ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลสั่งจำคุก 15 ปี “สุรชัย แซ่ด่าน” แกนนำแดงสยามปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง สารภาพลดเหลือ 7 ปี 6 เดือน พฤติการณ์ร้ายแรงสร้างความขัดแย้งแถมกระทำผิดซ้ำซาก ทนายเตรียมขออภัยโทษเป็นกรณีพิเศษ
วานนี้ (28 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาดคี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1620/2554 ,อ.3178/2554 ,อ.360/2555 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน อายุ 68 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยามเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวปราศรัยโดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ท้องสนามหลวง จ.เชียงใหม่ และ จ.อุดรธานี และเวทีเสวนาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เหตุเกิดในช่วงปี 2551- 2553 จำเลยให้การรับสารภาพทั้งสามสำนวน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานคำรับสารภาพประกอบรายงานการสืบเสาะจากกรมคุมพฤติแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้จำคุกคดีละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลยไว้ 15 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 7 ปี 6 เดือน
ทั้งนี้ พฤติการณ์แห่งคดีแม้จำเลยอายุ 68 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ และยังเคยได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิก อบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยจึงมีวุฒิภาวะและความรู้ผิดชอบ แต่จำเลยยังกระทำผิดซ้ำ ประกอบกับในช่วงที่จำเลยกระทำผิดสังคมมีการแตกแยกแบ่งฝ่ายการที่จำเลยมีพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ประกอบกับที่จำเลยกล่าวถึงสถาบันเบื้องสูงว่าอยู่เบื้องหลังของความขัดแย้งไม่เป็นความจริงพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาทต่างดำเนินพระราชกรณีกิจ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร พฤติการณ์แห่งคดีจึงมีความร้ายแรงไม่สมควรให้รอการลงโทษ
ภายหลัง นายคารม พลพรกลาง ทนายความจำเลย กล่าวว่า ในส่วนของนายสุรชัย ยังเหลือคดีหมิ่นเบื้องสูง อยู่ในชั้นสอบสวนอีก 1 สำนวน ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ ซึ่งนายสุรชัย มีแนวทางที่จะให้การรับสารภาพ โดยหลังจากนี้จะได้เตรียมทำเรื่องขออภัยโทษเป็นกรณีพิเศษต่อไป
วานนี้ (28 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาดคี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1620/2554 ,อ.3178/2554 ,อ.360/2555 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน อายุ 68 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยามเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวปราศรัยโดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ท้องสนามหลวง จ.เชียงใหม่ และ จ.อุดรธานี และเวทีเสวนาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เหตุเกิดในช่วงปี 2551- 2553 จำเลยให้การรับสารภาพทั้งสามสำนวน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานคำรับสารภาพประกอบรายงานการสืบเสาะจากกรมคุมพฤติแล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้จำคุกคดีละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลยไว้ 15 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 7 ปี 6 เดือน
ทั้งนี้ พฤติการณ์แห่งคดีแม้จำเลยอายุ 68 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ และยังเคยได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิก อบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยจึงมีวุฒิภาวะและความรู้ผิดชอบ แต่จำเลยยังกระทำผิดซ้ำ ประกอบกับในช่วงที่จำเลยกระทำผิดสังคมมีการแตกแยกแบ่งฝ่ายการที่จำเลยมีพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ประกอบกับที่จำเลยกล่าวถึงสถาบันเบื้องสูงว่าอยู่เบื้องหลังของความขัดแย้งไม่เป็นความจริงพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาทต่างดำเนินพระราชกรณีกิจ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร พฤติการณ์แห่งคดีจึงมีความร้ายแรงไม่สมควรให้รอการลงโทษ
ภายหลัง นายคารม พลพรกลาง ทนายความจำเลย กล่าวว่า ในส่วนของนายสุรชัย ยังเหลือคดีหมิ่นเบื้องสูง อยู่ในชั้นสอบสวนอีก 1 สำนวน ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ ซึ่งนายสุรชัย มีแนวทางที่จะให้การรับสารภาพ โดยหลังจากนี้จะได้เตรียมทำเรื่องขออภัยโทษเป็นกรณีพิเศษต่อไป