ASTVผู้จัดการรายวัน – อสังหาฯรายกลาง-รายเล็กกระอัก หลังประสบภัยน้ำท่วมสภาพคล่องขาดมือ หลังแบงก์งด-ชะลอปล่อยสินเชื่อ เผยรายเล็กดิ้นสู้เดินสายแลกเช็คเงินสดลง-ยืมเงินหมุนสภาพคล่อง ด้านบัวทองฯ เผยแผนปี55ผุด 5 โครงการใหม่มูลค่ากว่า1,000ล้านบาท พร้อมนำร่อง โครงการยกสูงสู้น้ำท่วม ภายใต้ แบรนด์ “พิทย์พมานการ์เด้นท์” โครงการบ้านเดี่ยวเลียบถนน 345 ต้นแบบ คาดทั้งปีรับรู้รายได้300ล้านบาท
นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริการ บริษัท กลุ่มบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า อุทกภัยน้ำท่วมช่วงปลายปี54ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้ประกอบการมียอดขายลดลงอย่างมาก เนื่อจากลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยออกไป ส่งผลให้ผู้ประกอบกาอสังหาฯขนาดกลางและเล็ก ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ปัจจุบัน ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กประสบปัญหาหนักมาก เพราะยอดขาย และยอดโอนไม่มี ขณะที่สถาบันการเงินเริ่มชะการลอปล่อยสินเชื่อ เพราะขาดความเชื่อมั่นต่อตลาดในขณะนี้ ทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
“ตอนนี้มีการแลกเช็คเงินสดหรือใช้วิธีการยืมเงินสดหมุนสภาพคล่องกันเป็นจำนวนมาก ต้องยอมรับว่า การเงินของผู้ประกอบการดังกล่าวนั้น เริ่มตรึงตัวแทบจะทุกรายแล้ว” นายไพโรจน์ กล่าวและว่า โครงการอสังหาฯในพื้นที่บางบัวทอง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก รวมถึง“บัวทอง”ด้วย อย่างไรก็ตามหลังเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ตลาดก็เริ่มฟื้นตัวกลับมา โดยจำนวนลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนน้ำท่วมแล้ว โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จำนวนลูกค้าเข้าชมโครงการเพิ่มขึ้น 60-70% แล้ว
ทั้งนี้ ลูกค้าในตลาดรวมที่ชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปกว่า 90% นั้น ส่วนใหญ่ต้องการรอดูสถานการณ์น้ำในปีนี้ ว่าเกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำอีกหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำในปีนี้ เชื่อว่า ลูกค้าจะกลับมาสู่ปกติได้ ทั้งนี้ บัวทองฯ ถือว่าโชคดีที่ธนาคารเกียรตินาคิน ให้การสนับสนุนเงินกู้อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารเกียรตินาคิน ได้อนุมัติเงินกู้ให้แก่บริษัทเป็นวงเงินกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทใช้ไปเพียง 100 ล้านบาท
นายไพโรจน์ กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่รวม 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า1,000ล้านบาท โดยโครงการแรกที่จะเปิดตัวในปีนี้ คือ ทิพย์พิมาน การ์เด้นท์ โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่า 600 ล้านบาท ตั้งอยู่เลียบถนนสาย 345 ซึ่งเคยประสบปัญหาน้ำท่วม โดยล่าสุดได้เริ่มถมที่ดินยกระดับให้พื้นที่พัฒนาโครงการให้สูงจากผิวถนนมากกว่ามาตรฐาน เพื่อรองรับนโยบายการพัฒนาโครงการและแนวคิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้สามารถต่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมได้ ส่วนโครงการที่ 2 จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว บนพื้นที่พัฒนาโครงการ 23ไร่ ในทำเลเลียบถนนลาดปลาดุก ส่วนที่เหลืออีก3โครงการอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินและพิจารณาทำเล
“ในปี2554ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ต่ำกว่าเป้าไม่มาก แม้จะประสบกับภาวะน้ำท่วมในไตรมาสสุดท้ายส่วนในปีนี้ คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ300 ล้านบาท สำหรับ งานบริหารการขายโครงการของกลุ่มบัวทองฯ นั้นในปีนี้จะรักษาปริมาณการรับงานบริหารการขายโครงการไว้ที่ 20 โครงการ และเพิ่มน้ำหนักกับการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อขายเพิ่มขึ้น”
นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริการ บริษัท กลุ่มบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า อุทกภัยน้ำท่วมช่วงปลายปี54ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้ประกอบการมียอดขายลดลงอย่างมาก เนื่อจากลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยออกไป ส่งผลให้ผู้ประกอบกาอสังหาฯขนาดกลางและเล็ก ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ปัจจุบัน ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กประสบปัญหาหนักมาก เพราะยอดขาย และยอดโอนไม่มี ขณะที่สถาบันการเงินเริ่มชะการลอปล่อยสินเชื่อ เพราะขาดความเชื่อมั่นต่อตลาดในขณะนี้ ทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
“ตอนนี้มีการแลกเช็คเงินสดหรือใช้วิธีการยืมเงินสดหมุนสภาพคล่องกันเป็นจำนวนมาก ต้องยอมรับว่า การเงินของผู้ประกอบการดังกล่าวนั้น เริ่มตรึงตัวแทบจะทุกรายแล้ว” นายไพโรจน์ กล่าวและว่า โครงการอสังหาฯในพื้นที่บางบัวทอง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก รวมถึง“บัวทอง”ด้วย อย่างไรก็ตามหลังเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ตลาดก็เริ่มฟื้นตัวกลับมา โดยจำนวนลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนน้ำท่วมแล้ว โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จำนวนลูกค้าเข้าชมโครงการเพิ่มขึ้น 60-70% แล้ว
ทั้งนี้ ลูกค้าในตลาดรวมที่ชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปกว่า 90% นั้น ส่วนใหญ่ต้องการรอดูสถานการณ์น้ำในปีนี้ ว่าเกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำอีกหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำในปีนี้ เชื่อว่า ลูกค้าจะกลับมาสู่ปกติได้ ทั้งนี้ บัวทองฯ ถือว่าโชคดีที่ธนาคารเกียรตินาคิน ให้การสนับสนุนเงินกู้อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารเกียรตินาคิน ได้อนุมัติเงินกู้ให้แก่บริษัทเป็นวงเงินกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทใช้ไปเพียง 100 ล้านบาท
นายไพโรจน์ กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่รวม 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า1,000ล้านบาท โดยโครงการแรกที่จะเปิดตัวในปีนี้ คือ ทิพย์พิมาน การ์เด้นท์ โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่า 600 ล้านบาท ตั้งอยู่เลียบถนนสาย 345 ซึ่งเคยประสบปัญหาน้ำท่วม โดยล่าสุดได้เริ่มถมที่ดินยกระดับให้พื้นที่พัฒนาโครงการให้สูงจากผิวถนนมากกว่ามาตรฐาน เพื่อรองรับนโยบายการพัฒนาโครงการและแนวคิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้สามารถต่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมได้ ส่วนโครงการที่ 2 จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว บนพื้นที่พัฒนาโครงการ 23ไร่ ในทำเลเลียบถนนลาดปลาดุก ส่วนที่เหลืออีก3โครงการอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินและพิจารณาทำเล
“ในปี2554ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ต่ำกว่าเป้าไม่มาก แม้จะประสบกับภาวะน้ำท่วมในไตรมาสสุดท้ายส่วนในปีนี้ คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ300 ล้านบาท สำหรับ งานบริหารการขายโครงการของกลุ่มบัวทองฯ นั้นในปีนี้จะรักษาปริมาณการรับงานบริหารการขายโครงการไว้ที่ 20 โครงการ และเพิ่มน้ำหนักกับการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อขายเพิ่มขึ้น”
