xs
xsm
sm
md
lg

“โต้ง”เท9หมื่นล้านสร้างเขื่อนริมเจ้าพระยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – พ.ร.ก.ผ่าน “กิตติรัตน์” เดินหน้าสร้างเขื่อนถาวรแทนกระสอบทรายตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมหาพื้นที่แก้มลิงเบื้องต้นสำรวจพบกว่า 1.5 ล้านไร่ คาดทั้ง 2 โครงการใช้วงเงินรวมกว่า 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่วงสัมมนานโยบายงบปี 56 นายกฯ มอบหมายสานต่อนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมโครงการลงทุนเพื่อการบริหารน้ำที่สามารถดำเนินการได้เร็ว เพื่อรับมือกับช่วงฤดูฝนในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน โดยจะเน้นไปที่การป้องกันน้ำท่วมเป็นอันดับแรก เพราะการลงระบบป้องกันถาวรอาจไม่สามารถดำเนินการได้ทัน
สำหรับโครงการแรกที่คาดว่าจะดำเนินการได้หลังจากที่ประธานสภานำเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ทั้ง 2 ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบจากศาลรัฐธรรมนูญแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์คือ โครงการสร้างกำแพงริมแม่น้ำแทนการใช้กระสอบทรายก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถต้านทานในช่วงน้ำหลากได้ โดยมีพื้นที่ระยะทางยาวตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
"การสร้างกำแพงริมน้ำจะต้องมีความแข็งแรงทนทานสามารถต้านทานน้ำหนักน้ำได้ 1 ตันทุกๆ 1 เมตร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำทะลักเหมือนกับการใช้กระสอบทรายที่ไม่สามารถต้านทานแรงดันของน้ำได้เหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งโครงการนี้น่าจะดำเนินการได้เร็วหลัง และน่าจะเดินหน้าได้ทันทีหลังจากครม.อนุมัติ และจะอนุมัติวงเงินเป็นคราวๆ ในโครงการที่พร้อม โดยไม่ต้องรอให้พร้อมทุกโครงการภายใต้กรอบวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท" นายกิตติรัตน์กล่าว
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า โครงการเร่งด่วนอีกด้านที่ต้องดำเนินการทันทีคือการจัดเตรียมพื้นที่รับน้ำ เพื่อสร้างระบบเก็บกักน้ำได้ทันก่อนที่จะสร้างระบบถาวร โดยฤดูฝนปีนี้ หากมีปริมาณฝนตกลงมามากและเกินกว่าระดับการกักเก็บน้ำของเขื่อน ก็ต้องผลักดันน้ำให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 2 ล้านไร่ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่แล้วพบว่ามีความพร้อม 1.5 ล้านไร่ที่เป็นเป็นไปตามแผนที่สอดรับกัน โดยมีหลายจุดไม่ใช่พื้นที่บริเวณเดียวกัน ซึ่งส่วนนี้ต้องมีการชดเชยค่าเวนคืนที่ดินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ยังกำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าไปประสานงานกับเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชในพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วม โดยดูแลไม่ให้ปลูกพืชในช่วงน้ำหลากคือ กรกฎาคม - ตุลาคม จะได้ไม่เสียหายสูญเปล่า โดยจะดูแลให้เพาะปลูกตามปกติใน 2 ฤดูกาลและเว้นในช่วง 4 เดือนดังกล่าว เพื่อให้เป็นพื้นที่รับน้ำ

***"ปู" สานต่อนโยบายเร่งด่วน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนานโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 56 โดยระบุว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าวงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 20,000 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณแบบขาดดุลที่ 3 แสนล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะทำให้เป็นงบประมาณแบบสมดุลในอนาคต ขณะที่ในปี 55 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 5.5-6.5% โดยรัฐบาลจะเน้นแผนงานและโครงการต่างๆ ในด้านการฟื้นฟูประเทศภายหลังประสบอุทกภัยครั้งรุนแรงในช่วงปลายปี 54
"เน้นในเรื่องการสานต่อนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลทั้ง 16 ข้อ โดยขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานกลับไปดูว่านโยบายดังกล่าวยังมีเรื่องใดบ้างที่ตั้งงบประมาณไม่เรียบร้อย หรือยังเป็นงบผูกพัน ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐ เพราะถือว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และขอให้เป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการได้จริงในปี 56"
นายกฯ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายในปี 56 จะเน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ แบ่งเป็น กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และการเพิ่มรายได้จากการส่งออก เน้นการพัฒนาให้ชุมชนมีรายได้มากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มผลผลิตของภาคอุตสาหกรรม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะไทยถือว่าตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี และเป็นประตูสู่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ขณะเดียวกันต้องขยายความสัมพันธ์ไปยังประเทศอื่นๆ เช่น จีน อินเดีย และญี่ปุ่นด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น