ASTVผู้จัดการรายวัน - ผงะ! ปล่อยขุดเจาะน้ำมันกลางกรุง "ส.ว.คำนูณ" แฉบริษัทต่างชาติเตรียมขุดเจาะน้ำมันย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังสำรวจด้วยคลื่นไฟฟ้าพบมีน้ำมันจริง เตรียมตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเพื่อให้ข้อมูลประชาชน ด้านกรมเชื้อเพลิงฯ ยอมรับ บ.ต่างชาติกำลังสำรวจจริง เผยโอกาสเจอแหล่งปิโตรเลียมแค่ 10%
ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) ที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม โดยในช่วงหารือก่อนที่จะเข้าสู่วาระการประชุม นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า ที่ประชุมทราบหรือไม่ว่า ในกทม. มีน้ำมันจำนวนมหาศาล ปรากฏว่าในขณะนี้ได้มีบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ได้รับสัมปทานสำรวจแหล่งปิโตรเลียมใต้พื้นดิน กทม. บนแปลงบริเวณริมถนนพุทธมณฑล สาย 2 เขตทวีวัฒนา จากการสำรวจด้วยคลื่นไฟฟ้าที่เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ พบว่ามีน้ำมันจริง ขณะนี้ได้ทำการล้อมรั้วเรียบร้อย ปรับพื้นที่ และเตรียมขุดเจาะเร็วๆนี้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะกินบริเวณพื้นที่ 20 ตารางกิโลเมตร รอบๆ บริเวณหลุมขุดเจาะ ซึ่งอยู่ห่างจากหลังบ้านตนไปนิดเดียว
" ถ้าปริมาณมีมากพอในเชิงพาณิชย์ อะไรจะเกิดขึ้นกับ กทม.โดยรวม อะไรจะเกิดขึ้นกับประชาชนเขตทวีวัฒนา พุทธมณฑล สาย 2 สาย 3 และ สาย 4 เขตพื้นที่สีเขียว มีหลักการอย่างไร ในการอนุญาตให้มีการสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียม และมีการเตรียมการแก้ไขปัญหา หรือดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไร ทั้งในระหว่างการขุดเจาะ ซึ่งทราบว่า จะรู้ผลว่าจะมีมากในเชิงพาณิชย์หรือไม่ ภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ จึงขอฝากไปยังรัฐบาล ช่วยชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เฉพาะเขตทวีวัฒนา แต่ต่อพี่น้องประชาชนใน กทม.โดยรวมด้วย ซึ่งผมจะตั้งกระทู้ถามด่วน ต่อ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม " นายคำนูณระบุ
***กรมเชื้อเพลิงแจงมีโอกาสเจอแค่ 10%
นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า บริษัท Mitra Energy จำกัด ได้รับสัมปทานปิโตรเลียมเพื่อทำการสำรวจและขุดเจาะในพื้นที่บริเวณอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งขั้นตอนการดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการกำหนดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับฟังความเห็นจากประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านบริเวณดังกล่าวมีทั้งสนับสนุนและคัดค้านจึงได้มีการตั้งคณะทำงานไตรภาคีที่ประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัท ราชการพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่
“การดำเนินงานที่ผ่านมาได้มีการประชุมและรับทราบการดำเนินงานทุกขั้นตอนในคณะกรรมการไตรภาคี และขั้นตอนการเจาะสำรวจเป็นขั้นตอนปกติที่ผู้ที่ได้รับสัมปทานจะต้องดำเนินงานไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิดก็ต้องให้โอกาสเขา ซึ่งการขุดเจาะเป็นขั้นตอนการสำรวจถ้าไม่เจอก็ต้องคืนพื้นที่ดังกล่าว” นายทรงภพกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯดังกล่าวก่อนหน้านี้มีแปลงสำรวจในพื้นที่อื่นๆ เช่นอยุธยา แต่ก็ได้คืนหมดแล้วเพราะขั้นตอนสำรวจไม่พบศักยภาพของแหล่งปิโตรเลียมใดๆ และพื้นที่ดังกล่าวเป็นสัมปทานแปลงสุดท้ายซึ่งเข้าใจว่าชาวบ้านอาจจะกังวลว่าถ้าเจอปิโตรเลียมแล้วอาจจะกระทบต่อการดำรงชีวิตในระยะต่อไป แต่โอกาสที่จะเจอแหล่งปิโตรเลียมในบริเวณดังกล่าวน้อยมากมีเพียง 10% เท่านั้นเพราะก่อนหน้านั้น 4 ปีเคยมีบริษัทฯทำการสำรวจแล้วและไม่พบแต่เป็นการขุดเจาะในบริเวณที่ห่างจากจุดปัจจุบันไปราว 4-5 กิโลเมตร.
