00 แม้ว่านายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะนั่งยัน นอนยันว่า “เอาอยู่ค้า” น้ำไม่ท่วมเหมือนปีก่อนแน่นอน ก็แหงละลองถ้า “ห่วย” ยังปล่อยให้เกิดวิกฤติเหมือนปีก่อน มันก็สมควร “ใสหัวไป” ทั้งก๊วนรวมทั้ง “พี่ชาย” คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ชักใยสั่งการอยู่ข้างนอก เพราะมีเวลาให้เตรียมตัว เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าได้ขนาดนี้แล้วยัง “ท่วมจนอ่วม” เหมือนเดิมมันก็ไม่รู้จะว่าใครแล้ว
00 จะว่าไปแล้วเรื่องน้ำท่วมปีนี้ถือว่าเป็น “เดิมพัน” สำคัญของรัฐบาลชุดนี้เช่นเดียวกัน และแม้ว่าจะมีการทุ่มงบประมาณมารับมือกันมหาศาล แต่ก็ยังไม่มีใครมั่นใจเท่าใดนัก พิสูจน์ได้จากผลโพลของบรรดานักธุรกิจใหญ่น้อย ที่ยังผวา “จมน้ำ” ไม่หาย ยังไม่ค่อยมีใครเชื่อมือสักเท่าไหร่ และที่งบประมาณของรัฐที่ทุ่มลงไปนั้น นอกจากทำให้ชาวบ้านทั้งประเทศต้องเป็นหนี้ร่วมกันแล้ว ที่สำคัญยังเปิดช่องให้พวก “นักการเมืองห่วยๆ” พวกนี้หาเศษหาเลยชักค่านายหน้าจากสารพัดโครงการทั้งในท้องถิ่น และส่วนกลาง รอฟังข่าวกันเถอะ ไม่นานความก็แตกอีก
00 นี่ก็เริ่มเข้าสู่แผนขั้นตอนที่สองของ “เครือข่ายหน้าเหลี่ยม” อีกรอบ นั่นคือการจับทุกฝ่ายเป็น “ตัวประกัน” หลังจากเริ่มมีการขยับ “ก๊อกสอง” เรื่องเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง(นิรโทษฯ)ตามหลังการรื้อ รธน.และคนที่ “รับงาน” มาทำก็อย่างที่รู้กันไปแล้วก็คือ “ขี้เมา” คนเดิม เฉลิม อยู่บำรุง รูปการก็ไม่ต่างจากการเยียวยาใช้เงินหลวงจ่ายเงินซื้อใจเสื้อแดงศพละกว่า 7 ล้านบาทนั่นแหละคืออ้างทุกสีทุกกลุ่ม แต่เป้าหมายคือมุ่งไปที่พวกเดียวกัน พรบ.ปรองดอง ก็อีหรอบเดียวกันล้างผิดให้ทุกกลุ่ม แต่เป้าหมายก็คือ “เจ้านาย” ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ
00 ที่เห็นได้ชัดก็คือเล่ห์เหลี่ยมใช้ “รัฐตำรวจ” เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนออกหมายเรียก 46 แกนนำพันธมิตรฯไปรับทราบข้อหา “ก่อการร้าย” ในกรณีชุมนุมหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งข้อหาสุดโต่งจับเป็นตัวประกันไว้ก่อน ให้ทุกฝ่ายอยู่ใน “ระนาบ” เดียวกัน เพื่อนำเข้าสู่โหมดนิรโทษกรรม-ปรองดองที่กำลังตั้งแท่นรออยู่ ซึ่งถ้าติดตามอย่างใกล้ชิดก็ย่อมไม่มีใครหลงกล เหมือนกับที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศลั่นเมื่อวันก่อนว่า “ไม่ยอมหลงกล”หรอก !!
00 ผ่านเรียบร้อยโรงเรียนแม้วไปแล้วสำหรับมหกรรม “ชำเรารธน.”โดยเสียงข้างมากในสภา ล่าสุดก็ผ่านวาระแรกไปตามความคาดหมาย หลังจากนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการ จนในที่สุดก็มีการนำไปสู่การแก้ไข ม.291 จนมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อมารื้อ ทั้งฉบับ ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากการรัฐประหารฉีกทิ้ง เพียงแต่ว่าแตกต่างจากยุคก่อนที่ใช้ทหาร แต่คราวนี้เป็นการใช้ทุนสามานย์ผ่านทาง “บริษัทพรรคเพื่อไทย จำกัด” เท่านั้นเอง
00 จะเป็นเพราะต้องการโชว์กร่าง โชว์พาวว์ตามสันดาน หรือเปล่าไม่ทราบได้ เพราะหลังจากได้แสดงบทบาท “แอ็กอาร์ต” เป็นดาวเด่นในสภาอยู่คนเดียว ทำให้ “รองเหลิม” ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ถึงขนาดเซไปเซมาแทบยืนไม่ติด หลายคนลงความเห็นว่านี่คืออาการ “เมา”ได้ที่ ก็ได้แต่เตือนว่าให้ระวังสุขภาพไว้หน่อยเดี๋ยวจะตายเสียก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องเตือนนั่นมันสภา เป็น “เขตพระราชฐาน” จะทำอะไรให้รู้จักความเหมาะสม อย่าให้คนอื่นเขาด่าตามหลังว่า “ไอ้นี่มีอำนาจแล้วเหลิง” ทุกที สิท่า !!
00 นี่ก็เชื่อขนมกินได้ไว้ก่อนเลย หากมีการสำรวจความเห็นเรื่อง “ราคาข้าวของ” ก็ต้องบอกตรงกันว่า “โคตรแพง” นอกเหนือจากเรื่องราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักจะมีราคาพุ่งไม่หยุดแล้ว ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่ใช้ประชานิยมนำหน้า เพิ่มแต่รายได้แบบเอาหน้า โดยไม่ยอมไปลดค่าใช้จ่ายอีกไม่นานมันก็ไปไม่รอด เพราะไหนจะต้องใช้งบจำนวนมหาศาล เชื่อว่าโครงการจำนำข้าวปีนี้จะเกิดความปั่นป่วน หากเปิดให้มีการรับจำนำทุกเมล็ด เพราะนอกจากจะมีการสวมสิทธิ์ ทุจริตกันอย่างโหฬารแล้ว เอาเข้าจริงชาวนาก็จะถูกกดราคาจากข้ออ้างจากโรงสีเรื่อง “ความชื้น” ที่บอกว่าราคาเกวียนละ 15,000 มันก็ดีแต่โม้ และที่ต้องจำนำมันก็ต้องมีราคาสินค้าเกษตรหลักๆอย่างอื่นด้วย ต้องใช้งบอีกเท่าไหร่ ครั้นจะหันกลับไปที่ “ประกันราคา” ที่ใช้เงินไม่มากแต่ชัวร์กว่าก็ทำไม่ได้ เพราะจะเสียหน้า แถมยังถูกพวกปชป.เยาะเย้ยอีก ก็ต้องดันทุรังเจ๊งต่อไป เฮ้อ !!
00 จะว่าไปแล้วเรื่องน้ำท่วมปีนี้ถือว่าเป็น “เดิมพัน” สำคัญของรัฐบาลชุดนี้เช่นเดียวกัน และแม้ว่าจะมีการทุ่มงบประมาณมารับมือกันมหาศาล แต่ก็ยังไม่มีใครมั่นใจเท่าใดนัก พิสูจน์ได้จากผลโพลของบรรดานักธุรกิจใหญ่น้อย ที่ยังผวา “จมน้ำ” ไม่หาย ยังไม่ค่อยมีใครเชื่อมือสักเท่าไหร่ และที่งบประมาณของรัฐที่ทุ่มลงไปนั้น นอกจากทำให้ชาวบ้านทั้งประเทศต้องเป็นหนี้ร่วมกันแล้ว ที่สำคัญยังเปิดช่องให้พวก “นักการเมืองห่วยๆ” พวกนี้หาเศษหาเลยชักค่านายหน้าจากสารพัดโครงการทั้งในท้องถิ่น และส่วนกลาง รอฟังข่าวกันเถอะ ไม่นานความก็แตกอีก
00 นี่ก็เริ่มเข้าสู่แผนขั้นตอนที่สองของ “เครือข่ายหน้าเหลี่ยม” อีกรอบ นั่นคือการจับทุกฝ่ายเป็น “ตัวประกัน” หลังจากเริ่มมีการขยับ “ก๊อกสอง” เรื่องเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง(นิรโทษฯ)ตามหลังการรื้อ รธน.และคนที่ “รับงาน” มาทำก็อย่างที่รู้กันไปแล้วก็คือ “ขี้เมา” คนเดิม เฉลิม อยู่บำรุง รูปการก็ไม่ต่างจากการเยียวยาใช้เงินหลวงจ่ายเงินซื้อใจเสื้อแดงศพละกว่า 7 ล้านบาทนั่นแหละคืออ้างทุกสีทุกกลุ่ม แต่เป้าหมายคือมุ่งไปที่พวกเดียวกัน พรบ.ปรองดอง ก็อีหรอบเดียวกันล้างผิดให้ทุกกลุ่ม แต่เป้าหมายก็คือ “เจ้านาย” ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ
00 ที่เห็นได้ชัดก็คือเล่ห์เหลี่ยมใช้ “รัฐตำรวจ” เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนออกหมายเรียก 46 แกนนำพันธมิตรฯไปรับทราบข้อหา “ก่อการร้าย” ในกรณีชุมนุมหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งข้อหาสุดโต่งจับเป็นตัวประกันไว้ก่อน ให้ทุกฝ่ายอยู่ใน “ระนาบ” เดียวกัน เพื่อนำเข้าสู่โหมดนิรโทษกรรม-ปรองดองที่กำลังตั้งแท่นรออยู่ ซึ่งถ้าติดตามอย่างใกล้ชิดก็ย่อมไม่มีใครหลงกล เหมือนกับที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศลั่นเมื่อวันก่อนว่า “ไม่ยอมหลงกล”หรอก !!
00 ผ่านเรียบร้อยโรงเรียนแม้วไปแล้วสำหรับมหกรรม “ชำเรารธน.”โดยเสียงข้างมากในสภา ล่าสุดก็ผ่านวาระแรกไปตามความคาดหมาย หลังจากนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการ จนในที่สุดก็มีการนำไปสู่การแก้ไข ม.291 จนมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อมารื้อ ทั้งฉบับ ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากการรัฐประหารฉีกทิ้ง เพียงแต่ว่าแตกต่างจากยุคก่อนที่ใช้ทหาร แต่คราวนี้เป็นการใช้ทุนสามานย์ผ่านทาง “บริษัทพรรคเพื่อไทย จำกัด” เท่านั้นเอง
00 จะเป็นเพราะต้องการโชว์กร่าง โชว์พาวว์ตามสันดาน หรือเปล่าไม่ทราบได้ เพราะหลังจากได้แสดงบทบาท “แอ็กอาร์ต” เป็นดาวเด่นในสภาอยู่คนเดียว ทำให้ “รองเหลิม” ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ถึงขนาดเซไปเซมาแทบยืนไม่ติด หลายคนลงความเห็นว่านี่คืออาการ “เมา”ได้ที่ ก็ได้แต่เตือนว่าให้ระวังสุขภาพไว้หน่อยเดี๋ยวจะตายเสียก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องเตือนนั่นมันสภา เป็น “เขตพระราชฐาน” จะทำอะไรให้รู้จักความเหมาะสม อย่าให้คนอื่นเขาด่าตามหลังว่า “ไอ้นี่มีอำนาจแล้วเหลิง” ทุกที สิท่า !!
00 นี่ก็เชื่อขนมกินได้ไว้ก่อนเลย หากมีการสำรวจความเห็นเรื่อง “ราคาข้าวของ” ก็ต้องบอกตรงกันว่า “โคตรแพง” นอกเหนือจากเรื่องราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักจะมีราคาพุ่งไม่หยุดแล้ว ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่ใช้ประชานิยมนำหน้า เพิ่มแต่รายได้แบบเอาหน้า โดยไม่ยอมไปลดค่าใช้จ่ายอีกไม่นานมันก็ไปไม่รอด เพราะไหนจะต้องใช้งบจำนวนมหาศาล เชื่อว่าโครงการจำนำข้าวปีนี้จะเกิดความปั่นป่วน หากเปิดให้มีการรับจำนำทุกเมล็ด เพราะนอกจากจะมีการสวมสิทธิ์ ทุจริตกันอย่างโหฬารแล้ว เอาเข้าจริงชาวนาก็จะถูกกดราคาจากข้ออ้างจากโรงสีเรื่อง “ความชื้น” ที่บอกว่าราคาเกวียนละ 15,000 มันก็ดีแต่โม้ และที่ต้องจำนำมันก็ต้องมีราคาสินค้าเกษตรหลักๆอย่างอื่นด้วย ต้องใช้งบอีกเท่าไหร่ ครั้นจะหันกลับไปที่ “ประกันราคา” ที่ใช้เงินไม่มากแต่ชัวร์กว่าก็ทำไม่ได้ เพราะจะเสียหน้า แถมยังถูกพวกปชป.เยาะเย้ยอีก ก็ต้องดันทุรังเจ๊งต่อไป เฮ้อ !!