xs
xsm
sm
md
lg

CIMBTย้ำเป้าสินเชื่อโต20-30% เล็งออกบี/อีตุนเงินก่อนใช้เกณฑ์ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ในปี 2555 ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในด้านต่างๆไว้ดังนี้ อัตราการเติบโตสินเชื่อที่ระดับ 20-30% จากปี 54 ที่อยู่ในระดับ 27.1% เงินฝากเติบโต 20-32% จากปีก่อนที่เติบโต 20.7% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 35-40% จากปีก่อน 7.6% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต 50-70% จากปีก่อน 43.2% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 3.5-3.8% จากปีก่อน 3.4% อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 10-13% จากปีก่อน 11.1% และลดระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ลงเหลือ 3% จากปีก่อนที่ 3.4%
"เป้าหมายทุกตัวอาจจะดูสูง แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานของเรายังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ปีนี้ธุรกิจหลายๆด้านน่าจะฟื้นตัวได้ ทำให้เรามีโอกาสเข้าไปทำธุรกิจได้มากขึ้น อย่างปีนี้หลายๆธุรกิจอาจจะมีการระดมทุนเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะทำรายได้จากวาณิชธนกิจก็มากขึ้น เป็นต้น ส่วนเรื่องเอ็นพีแอลที่้เพิ่มขึ้นในปีก่อน เนื่องจากมีลูกค้า 2-3 รายมีปัญหา แต่คาดว่าจะน่าดูแลแก้ไขได้ในไตรมาสแรกนี้ ตัวเลขเอ็นพีแอลจึงจะน่าเข้าสู่ภาวะปกติได้ แต่ภาพรวมธุรกิจก็ยังคงเน้นสินเชื่อรายได้รายเบี้ยค่อนข้างสูง ทั้งสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อราย่อยแบบไม่มีหลักประกัน"
นอกจากนี้ ภายหลังจากการพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์หลักของธนาคาร Core Banking หรือที่ธนาคารเรียกว่าโครงการ 1Platfrom เสร็จสิ้น โดยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จะเป็นประเทศแรกในกลุ่มธนาคารสมาชิกของซีไอเอ็มบี กรุ๊ป ที่จะนำระบบนี้ขึ้นใช้งานประมาณไตรมาสแรกของปี 2555 นี้ จะทำให้ธนาคารมีศักยภาพและสมรรถนะที่แข็งแกร่งในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมกับการให้บริการทางการเงินแบบข้ามพรมแดนจากการผสานประโยชน์ร่วมกับบริษัทแม่คือกลุ่มซีไอเอ็มบี ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้จุดมุ่งหมายในการที่จะบรรลุถึงเป้าหมายใหญ่ในภาพรวมร่วมกัน คือ การเป็นกลุ่มธนาคารเครือข่ายชั้นนำของอาเซียน (The Leading ASEAN Franchise) ภายในปี 2558 ภายใต้แนวคิด ASEAN FOR YOU
นายสุธีร์ โล้วโสภณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายบริหารเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า ธนาคารมีแผนการบริหารเงินโดยมีแผนออกตั๋วแลกเงินที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Bill of Exchange) ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ในขั้นแรกคาดว่าจะวงเงินประมาณ 9 พันล้านบาท แต่จะมีระยะเวลาที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่ระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงปี จนถึง 3 ปี หรือ 5 ปี จะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก จากปัจจุบันบริษัทมีตั๋ว B/E 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท และเงินปฝากราว 1 แสนล้านบาทคิดเป็น 25% ของสัดส่วนเงินฝาก
"ตอนนี้หลักเกณฑ์ทีเกี่ยวกับบีอีที่เพิ่มเติมออกมา ยังไม่เริ่มกำหนดใช้ เราก็ยังจะออกไปตามปกติก่อน แต่ในเรื่องของผลตอบแทนก็ต้องปรับให้สมดุลกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น"
กำลังโหลดความคิดเห็น