แก๊งมาเฟียคุม “ตลาดพอเพียง” หน้าราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก โคตรโหด ขูดรีดค่าเช่ารายปี-รายวัน จากเดิม 4 พัน ถัดมาเพียงแค่ 3 เดือนพุ่งพรวดเป็นหมื่น แม้พ่อค้าบ้านน้ำท่วมมาขายของไม่ได้ก็ต้องจ่ายค่าเช่าทุกวัน วอนผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ร้องเรียนผ่าน “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการทำมาค้าขาย โดยมีกลุ่มมาเฟียคอยข่มขู่และขูดรีดเงินค่าเช่าล็อก หรือแผงขายสินค้าในตลาดพอเพียง ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก รามคำแหง โดยตลาดดังกล่าว การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้คนนอกเข้าประมูล และมีผู้บริหารเข้ามาจัดสรรพื้นที่แบ่งเป็นล็อก เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจับจองขายสินค้า ทั้งอาหารคาว หวาน เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และสินค้าเบ็ตเตล็ดต่างๆ โดยหากจะได้ล็อคประจำจะต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายปีประมาณ 4,000 บาท จากนั้นจะต้องจ่ายค่าเช่าต่อวันด้วยในวันละ 250-270 ตามแต่ประเภทสินค้า โดยหากพ่อค้าแม่ค้าคนใดต้องการเช่าฝากสิ่งของเมื่อขายเสร็จก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกตามแต่จะระบุจำนวนเงินตามที่ผู้จัดสรรต้องการ และหากจะให้เก็บขยะด้วยก็ต้องจ่ายเพิ่มต่างหากนอกเหนือจากค่าเช่าแผงขายต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้าต้องเดือดร้อนจากกลุ่มผู้จัดสรรแผงค้าให้เช่า เนื่องจากเดิมค่าสมาชิกรายปีจ่ายเพียง 1,000 บาท ค่าเช่าต่อวันอีกต่างหาก ต่อมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผู้จัดสรรแผงได้ขึ้นค่าสมาชิกรายปีเป็น 3,000 บาท ค่าเช่าวันละ 250 บาท ซึ่งเมื่อเห็นว่าพ่อค้าแม่ค้าขายของได้เงินดีก็จะปรับขึ้นค่าสมาชิกรายปีทันทีที่พ่อค้าแม่ค้าต้องไปต่อสัญญาเมื่อหมดเขตระยะเวลากับค่าสมาชิกรายปีอันเดิม
ผู้ร้องเรียนแจ้งด้วยว่า คนที่มาคุมและคอยเก็บค่าเช่ารายวัน ค่าสมาชิกรายปี จะเป็นชายฉกรรจ์รูปร่างดำดูทะมึนน่ากลัวเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าเกรงขาม และล่าสุดได้มีพ่อค้าแม่ค้าถึงกำหนดต้องไปต่อสัญญาจ่ายค่าสมาชิกรายปี จากเดิมที่เคยจ่ายเพียง 4,000 บาทต่อปี แต่พอต่อสัญญาเมื่อเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา กลับต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปีเพิ่มเป็น 10,000 บาท พร้อมกับต้องจ่ายค่าเช่าทุกวันอีกวันละ 270 บาท ซึ่งการที่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปี ก็เพื่อต้องการล็อคขายประจำ จะได้ไม่เป็นขาจรที่มีล็อกวางขายของไม่อยู่กับที่เดิม นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าบางคนประสบภัยน้ำท่วมไม่สามารถมาขายของได้ แต่ทางผู้จัดสรรแผงขายก็ไม่ยินยอมยังคงต้องให้จ่ายค่าเช่าทุกวัน แม้ว่าไม่มาขายของ โดยผู้จัดสรรแผงขายบอกว่า ถ้าไม่มาก็จะให้คนอื่นเช่าขายแทน ซึ่งทำให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำเป็นต้องโอนเงินมาให้เพื่อนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน นำเงินค่าเช่าต่อวัน เพื่อขอต่อระยะเวลาขายของในล็อคที่ขายประจำไว้ แม้ว่าไม่ได้นำของมาวางขายก็ตาม
“ผู้จัดสรรแผงขายบอกว่า บ้านน้ำท่วมก็ให้พายเรือมาจ่าย ไม่เช่นนั้นจะปล่อยแผงให้คนอื่นที่เค้าอยากขายไป และเห็นบอกว่าจะขึ้นค่าเช่ารายปีอีกเป็น 12,000 บาท และค่าเช่ารายวันก็จะปรับขึ้นอีก ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ พ่อค้าแม่ค้าที่ถูกน้ำท่วมมาขายของไม่ได้แต่ต้องเสียค่าเช่าต่อวัน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายกันประจำก็จะอยู่กันไม่ได้ มันโหดร้ายเกินไป ไม่รู้ว่านายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รู้เรื่องนี้หรือไม่ ว่ามันไม่ใช่ตลาดพอเพียงแล้ว มันเป็นตลาดขูดเลือดกับปู บางคนไม่มีเงินค่าเช่าเพราะไม่ได้ขายของ ซึ่งจำเป็นต้องกู้มาจ่าย และถ้าหากู้ที่ไหนไม่ได้ก็จะไปกู้กับผู้จัดสรรล็อก ซึ่งตรงนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 โดยเป็นการเอาเงินแม่ค้ามาปล่อยให้แม่ค้ากู้เสียเอง ซึ่งคนคุมตลาดเดี๋ยวนี้ใส่ทองเส้นเบอเร่อ มีรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูขับ ซึ่งการที่ต้องจ่ายรายปีก็เพื่อจะได้ขายของตั้งแต่บ่าย 3 โมง หากเป็นขาจรจะขายได้ 5 โมงเย็น คิดดูว่าล็อคมี 600-700 ล็อค ผู้คุมตลาดจะได้เงินเท่าไหร่” ผู้ร้องเรียน กล่าว
ผู้ร้องเรียนกล่าวย้ำว่า อยากวิงวอนไปถึงนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้ทราบด้วยว่า ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนมาก เหมือนโดนกลุ่มมาเฟียมาไถเงิน ซึ่งตลาดพอเพียงที่ว่าไม่พอเพียงเหมือนที่พูดแล้ว ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ค่อยได้ จึงขอความกรุณาให้เข้ามาตรวจสอบและดูแลเรื่องนี้ให้ด้วย
วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ร้องเรียนผ่าน “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการทำมาค้าขาย โดยมีกลุ่มมาเฟียคอยข่มขู่และขูดรีดเงินค่าเช่าล็อก หรือแผงขายสินค้าในตลาดพอเพียง ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก รามคำแหง โดยตลาดดังกล่าว การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้คนนอกเข้าประมูล และมีผู้บริหารเข้ามาจัดสรรพื้นที่แบ่งเป็นล็อก เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจับจองขายสินค้า ทั้งอาหารคาว หวาน เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และสินค้าเบ็ตเตล็ดต่างๆ โดยหากจะได้ล็อคประจำจะต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายปีประมาณ 4,000 บาท จากนั้นจะต้องจ่ายค่าเช่าต่อวันด้วยในวันละ 250-270 ตามแต่ประเภทสินค้า โดยหากพ่อค้าแม่ค้าคนใดต้องการเช่าฝากสิ่งของเมื่อขายเสร็จก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกตามแต่จะระบุจำนวนเงินตามที่ผู้จัดสรรต้องการ และหากจะให้เก็บขยะด้วยก็ต้องจ่ายเพิ่มต่างหากนอกเหนือจากค่าเช่าแผงขายต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้าต้องเดือดร้อนจากกลุ่มผู้จัดสรรแผงค้าให้เช่า เนื่องจากเดิมค่าสมาชิกรายปีจ่ายเพียง 1,000 บาท ค่าเช่าต่อวันอีกต่างหาก ต่อมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผู้จัดสรรแผงได้ขึ้นค่าสมาชิกรายปีเป็น 3,000 บาท ค่าเช่าวันละ 250 บาท ซึ่งเมื่อเห็นว่าพ่อค้าแม่ค้าขายของได้เงินดีก็จะปรับขึ้นค่าสมาชิกรายปีทันทีที่พ่อค้าแม่ค้าต้องไปต่อสัญญาเมื่อหมดเขตระยะเวลากับค่าสมาชิกรายปีอันเดิม
ผู้ร้องเรียนแจ้งด้วยว่า คนที่มาคุมและคอยเก็บค่าเช่ารายวัน ค่าสมาชิกรายปี จะเป็นชายฉกรรจ์รูปร่างดำดูทะมึนน่ากลัวเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าเกรงขาม และล่าสุดได้มีพ่อค้าแม่ค้าถึงกำหนดต้องไปต่อสัญญาจ่ายค่าสมาชิกรายปี จากเดิมที่เคยจ่ายเพียง 4,000 บาทต่อปี แต่พอต่อสัญญาเมื่อเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา กลับต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปีเพิ่มเป็น 10,000 บาท พร้อมกับต้องจ่ายค่าเช่าทุกวันอีกวันละ 270 บาท ซึ่งการที่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปี ก็เพื่อต้องการล็อคขายประจำ จะได้ไม่เป็นขาจรที่มีล็อกวางขายของไม่อยู่กับที่เดิม นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าบางคนประสบภัยน้ำท่วมไม่สามารถมาขายของได้ แต่ทางผู้จัดสรรแผงขายก็ไม่ยินยอมยังคงต้องให้จ่ายค่าเช่าทุกวัน แม้ว่าไม่มาขายของ โดยผู้จัดสรรแผงขายบอกว่า ถ้าไม่มาก็จะให้คนอื่นเช่าขายแทน ซึ่งทำให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำเป็นต้องโอนเงินมาให้เพื่อนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน นำเงินค่าเช่าต่อวัน เพื่อขอต่อระยะเวลาขายของในล็อคที่ขายประจำไว้ แม้ว่าไม่ได้นำของมาวางขายก็ตาม
“ผู้จัดสรรแผงขายบอกว่า บ้านน้ำท่วมก็ให้พายเรือมาจ่าย ไม่เช่นนั้นจะปล่อยแผงให้คนอื่นที่เค้าอยากขายไป และเห็นบอกว่าจะขึ้นค่าเช่ารายปีอีกเป็น 12,000 บาท และค่าเช่ารายวันก็จะปรับขึ้นอีก ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ พ่อค้าแม่ค้าที่ถูกน้ำท่วมมาขายของไม่ได้แต่ต้องเสียค่าเช่าต่อวัน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายกันประจำก็จะอยู่กันไม่ได้ มันโหดร้ายเกินไป ไม่รู้ว่านายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รู้เรื่องนี้หรือไม่ ว่ามันไม่ใช่ตลาดพอเพียงแล้ว มันเป็นตลาดขูดเลือดกับปู บางคนไม่มีเงินค่าเช่าเพราะไม่ได้ขายของ ซึ่งจำเป็นต้องกู้มาจ่าย และถ้าหากู้ที่ไหนไม่ได้ก็จะไปกู้กับผู้จัดสรรล็อก ซึ่งตรงนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 โดยเป็นการเอาเงินแม่ค้ามาปล่อยให้แม่ค้ากู้เสียเอง ซึ่งคนคุมตลาดเดี๋ยวนี้ใส่ทองเส้นเบอเร่อ มีรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูขับ ซึ่งการที่ต้องจ่ายรายปีก็เพื่อจะได้ขายของตั้งแต่บ่าย 3 โมง หากเป็นขาจรจะขายได้ 5 โมงเย็น คิดดูว่าล็อคมี 600-700 ล็อค ผู้คุมตลาดจะได้เงินเท่าไหร่” ผู้ร้องเรียน กล่าว
ผู้ร้องเรียนกล่าวย้ำว่า อยากวิงวอนไปถึงนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้ทราบด้วยว่า ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนมาก เหมือนโดนกลุ่มมาเฟียมาไถเงิน ซึ่งตลาดพอเพียงที่ว่าไม่พอเพียงเหมือนที่พูดแล้ว ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ค่อยได้ จึงขอความกรุณาให้เข้ามาตรวจสอบและดูแลเรื่องนี้ให้ด้วย