วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในช่วงต้นเดือน มี.ค.55 ที่จะถึงนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะมีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนภาคเอกชนญี่ปุ่นต่อการลงทุนในไทย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะมีการจัดงานสัมมนาให้แก่นักลงทุนชาวญี่ปุ่น เบื้องต้นมีผู้ตอบรับมาแล้วกว่า 900 ราย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ตะเป็นผู้ปาฐกถาเปิดงานนี้ด้วย อีกทั้งยังมีการจัดงานไทยไนท์ (Thai Night) ที่จะเป็นการรวบรวมผู้ลงทุนทั้งด้านอุตสาหกรรม ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก เป็นต้น มาร่วมในงานดังกล่าว
สำหรับงานไทยไนท์ (Thai Night) ที่จะใช้วัฒนธรรมไทยเป็นสื่อ โดยการโชว์รำไทย ศิลปะแขนงต่างๆแล้ว ยังได้ดึง บัวขาว ป.ประมุข นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น มาเป็นพรีเซนเตอร์ของงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย นอกจากนี้บีโอไอยังได้จัดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบปะกับผู้ประกอบการรายใหญ่ 10 บริษัทที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย และมีแนวคิดที่จะลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ประธานผู้บริหารของแต่แห่งเข้าพบและหารือด้านธุรกิจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รายละประมาณ 15 นาที มีบริษัทที่น่าสนใจ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ โตชิบา และมินิแบร์ เป็นต้น ซึ่งกำหนดการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 3 วันด้วยกัน
นอกจากนี้ยังจะมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการใช้ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานผลิตที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ในการทำการค้ากับประเทศคู่สัญญาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ อาทิ อินเดีย หรือนิวซีแลนด์ เป็นต้น เพื่อเป็นช่องทางในการทำการค้าเพิ่มขึ้น โดยไม่ติดกลไกภาษีของประเทศนั้นๆ
สำหรับงานไทยไนท์ (Thai Night) ที่จะใช้วัฒนธรรมไทยเป็นสื่อ โดยการโชว์รำไทย ศิลปะแขนงต่างๆแล้ว ยังได้ดึง บัวขาว ป.ประมุข นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น มาเป็นพรีเซนเตอร์ของงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย นอกจากนี้บีโอไอยังได้จัดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบปะกับผู้ประกอบการรายใหญ่ 10 บริษัทที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย และมีแนวคิดที่จะลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ประธานผู้บริหารของแต่แห่งเข้าพบและหารือด้านธุรกิจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รายละประมาณ 15 นาที มีบริษัทที่น่าสนใจ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ โตชิบา และมินิแบร์ เป็นต้น ซึ่งกำหนดการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 3 วันด้วยกัน
นอกจากนี้ยังจะมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการใช้ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานผลิตที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ในการทำการค้ากับประเทศคู่สัญญาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ อาทิ อินเดีย หรือนิวซีแลนด์ เป็นต้น เพื่อเป็นช่องทางในการทำการค้าเพิ่มขึ้น โดยไม่ติดกลไกภาษีของประเทศนั้นๆ
