ASTVผู้จัดการรายวัน-ป.ป.ช.สั่งอายัดบ้าน-ที่ดิน "สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ที่เพิ่งโอนให้ลูกเมื่อช่วงกลางเดือนม.ค. สวนทางกับที่"ธงทอง จันทรางศุ" สั่งยุติการสอบ โดยอ้างไม่มีมูลเพียงพอไปก่อนหน้านี้ "เหลิม" ยันตำรวจไม่เตะถ่วงคดี ส่วน"ไอ้โก้"ผู้ต้องหารายสำคัญ คาดหนีเตลิดจากลาวเข้ากัมพูชาแล้ว
นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมป.ป.ช.ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ตามที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติของนายสุพจน์ ได้เสนอเข้ามา หลังจากตรวจพบว่า มีโอนทรัพย์สินให้กับบุตร เมื่อวันที่ 15 และ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นที่ดินจำนวน 3 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านบาท โดยบ้านดังกล่าว ตั้งอยู่ เลขที่ 77 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร (กทม.)
"คำสั่งอายัดดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน เพราะนายสุพจน์ อยู่ในระหว่างการถูกตรวจสอบในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ แต่กลับพบว่ามีการโอนทรัพย์สินบางรายการ ทำให้ป.ป.ช.ต้องมีคำสั่งอายัดเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง"นายกล้านรงค์กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของการตรวจสอบนายสุพจน์ ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนปกติที่ป.ป.ช.ได้วางเอาไว้ คือ อยู่ในช่วงขยายเวลาการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากรณีร่ำรวยผิดปกติ ภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 8 มี.ค.นี้
***สวนทาง"ธงทอง"สั่งยุติสอบก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบว่า ข้อสรุปในชั้นนี้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงร่วมพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้จะมีเหตุที่สาธารณชนยังข้องใจสงสัยอยู่ แต่ข้อเท็จจริงจากการสืบสวนของคณะกรรมการฯ ทั้งประเด็นในรื่องของจำนวนเงินที่คนร้ายปล้นไปจากบ้านนายสุพจน์ เป็นจำนวนเท่าใด และเงินที่คนร้ายปล้นได้ไป เป็นเงินที่นายสุพจน์ได้มาโดยมิชอบหรือไม่นั้น ยังไม่มีมูลเพียงพอที่จะเสนอผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจสั่งบรรจุ ดำเนินการทางวินัยต่อนายสุพจน์ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2552 ได้
ดังนั้น จึงเห็นควรยุติการสืบสวนของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ เพื่อรอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเรื่องนี้จนได้ข้อยุติก่อน โดยให้กระทรวงคมนาคมติดตามข้อมูลกรณีดังนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อนำผลการพิจารณา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานต่อ
** "เหลิม"ยันตำรวจไม่เตะถ่วงคดี"สุพจน์"
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคดีนายสุพจน์ที่ไม่มีความคืบหน้าว่า ตำรวจยังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ผู้ต้องหา ก็จับได้บางคน และคดีก็เริ่มคลี่คลาย ส่วนป.ป.ช. ก็สืบสวนจากสายรัดเงินอยู่ ซึ่งในสายตำรวจ เรื่องนี้ยังไมเงียบ แต่สำหรับการสอบสวนของปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่หน้าที่ ซึ่งตามหลักคดีวินัย ต้องรอฟังผลคดีอาญา
**เผย"ไอ้โก้"หลบหนีไปอยู่ในกัมพูชา
พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการติดตามตัว นายวีระศักดิ์ หรือโก้ เชื่อลี หัวหน้าแก๊งปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประสานงานกับทางการของสาธารณรัฐประชาชนลาวอยู่ตลอด แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับความคืบหน้าเกี่ยวกับการติดตามตัวนายวีระศักดิ์แต่อย่างใด เบื้องต้นได้รับรายงานว่า นายวีระศักดิ์ ได้หลบหนีไปยังราชอาณาจักรกัมพูชาแล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานไปยังทางการของกัมพูชา ในการสืบสวนติดตามไล่ล่าตัวนายวีระศักดิ์ ว่าหลบหนีเข้าไปจริงหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า คดีปล้นบ้านนายสุพจน์ ขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปหมดแล้ว จะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องต่อเมื่อทางป.ป.ช. ร้องขอมาให้เข้าไปช่วยเหลือ หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของทางป.ป.ช. รับผิดชอบเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สินต่อไป