มาสเตอร์ รุกธุรกิจรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยว จับมือ ซิกท์ เยอรมนี ปั้น ซิกท์ ไทยแลนด์ กินรวบ 7 ประเทศในอาเซียน ใช้งบเกือบ 100 ล้านบาท เปิดสาขาและเพิ่มจำนวนรถ ชูกลยุทธ์ด้านบริการที่หลากหลาย เปิดตัวครั้งแรก งาน เทศกาลเที่ยวทั่วไทย..ไปทั่วโลก พร้อมประกาศลุย เปิด สาขาต่างประเทศ ประเดิมที่เวียดนามปลายปีนี้ ก่อนสยายปีกครบ 7 ประเทศภายในปี 2558 รับเปิดเสรีอาเซียน มั่นใจ ดันธุรกิจรถเช่าระยะสั้นเติบโตเท่าตัว
นายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจรถเช่าในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น(เอเชีย) เปิดเผยว่า ได้เซ็นสัญญาเป็นแฟรนไชน์ซี ระยะ 10 ปี ทำธุรกิจรถเช่าระยะสั้น เพื่อการเดินทางและท่องเที่ยว กับ ซิกท์ (Sixt) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนี ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์อันดับ 1 ในประเทศเยอรมนีและติด 1 ใน 5 ของยุโรป โดยได้สิทธิดูแลครอบคลุม 7 ประเทศ ในอาเซียน คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา และ พม่า ซึ่งประโยชน์ของความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท จะได้ขยายฐานลูกค้ารถเช่าระยะสั้นในกลุ่มของนักเดินทางชาวต่างชาติได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังสามารถให้บริการคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ สามารถจองเช่ารถของซิกท์ ได้ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อไปรับรถเช่ายังประเทศที่จะเดินทางไป โดยเอาท์บาวนต์นี้จะบริการได้ในเดือน เม.ย.55
"ซิกท์ มีสาขาหว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในเอเชียซิกท์ มีให้บริการแล้วที่ จีน สิงคโปร์ เกาหลี ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของไทยและอาเซียนที่เติบโตต่อเนื่องปี 2553 มีจำนวนนักท่องเที่ยวในอาเซียน กว่า 73.6 ล้านคน เป็นชาวอาเซียน 34.8 ล้านคน ที่เหลือมาจากภูมิภาคอื่น 38.8 ล้านคน จำนวนความต้องการใช้รถเช่าก็จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน บริษัทจึงมองเห็นช่องทางขยายธุรกิจ โดยใช้ฐานลูกค้าของซิกท์ ที่มีอยู่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก มาขยายธุรกิจในประเทศไทย และก้าวสู่ตลาดอาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า 650 ล้านคน ที่จะเดินทางท่องเที่ยวและทำธุรกิจกันมากขึ้นในปี 2558 ในส่วนตลาดในประเทศ จากบริการของสายการบินต้นทุนต่ำ ทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวคนไทยปรับเปลี่ยนเป็น เดินทางด้วยเครื่องบินโลว์คอร์สต แล้วไปเช่ารถขับยังปลายทาง ซึ่งจะส่งให้ธุรกิจรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยวเติบโตด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้บริษัท ได้เซ็นสัญญากับ ซิกท์ เยอมนีแล้ว ขณะนี้ได้ทยอยปรับสาขารถเช่าระยะสั้นของ "มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล" ซึ่งมีอยู่ 15 แห่ง เปลี่ยนป้ายมาใช้แบรนด์ "ซิกท์" คาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดตัวอย่างเป้ฯทางการได้ในเดือน พ.ค.ศกนี้ ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเปิดสาขา ซิกท์ ในประเทศไทย อีก 2-3 แห่ง เบื้องต้น เน้น เปิดในสนามบินนานาชาติในประเทศให้ครบทุกแห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาขอเช่าพื้นที่จากการท่าอากาศยาน ล่าสุดเตรียมสร้างชอปที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลาเ ป็นสาขาที่ 16 ของ ซิกท์ในประเทศไทย ภายหลังเปลี่ยนแบรนด์จาก มาสเตอร์ฯแล้ว และกำลังจะเปิดสาขาที่ อุบลราชธานี อีก 1 แห่ง รวมการลงทุนเบื้องต้น สำหรับในประเทศไทย ปีนี้ ทั้งการปรับโฉมร้านเก่า และเปิดสาขาใหม่ จะใช้เงินกว่า 10-15 ล้านบาท
ผลจากการจับมือเป็นพันธมิตร กับซิกท์ เยอรมนี ครั้งนี้ จะผลักดันให้ธุรกิจรถเช่าระยะสั้นของบริษัทเติบโต 20-25% ผลักดันรายได้รวม เติบโต 20% จากปัจจุบัน ลูกค้าในส่วนของรถเช่าระยะสั้น 85% เป็นคนไทย อีก 15% เป็นนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่เมื่อหลังเปลี่ยนเป็นซิกท์ เชื่อว่า สัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มเป็น 50% อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เพียงพอรองรับการเติบโต บริษัท ได้ลงทุนอีกกว่า80 ล้านบาท เพิ่มจำนวนรถกว่า 80 คัน ให้เพียงพอต่อการบริการ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาประเทศไทย ใช้บริการรถเช่า 4-5 ล้านคนเติบโต 12% จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 17 ล้านคน
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เฟสแรกจะลงทุนเปิดสาขา ซิกท์ ใน 3 ประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตด้านการท่องเที่ยว คือ มาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และ ปีนัง , เวียดนาม กรุงโฮจิมินทร์ และ เมืองฮานอย และ อินโดนีเซีย ที่ กรุงจากาตาร์ และ เกาะบาหลี ประเดิมประเทศละ 1-2 สาขา ขึ้นอยู่กับความพร้อม ลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 30 ล้านบาท ขยายครบ 6 ประเทศในอาเซียน ภายใน 2-3 ปี หรือ ปี 2558 ประเดิมสาขาแรก ที่ กรุงโฮจิมินทร์ ประเทศเวียดนาม ในไตรมาส 4 ปีนี้ เพราะเป็นเมืองธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าไปจำนวนมาก ในสาขาต่างประเทศ เบื้องต้นจะมีรถเช่าไว้ให้บริการอย่างน้อยสาขาละ 5-10 คัน
กลยุทธ์การแข่งขันซิกท์จะไม่เน้นราคา แต่ชูจุดขายด้านการบริการ และความคุ้มค่า โดยรถเช่าของซิกท์ จะมีหลายหลายตั้งแต่รถอีโคคาร์ 1500 ซีซี ไปถึงรถระดับหรูหรา บีเอ็มดับเบิ้ลยู หรือแม้แต่ ออสติน ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของลูกค้า ขณะเดียวกันเมื่อเทียบรุ่นต่อรุ่นกับบริษัทคู่แข่งขันในตลาดรถเช่า ซิกท์ จะใช้รถรุ่นท็อปสุดของรถแต่ละรุ่น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งและจุดขายที่สำคัญของ มาสเตอร์ฯที่มีให้บริการมาตั้งแต่ต้น มุ่งเจาะลูกค้า คนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และ กลุ่มไมซ์ และมาเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยเครือข่ายของซิกท์ จากทั่วโลก จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยซิกท์ จะเปิดตัวครั้งแรกที่งาน เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 23-26 ก.พ.นี้ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มต้นที่ 890 บาท ต่อวัน
นายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจรถเช่าในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น(เอเชีย) เปิดเผยว่า ได้เซ็นสัญญาเป็นแฟรนไชน์ซี ระยะ 10 ปี ทำธุรกิจรถเช่าระยะสั้น เพื่อการเดินทางและท่องเที่ยว กับ ซิกท์ (Sixt) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมนี ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์อันดับ 1 ในประเทศเยอรมนีและติด 1 ใน 5 ของยุโรป โดยได้สิทธิดูแลครอบคลุม 7 ประเทศ ในอาเซียน คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา และ พม่า ซึ่งประโยชน์ของความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท จะได้ขยายฐานลูกค้ารถเช่าระยะสั้นในกลุ่มของนักเดินทางชาวต่างชาติได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังสามารถให้บริการคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ สามารถจองเช่ารถของซิกท์ ได้ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อไปรับรถเช่ายังประเทศที่จะเดินทางไป โดยเอาท์บาวนต์นี้จะบริการได้ในเดือน เม.ย.55
"ซิกท์ มีสาขาหว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในเอเชียซิกท์ มีให้บริการแล้วที่ จีน สิงคโปร์ เกาหลี ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของไทยและอาเซียนที่เติบโตต่อเนื่องปี 2553 มีจำนวนนักท่องเที่ยวในอาเซียน กว่า 73.6 ล้านคน เป็นชาวอาเซียน 34.8 ล้านคน ที่เหลือมาจากภูมิภาคอื่น 38.8 ล้านคน จำนวนความต้องการใช้รถเช่าก็จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน บริษัทจึงมองเห็นช่องทางขยายธุรกิจ โดยใช้ฐานลูกค้าของซิกท์ ที่มีอยู่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก มาขยายธุรกิจในประเทศไทย และก้าวสู่ตลาดอาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า 650 ล้านคน ที่จะเดินทางท่องเที่ยวและทำธุรกิจกันมากขึ้นในปี 2558 ในส่วนตลาดในประเทศ จากบริการของสายการบินต้นทุนต่ำ ทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวคนไทยปรับเปลี่ยนเป็น เดินทางด้วยเครื่องบินโลว์คอร์สต แล้วไปเช่ารถขับยังปลายทาง ซึ่งจะส่งให้ธุรกิจรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยวเติบโตด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้บริษัท ได้เซ็นสัญญากับ ซิกท์ เยอมนีแล้ว ขณะนี้ได้ทยอยปรับสาขารถเช่าระยะสั้นของ "มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล" ซึ่งมีอยู่ 15 แห่ง เปลี่ยนป้ายมาใช้แบรนด์ "ซิกท์" คาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดตัวอย่างเป้ฯทางการได้ในเดือน พ.ค.ศกนี้ ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเปิดสาขา ซิกท์ ในประเทศไทย อีก 2-3 แห่ง เบื้องต้น เน้น เปิดในสนามบินนานาชาติในประเทศให้ครบทุกแห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาขอเช่าพื้นที่จากการท่าอากาศยาน ล่าสุดเตรียมสร้างชอปที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลาเ ป็นสาขาที่ 16 ของ ซิกท์ในประเทศไทย ภายหลังเปลี่ยนแบรนด์จาก มาสเตอร์ฯแล้ว และกำลังจะเปิดสาขาที่ อุบลราชธานี อีก 1 แห่ง รวมการลงทุนเบื้องต้น สำหรับในประเทศไทย ปีนี้ ทั้งการปรับโฉมร้านเก่า และเปิดสาขาใหม่ จะใช้เงินกว่า 10-15 ล้านบาท
ผลจากการจับมือเป็นพันธมิตร กับซิกท์ เยอรมนี ครั้งนี้ จะผลักดันให้ธุรกิจรถเช่าระยะสั้นของบริษัทเติบโต 20-25% ผลักดันรายได้รวม เติบโต 20% จากปัจจุบัน ลูกค้าในส่วนของรถเช่าระยะสั้น 85% เป็นคนไทย อีก 15% เป็นนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่เมื่อหลังเปลี่ยนเป็นซิกท์ เชื่อว่า สัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มเป็น 50% อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เพียงพอรองรับการเติบโต บริษัท ได้ลงทุนอีกกว่า80 ล้านบาท เพิ่มจำนวนรถกว่า 80 คัน ให้เพียงพอต่อการบริการ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาประเทศไทย ใช้บริการรถเช่า 4-5 ล้านคนเติบโต 12% จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 17 ล้านคน
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เฟสแรกจะลงทุนเปิดสาขา ซิกท์ ใน 3 ประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตด้านการท่องเที่ยว คือ มาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และ ปีนัง , เวียดนาม กรุงโฮจิมินทร์ และ เมืองฮานอย และ อินโดนีเซีย ที่ กรุงจากาตาร์ และ เกาะบาหลี ประเดิมประเทศละ 1-2 สาขา ขึ้นอยู่กับความพร้อม ลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 30 ล้านบาท ขยายครบ 6 ประเทศในอาเซียน ภายใน 2-3 ปี หรือ ปี 2558 ประเดิมสาขาแรก ที่ กรุงโฮจิมินทร์ ประเทศเวียดนาม ในไตรมาส 4 ปีนี้ เพราะเป็นเมืองธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าไปจำนวนมาก ในสาขาต่างประเทศ เบื้องต้นจะมีรถเช่าไว้ให้บริการอย่างน้อยสาขาละ 5-10 คัน
กลยุทธ์การแข่งขันซิกท์จะไม่เน้นราคา แต่ชูจุดขายด้านการบริการ และความคุ้มค่า โดยรถเช่าของซิกท์ จะมีหลายหลายตั้งแต่รถอีโคคาร์ 1500 ซีซี ไปถึงรถระดับหรูหรา บีเอ็มดับเบิ้ลยู หรือแม้แต่ ออสติน ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของลูกค้า ขณะเดียวกันเมื่อเทียบรุ่นต่อรุ่นกับบริษัทคู่แข่งขันในตลาดรถเช่า ซิกท์ จะใช้รถรุ่นท็อปสุดของรถแต่ละรุ่น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งและจุดขายที่สำคัญของ มาสเตอร์ฯที่มีให้บริการมาตั้งแต่ต้น มุ่งเจาะลูกค้า คนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และ กลุ่มไมซ์ และมาเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยเครือข่ายของซิกท์ จากทั่วโลก จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยซิกท์ จะเปิดตัวครั้งแรกที่งาน เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 23-26 ก.พ.นี้ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มต้นที่ 890 บาท ต่อวัน
