xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"นำกยน.เข้าเฝ้าในหลวง มท.เล็งจัดผังเมืองใหม่12จว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (23 ก.พ.) นายกิจจา ผลภาษี คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการ

บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ก.พ.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายก

รัฐมนตรี ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมคณะกยน. นำโดย

นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง

นายสุเมธ ตันติเวชกุล นายวีรพงษ์ รามางกูร นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา นายรอยล จิตรดอน

รวมถึงตน
ทั้งนี้ กยน.จะกราบทูลรายงานแผนงานการบริหารจัดการน้ำให้ทรงรับทราบ ทั้งแผน

ระยะเร่งด่วน และระยะยาว นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี จะกราบทูลผลการลงพื้นที่สำรวจความ

พร้อมในการป้องกันน้ำท่วม โดยในวันที่ 23 ก.พ. จะประชุมกรรมการ กยน. ที่มีนายกิตติรัตน์

เป็นประธาน เพื่อเตรียมความพร้อม และหารือแผนงานก่อนเข้าเฝ้าฯ

** ห่วงปัญหาประชาชนรุกที่แก้มลิง

นายกิจจา กล่าวภายหลังการประชุม กยน. ว่า มีการหารือกันในหลักการ เรื่องที่จะ

ต้องนำความเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งมีรายละเอียดจำนวนมาก

อาทิ เรื่องแผนการบริหารจัดการน้ำ เรื่องผลการลงทำงานในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้ไปสั่งการว่าเป็น

อย่างไรบ้าง โดยจะมีการกราบบังคมทูล เผื่อว่าพระองค์ท่านมีพระราชดำริเพิ่มเติม ซึ่งในพื้นที่

ภาคกลาง จะมีการหาแนวทางนำน้ำลงทะเลให้เร็วที่สุด โดยเป็นการดำเนินการตามแนวทาง

พระราชดำริอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องฟลัดเวย์ จะมีการกำหนดให้น้ำออกไปทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก

ตามคลองเดิมอยู่แล้วนั้น หากน้ำมากในระยะเร่งด่วนนั้นก็จะใช้พื้นที่ธรรมชาติที่น้ำขังอยู่แล้ว

รองรับน้ำไปก่อน
สำหรับในระยะยาวกรมชลประทาน จะกำหนดพื้นที่ว่าจะเอาน้ำออกไปทางฟลัดเวย์

ได้อย่างไร ซึ่งแนวทางที่วางไว้จะอยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก

อย่างไรก็ตามกรณีที่มีประชาชนบุกรุกพื้นที่แก้มลิงนั้น ต้องให้ทางจังหวัด หารือร่วมกับ

กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง

แวดล้อม เพื่อหาทางออกเรื่องนี้

** เผย 4 โครงการเร่งด่วน

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา คณะกรรมการ กยน. กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ได้

มีการหารือในเรื่องการเร่งรัดโครงการต่างๆ ที่มีความสำคัญ ประกอบด้วย การจัดลำดับความ

สำคัญของโครงการ ว่าโครงไหนที่จะทำเสร็จได้จริง ก่อนที่น้ำจะมา คือประมาณเดือนพ.ค.- มิ.ย.

การดูเรื่องผังน้ำที่กำหนดไว้เดิม ใช้ได้หรือไม่เพียงใด ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยาต้องคำนวณว่า

จะมีปริมาณน้ำฝนเท่าไร และจะมีการบริหารจัดการน้ำอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยน

แปลงอะไร เพราะผังน้ำเดิมที่กำหนดไว้ คือ ต้นน้ำจะอาศัยเขื่อน กลางน้ำอาศัยแก้มลิง และ

ปลายน้ำ จะอาศัยการบริหารจัดการของกทม. และพื้นที่โดยรอบ รวมถึงจะมาดูอีกครั้งว่า จะทำ

อย่างไรกับงบลงทุน ที่รัฐบาลลงทุนไปทั้งหมด ซึ่งผ่านคณะกรรมการระยะสั้นแล้ว ประมาณ 10,

000 ล้านบาท จะมีผลทำให้น้ำได้รับการผลักดันให้ออกไปจากพื้นที่ที่จะท่วมได้มากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำเรื่องแผนเรื่องการปรับปรุงเรื่องน้ำ และผลที่คาดว่าจะได้

ในการลงทุน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พื้นที่ที่น้ำไม่ควรจะท่วมมีที่ไหนบ้าง นายปีติพงศ์ กล่าวว่า เป็น

พื้นที่หลักของชุมชน และพื้นที่เศรษฐกิจ ไม่ได้เน้นเฉพาะอุตสาหกรรมอย่างเดียว รวมทั้งพื้นที่

ดอนเมือง ก็ไม่ควรจะท่วม หมู่บ้านบางหมู่บ้านที่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับ
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดตัวเงิน 3.5 แสนล้านบาท ว่าจะนำมาใช้อย่างไรบ้าง

นายปีติพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะเบื้องต้นต้องมีการจัดว่าโครงการที่รับมา และ

โครงการเก่าๆ อันไหนสามารถทำได้จริงในช่วงระยะเวลานี้ อันไหนที่ต้องใช้เงิน 3.5 แสนล้าน

บาท ที่เป็นระยะยาว เพราะไม่อย่างนั้นการใช้เงินของประเทศจะมีความสับสน
ถามต่อว่า การจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่จะต้องเสร็จให้ทันเดือน พ.ค.-มิ.ย.

นายปีติพงศ์ กล่าวว่า มี 4 โครงการคือ
1. เรื่องการบริหารจัดการพื้นที่ที่จะทำเป็นพื้นที่ทิ้งน้ำที่เก็บน้ำชั่วคราว ประมาณ 2

ล้านไร่
2. การสร้างคันกั้นน้ำเพื่อไม่ให้เทศบาลหรือพื้นที่ที่มีความสำคัญได้รับผลกระทบ
3.การขุดคลองระบายน้ำ ปรับปรุงคู คลอง และอาคารบังคับน้ำ
4.พื้นที่ต้องทำฟลัดเวย์ คือ พื้นที่จะให้น้ำวิ่งไป ซึ่งพื้นที่ทำฟลัดเวย์ จะเป็นพื้นที่ที่น้ำ

ไหลผ่านอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้สามารถบังคับน้ำตามที่เราคิดได้
นายบัณฑูรย์ สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอำพน กิตติอำพน

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานนำคณะกรรมการ กยน.เข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบบังคมทูล

แต่ละโครงการฟื้นฟู มีการดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ศาลรัฐ

ธรรมนูญได้วินิจฉัยผ่าน พ.ร.ก. 2 ฉบับ ว่าไม่เป็นปัญหา รัฐบาลจึงถือโอกาสนี้เข้าเฝ้าฯ กราบ

บังคมทูลรายงานความคืบหน้าการทำงาน

**มท.ประกาศผังเมืองใหม่ 12 จว.

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวยอมรับว่า

กระทรวงมหาดไทย มีแนวคิดเตรียมประกาศใช้ผังเมืองใหม่ ใน 12 จังหวัด เนื่องจากเห็นว่า

สถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ควรมีการกำหนดผังเมืองใหม่ให้เหมาะสม แต่จะรอข้อสรุปในเรื่อง

เส้นทางน้ำ จากคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ

กยน.ก่อน
"การพิจารณาผังเมืองใหม่ จะมีนักวิชาการและปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่

ให้คำแนะนำ จึงเชื่อว่าจะมีความเป็นอิสระ เพราะผู้เกี่ยวข้องมีศักดิ์ศรี จึงไม่มีการเอื้อประโยชน์

ให้กับใคร" นายยงยุทธ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ไปพบนักธุรกิจที่ดินนั้น ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีเรื่องส่วนตัว

เรื่องชู้สาว หรือผลประโยชน์แอบแฝงแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น