“สุวัจน์” เนื้อหอม วันเกิด 57 ปี “บิ๊กอ๊อด-สุเทพ-เสธ.หนั่น-บิ๊กบัง” โผล่อวยพร นายกฯ ควง “ยงยุทธ-เฉลิม-นิวัฒน์ธำรง” กินมื้อเที่ยง เจ้าตัว ชี้แก้ รธน.ต้องให้สังคมมีส่วนร่วม หนุนเลือกตั้ง ส.ส.ร.แนะจับตาแก้อะไรบ้าง ลิงโลดอีก 4 เดือนเป็นอิสระ โยนนายกฯ พิจารณาดึง 111 ทำงาน เชื่อ รัฐมีสิทธิ์ครบเทอม “นช.แม้ว” เหมือนรู้จังหวะกริ๊งเบิร์ธเดย์ระหว่างหม่ำข้าวกับน้องสาว
วันนี้ (9 ก.พ.) บรรยากาศที่บ้านพัก ถ.ราชวิถี ซอย 20 ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เป็นไปอย่างคึกคัก โดยในช่วงเวลา 07.00 น.ได้มีการทำบุญเลี้ยงพระ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของนายสุวัจน์ ครบรอบ 57 ปี ซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดพิชัยญาติ จำนวน 9 รูป และได้มีบุคคลสำคัญ ข้าราชการ นักธุรกิจ และนักการเมือง ทยอยเข้าอวยพรอย่างต่อเนื่อง อาทิ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีและสารสนเทศ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คณะผู้แทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ โดย นายสุวัจน์ พร้อมด้วย พล.ต.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ ภรรยา และ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ บุตรสาวได้ออกมาทักทายกับผู้เข้าร่วมอวยพรด้วยสีหน้าที่สดใส พร้อมแจกของที่ระลึก ได้แก่ เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 7 รอบ ให้ผู้ร่วมงาน สำหรับบรรยากาศด้านนอกยังได้มีการจัดซุ้มอาหารเลี้ยงแก้ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับ นายสุวัจน์ ด้วย และก่อนหน้านั้น ได้มีผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และผู้แทนพระองค์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้นำแจกันดอกไม้ ประทานแก่นายสุวัจน์ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด
โดย นายสุวัจน์ เปิดเผยว่า ในฐานะอดีตนักการเมือง อยากเห็นการเมืองมีความเรียบร้อยและอยากเห็นคนไทยมีความสุข สังคม เศรษฐกิจเข้มแข็ง สำหรับการที่มีหลายฝ่ายรวมทั้งรัฐบาลเตรียมยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นปัญหาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเนื้อหา และวิธีการในการแก้ไข หากตั้งอยู่บนพื้นฐานของการยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง และทำให้สังคมได้เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขให้มากที่สุด ก็คงไม่เป็นปัญหา และจะจะเป็นเครื่องมืองอย่างดีในการบริหารประเทศให้มีประสิทธิภาพ
“รัฐธรรมนูญไม่ใช่เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ เพราะทุกฉบับก็จะเขียนถึงวิธีการแก้ไขอยู่แล้ว สำหรับฉบับปัจจุบันต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นในบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเหมือนในปัจจุบัน วันนี้เราต้องสร้างบรรยากาศของความเชื่อมั่น เราต้องกอบกู้เศรษฐกิจ ยุติความแตกแยก ดังนั้นต้องรอบคอบในเรื่องวิธีการ และผู้ที่จะเป็นผู้แก้ ซึ่งก็จะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง และมาจากประชาชนอย่างแท้จริง การแก้ไขก็คงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในขณะนี้มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเกรงว่าทำเพื่อผลประโยชน์พวกพ้อง และบุคคลใดเป็นพิเศษ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะแก้ในประเด็นใดบ้าง แต่หากว่าผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่แก้ไขเป็นคนกลาง และมาจากประชาชนจริงๆ ทุกคนน่าจะสบายใจได้ และต่อจากนั้นเนื้อหาจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่สังคมควรจะช่วยกันแสดงความคิดเห็น อีกทั้งยังมีการทำประชามติอีกด้วย สำหรับความกังวลว่าจะมีผู้ได้ประโยชน์เป็นพิเศษนั้น ก็ถือว่าเป็นเสียงเตือนจากสังคมที่ผู้ทำหน้าที่แก้ไขต้องรับฟัง
เมื่อถามต่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า จะรุนแรงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่เนื้อหาของการแก้ไขว่า จะแก้ประเด็นไหน รวมไปถึงความชอบธรรมและกระบวนการของผู้ที่จะเข้าไปแก้ ต้องสนับสนุนประชาชนให้มีส่วนร่วมมากที่สุด แต่ถ้าหากเป็นอะไรที่ไม่ได้รับการยอมรับก็จะลำบาก ที่สำคัญต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าการแก้จะนำไปสู่การคลายปมได้
ส่วนกรณีความเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขกฏหมายอาญามาตรา 112 นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ที่สุดแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับรัฐสภา เพราะเป็นผู้มีหน้าที่แก้ไขกฎหมาย แต่วันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลก็ไม่เห็นด้วย ฝ่ายค้าน หรือพรรคการเมืองต่างๆ ก็ไม่เห็นด้วย จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว เพราะเสียงสะท้อนก็ชัดเจน ส่วนนักวิชาการที่ยังเคลื่อนไหวนั้น ควรเคารพกติกากัน และรู้ว่าเสียงสะท้อนออกมาเช่นนี้ก็น่าที่จะเข้าใจกันได้ว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการอย่างไรในชาติบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามถึงขณะนี้ใกล้พ้นจากการที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในเดือน พ.ค.55 ได้มีการชักชวนจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้มาช่วยงานบ้างหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มองว่า ก็เป็นโอกาสอันดีของประเทศที่อีก 4 เดือน คนในบ้านเลขที่ 111 ที่เป็นผู้มีประสบการณ์ก็จะเป็นอิสระ เพราะต้องถือว่าสถานการณ์ทางการเมือง ในขณะนั้นไม่ปกติทำให้คนต่างๆ เหล่านั้นต้องหลุดพ้นทางการเมืองโดยไม่ได้ทำผิด ขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีประสบการณ์มาก และบ้านเมืองก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าต้องการบุคคลเหล่านี้
“อยากเชิญชวนให้คนที่อยู่ในบ้านเลขที่ 111 เมื่อพ้นการตัดสิทธิ์แล้วให้ออกมาร่วมกันช่วยชาติบ้านเมือง ส่วนในเรื่องของจะไปทำหน้าที่ในตำแหน่งใดนั้น ผมมองว่าไม่สำคัญ แต่มองว่าทำอะไรก็ได้ ขอให้ได้ทำประโยชน์กับประเทศก็พอ แต่ก็ยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีในส่วนของตำแหน่งทางการเมืองด้วย” นายสุวัจน์ ระบุ
เมื่อถามว่า บุคลากรในรัฐบาลขณะนี้ถูกวิจารณ์ว่ายังมือไม่ถึง นายสุวัจน์ กล่าวว่า สถานการณ์ต่างๆ ของรัฐบาลดีขึ้นมาก โดยเฉพาะหลังจากที่รัฐบาลบริหารประเทศมา 6 เดือน และมีการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่าภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ได้เข้าพบผู้นำในต่างประเทศต่างๆ และความมุ่งมั่นในการทำงาน อย่างไรก็ตาม หากมีการเสริมทีม ก็จะเป็นการดี แต่จะเป็นคนในบ้านเลขที่ 111 จะเป็นใครนั้นก็เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้พิจารณา ส่วนจะปรับปรุงในส่วนใดนั้น คิดว่านายกรัฐมนตรีทราบอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากประเมินแล้วการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอยู่ครบเทอม 4 ปีหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่า รัฐบาลนี้มีจุดแข็ง ในการมีพรรคแกนนำที่มีเสียง ส.ส.เกินครึ่ง คือ 265 เสียง ถือว่าเป็นพรรครัฐบาลผสมที่มีพรรคแกนนำเกินครึ่ง ไม่เหมือนรัฐบาลชุดก่อนที่พรรคประชาธิปัตย์มีเสียงไม่เกินครึ่ง ดังนั้นจึงต้องพึ่งตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นตนว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง
“โดยเฉพาะในตัวนายกรัฐมนตรีที่เป็นสุภาพสตรี หลีกเลี่ยงในเรื่องของการกระทบกระทั่ง เท่าที่ดูมาก็ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่น ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อย และไม่ไปเตะของร้อนอย่างที่ผ่านมา ก็จะไม่มีปัญหา ที่สำคัญรัฐบาลนี้มีความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยพร้อมรับฟังเสียงประชาชน” นายสุวัจน์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีขบวนการล้มรัฐบาลในช่วงเดือน เม.ย.นี้นั้น นายสุวัจน์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยกล่าวว่า ถือเป็นปัจจัยอื่น แต่ด้วยโครงสร้างหลักของรัฐบาลชุดนี้ที่มีเสียงเกินครึ่ง และทำงานในลักษณะฟังเสียงประชาชนก็เชื่อว่าคงเป็นไปได้ยาก ส่วนตัวก็อยากที่จะเห็นรัฐบาลอยู่ครบเทอม เพราะว่าจะทำให้ต่างชาติมั่นใจและเศรษฐกิจต่างๆ จะดูดี
ผู้สื่อข่าวรายงาน เป็นที่น่าสังเกตว่า มีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้าร่วมอวยพรมากเป็นพิเศษ อาทิ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังชล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายวราเทพ รัตนากร และ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี เป็นต้น
ในขณะที่ นายสุวัจน์ ร่วมรับประทานอาหารกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ ได้โทรศัพท์เข้ามาอวยพรและพูดคุยกับนายสุวัจน์เป็นเวลาประมาณ 3 นาทีอีกด้วย โดยนายสุวัจน์ เปิดเผยภายหลังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามาอวยพร ระหว่างที่ตนรับประทานอาหารอยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่า นายกฯ แวะมาอวยพรวันเกิดแล้วหรือยัง จึงตอบไปว่า นั่งรับประทานอาหารร่วมกันอยู่ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ดีแล้ว และในโอกาสวันเกิด ซึ่งทุกปีพี่ก็อวยพร ดังนั้น ปีนี้ก็ขอให้นำคำอวยพรปีที่ผ่านๆ มา รวมๆ กัน และขอให้คำอวยพรเป็นจริง นอกจากนั้น บอกว่า ขอให้มีความสุข ทั้งนี้ ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองแต่อย่างใด
โดยวันเกิดปีนี้ นายสุวัจน์ ได้แจกของที่ระลึก เป็นเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 7 รอบ เสื้อยืดคอกลมสีขาวสกีนคำว่า BIG THANKS และมีรูปวาดการ์ตูน ลูกฟุตบอล เทนนิส กอล์ฟ พร้อมลายเซ็น แจกเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นักการเมืองบ้านเลขที่ 111 อาทิ นายประจวบ ไชยสาสน์ อดีต รมว.อุตสาหกรรม รวมไปถึงคนในแวดวงธุรกิจและกีฬา อาทิ ทีมสโมสรฟุตบอลโคราช เอฟซี หรือ สวาทแคท ลอนเทนนิสสมาคม และ บัวขาว ป.ประมุข แชมป์มวยไทยไฟต์คนล่าสุด พร้อมทีมงาน ก็มาอวยพร
ทางด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบแจกันดอกไม้ พร้อมกล่าวอวยพรว่า เป็นตัวแทนของหัวหน้าพรรค ตัวแทนคณะรัฐมนตรีมาอวยพรวันเกิด ขอให้สุขภาพแข็งแรง ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอให้กลับมาเล่นการเมืองอย่างรุ่งโรจน์
จากนั้น นายสุวัจน์ เจ้าของวันเกิดได้เชิญนายกรัฐมนตรีและคณะร่วมรับประทานอาหารกลางวัน โดยเมดูเด็ด ประกอบด้วย หมูสะเต๊ะ ข้าวมันไก่ ปีกไก่ทอด ข้าวขาหมูตรอกซุง ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กลูกชิ้นปลา เย็นตาโฟวัดแขก โดย นายสุวัจน์ ได้หยิบหมูสะเต๊ะให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย
หลังจากการร่วมรับประทานอาหารนานร่วม 1 ชม.นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวถามว่า “มาจีบนายสุวัจน์หรือเปล่า” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แต่ยิ้ม ทำให้ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้านักการเมืองบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษแบนมีโอกาสจะร่วมงานกับนายสุวัจน์อีกครั้งหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ได้ปิดกั้น หากนายสุวัจน์มีความคิดเห็นที่ดีต่อบ้านเมือง
ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ได้นำสุนัขตัวโปรดพันธุ์ปั๊ค “ชุ ชู” ออกมาทักทายผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมทั้งเปิดตัวสุนัขพันธุ์ ชิวาวา ชื่อ นมข้น วัย 2 เดือน ซึ่งเป็นสุนัขของบุตรสาว ด้วย