ให้อายัดทรัพย์สินนั้นถึงขั้นที่จะตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยได้หรือไม่ เป็นต้น โดยคาดว่าการตรวจสอบรายละเอียดและข้อกฎหมายจะมีความชัดเจนภายใน1-2วันนี้
ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดที่มีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น นายจารุพงศ์กล่าวว่า ถือว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงยุติแล้ว โดยนายธงทองระบุว่าหากการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการแล้วปรากฎชัดเจนว่ามีมูลจึงจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงอีกชั้นหนึ่ง แต่เมื่อมีการสอบสวนข้อเท็จจริงและมีการสอบสวนของป.ป.ช.ด้วย โดยป.ป.ช.มีคำสั่งให้นายสุพจน์ชี้แจงที่มาที่ไปของเงิน คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเห็นว่ากฎหมายป.ป.ช.นั้นสูงกว่าทางข้าราชการดังนั้นควรรอฟังผลการสอบสวนของป.ป.ช.จะเหมาะสมกว่าและเพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อนจึงยุติการสอบสวนข้อเท็จจริงไปก่อน
"ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญในการดำเนินการ และต้องพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา สิ่งสำคัญคือต้องเช็คคำวินิจฉัยของป.ป.ช.ว่าเป็นอย่างไรคำสั่งอายัดแปลว่าตั้งกรรมการสอบวินัยได้เลยหรือไม่ซึ่งต้องดูข้อกฎหมายประกอบ ซึ่งที่ผ่านมาผมได้พูดคุยกับทางนายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช.มาบ้างแล้วและในช่วงเย็นวันนี้(29ก.พ.) ก็จะเจอกันอีกก็คงคุยกันเพิ่มเติม"นายจารุพงศ์กล่าว
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้อายัดทรัพย์นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยร่ำรวยผิดปกติและทุจริตต่อหน้าที่ว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมนั้นขณะนี้ได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายและบริหารบุคคลของกระทรวงนำคำวินิจฉัยของป.ป.ช.ที่ชัดเจนมาพิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวข้อง เนื่องจากกฎหมายป.ป.ช.นั้นสูงกว่ากฎหมายและระเบียบของข้าราชการพลเรือน ทั้งนี้เพื่อกำหนดบทบาทในส่วนของกระทรวงคมนาคมว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรเช่น คำวินิจฉัยที่ให้อายัดทรัพย์สินนั้นถึงขั้นที่จะตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยได้หรือไม่ เป็นต้น โดยคาดว่าการตรวจสอบรายละเอียดและข้อกฎหมายจะมีความชัดเจนภายใน1-2วันนี้
ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดที่มีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น นายจารุพงศ์กล่าวว่า ถือว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงยุติแล้ว โดยนายธงทองระบุว่าหากการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการแล้วปรากฎชัดเจนว่ามีมูลจึงจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงอีกชั้นหนึ่ง แต่เมื่อมีการสอบสวนข้อเท็จจริงและมีการสอบสวนของป.ป.ช.ด้วย โดยป.ป.ช.มีคำสั่งให้นายสุพจน์ชี้แจงที่มาที่ไปของเงิน คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเห็นว่ากฎหมายป.ป.ช.นั้นสูงกว่าทางข้าราชการดังนั้นควรรอฟังผลการสอบสวนของป.ป.ช.จะเหมาะสมกว่าและเพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อนจึงยุติการสอบสวนข้อเท็จจริงไปก่อน
"ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญในการดำเนินการ และต้องพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา สิ่งสำคัญคือต้องเช็คคำวินิจฉัยของป.ป.ช.ว่าเป็นอย่างไรคำสั่งอายัดแปลว่าตั้งกรรมการสอบวินัยได้เลยหรือไม่ซึ่งต้องดูข้อกฎหมายประกอบ ซึ่งที่ผ่านมาผมได้พูดคุยกับทางนายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช.มาบ้างแล้วและในช่วงเย็นวันนี้(29ก.พ.) ก็จะเจอกันอีกก็คงคุยกันเพิ่มเติม"นายจารุพงศ์กล่าว
