xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาล-ฝ่ายค้านเปิดฉากวิวาทะ โฟร์ซีซันพื้นที่รับน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ศิริโชค"วิวาทะ"หมวดเจี๊ยบ" เรื่องใช้โฟร์ซีซั่น เป็นพื้นที่รับน้ำ ติงอย่าเอาความเป็นผู้หญิงมาปกป้อง "ยิ่งลักษณ์" กรณี ว.5 ชี้ยิ่งออกมาโวยแต่เรื่องใต้สะดือ ทำนายหญิงยิ่งเละ แนะ"ปู"รีบออกมาแจงก่อนบานปลาย "เสรี" ซัด "ปู ว.5" อย่าอ้างเป็นหญิงให้คนสงสาร ชี้จริยธรรมไม่มีเพศ "ชัชวาลย์" แฉนักธุรกิจที่ติดตามใกล้ชิดนายกฯล้วนตระกูลดัง ที่ทำธุรกิจที่ดิน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กระทู้ถามสดเรื่องที่นายกรัฐมนตรีไปธุระส่วนตัว ในเวลาราชการ ขณะที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ถามนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ทราบว่าจะถามได้อีกหรือไม่ เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎร ปิดประชุมไปก่อน แต่ตนยังมองไม่เห็นว่า กระทู้ตกไป ตามข้อบังคับข้อไหนและความจริง ได้มีการถามไปแล้ว และกำลังรอคำตอบจากนายกรัฐมนตรี แต่ตนไม่คิดว่ามีข้อบังคับไหนที่ประธาน สามารถทำให้กระทู้ตกได้

ด้านนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้ ร.ท.สุนิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมากล่าวหาว่า พวกตนจัดรายการสายล่อฟ้าทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย แชแนล พูดดูหมิ่นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณี ว.5โฟร์ซีซัน ว่า เรื่องนี้ควรจะจบง่ายๆ ด้วยการชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาของนายกฯ แต่กลับลุกลามจนเป็นเหตุให้สภาล่ม ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่า มีอะไรลึกลับซับซ้อน หรือมีเรื่องไม่ดีไม่งาม จนถึงขนาด ส.ส.เพื่อไทย และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ต้องออกโรงปกป้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงกับทำลายระบบตรวจสอบของสภา โดยพยายามปิดปาก ไม่ให้น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ถามกระทู้สด หรือมีอะไรที่ชั้น 7 โฟร์ซีซัน พรรคเพื่อไทย ถึงต้องออกอาการดิ้นพล่านเช่นนั้น

ทั้งนี้ เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หนีสภาฯไปปฏิบัติภารกิจ ว.5 ที่โฟร์ซีซัน และคนในรัฐบาล ก็ออกมาชี้แจงด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกัน คำถามจึงมีเพียงแค่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีประชุมสภาไปทำอะไร ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ในเมื่อนายกฯ ก็บอกว่า เป็นผู้หญิงไม่ทำอะไรเสียหาย ก็ควรจะตอบมา ว่าไปทำอะไรมา มีอะไรที่สำคัญกว่าการประชุมสภาฯ คนระดับผู้นำประเทศต้องให้ความกระจ่างกับสังคม อย่าใช้ความเป็นผู้หญิงมาหนีการตรวจสอบ เพราะถือว่าท่านกำลังเอาเปรียบสังคมไทย

**วิวาทะโฟร์ซีซัน พื้นที่รับน้ำ

"ผมไม่อยากตอบโต้ ร.ท.สุนิสา แต่ถ้าไม่พูดให้เกิดความชัดเจน จะมีสื่อบางฉบับไปขยายผลให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้ จึงขอถามร.ท.สุนิสาว่า อะไรทำให้คุณคิดว่า ความหมายของคำว่าโฟร์ซีซัน คือ พื้นที่รับน้ำ เป็นความหมายที่เสียหาย คิดว่านายหญิงของคุณไปทำอะไร ถึงคิดว่าเสียหาย และเสื่อมเสียศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง ควรตอบมาให้ชัด คนไทยจะได้รู้ความจริงว่า ไม่มีใครดูถูกน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่คนในพรรคเพื่อไทย ต่างหากที่กำลังดูถูกนายกฯ เพราะแต่ละคนที่ออกมาปกป้อง เน้นแต่เรื่องใต้สะดือทั้งนั้น ตั้งแต่โรงแรมม่านรูด ไม่ทำอะไรเสียหายเรื่องชู้สาว จนมาถึงเรื่องพื้นที่รับน้ำ ผมถามหน่อยว่า วันนี้มีพื้นที่ไหนบ้างที่มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่ถูกทำเป็นพื้นที่รับน้ำ หรือ ฟลัดเวย์ และหลายพื้นที่ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่รับน้ำ ทำไมไม่มีคนคิดในทางอกุศลว่า เป็นเรื่องผิดทำนองคลองธรรม ทำไม ร.ท.สุนิสา จำเพาะเจาะจงจะมาคิดว่าเมื่อพูดถึงโรงแรมโฟร์ซีซัน เป็นพื้นที่รับน้ำ จะทำให้นายกฯ เสื่อมเสีย หรือเป็นเพราะพวกท่านเองคิดว่านายกฯไปทำเสียหายไว้ที่นั่น เลยร้อนตัวออกมาปกป้อง" นายศิริโชคกล่าว

นายศิริโชค กล่าวว่า ในรายการสายล่อฟ้า ไม่ได้พูดเรื่องพื้นที่รับน้ำ กับโรงแรมโฟร์ซีซันขึ้นมาลอยๆ แต่มีการตั้งประเด็นให้น.ส.ยิ่งลักษ์ ตอบ เช่น มีการไปพบกับนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหาร บ.อสังหาริมทรัพย์ แสนสิริ จริงหรือไม่ และมีการหารือว่า พื้นที่ไหนในกรุงเทพฯ ควรใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำ จริงหรือไม่ ซึ่งการที่ตนเอ่ยเรื่องโรงแรมโฟร์ซีซั่น กลายเป็นพื้นที่รับน้ำ ย่อมส่อเจตนาที่พวกตนพยายามชี้ให้เห็นว่า อาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับพื้นที่รับน้ำ ที่มีการหารือกันในโรงแรมโฟร์ซีซัน เข้ามาเกี่ยวข้อง

“"ไม่มีใครดูถูกผู้หญิงได้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ทำในสิ่งที่น่าดูถูก ผมขอถาม ร.ท สุนิสา ว่านายกฯไปทำอะไรที่น่าดูถูกที่โฟร์ซีซัน หรือ จึงกลัวว่าคนเขาจะดูถูก สิ่งที่พวกผมพูดในรายการสายล่อฟ้า ไม่มีอะไรที่เป็นการตอบสนองราคะในใจ อย่างที่ ร.ท. สุนิสา กล่าวหา เพราะพวกผมมีหิริ โอตัปปะ มีความละอายใจต่อบาป และไม่มีทางที่จะขาดความยับยั้งชั่งใจ จนปล่อยให้ราคะมามีอิทธิพลเหนือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จนทำผิดศีลธรรม ผิดผัวผิดเมียคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่พวกผมไม่มีทางทำคือหนีประชุมสภาฯ ไปว.5 ที่โรงแรม และชี้แจงต่อสังคมไม่ได้" นายศิริโชค กล่าว

** "เจี๊ยบ"ล้มเหลว เปลี่ยนนามสกุลบ่อย

ส่วนที่ ร.ท.สุนิสา ให้พวกตนไปรับการบำบัด ตามพ.ร.บ คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรง เพราะมีทัศนคติที่เป็นลบต่อสตรีนั้น ตนเห็นใจร.ท สุนิสา เพราะเป็นคนน่าสงสาร ล้มเหลวในชีวิตครอบครัว และชีวิตการทำงานมาตลอด ตอนอยู่สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ก็ถูกให้ออก เพราะขาดงาน พอมาเล่นการเมืองก็ล้มเหลวเพราะสอบตก ตอนนี้อยากดัง เลยออกมาเรียกร้องความเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าร.ท. สุนิสา คงต้องไปพิจารณาตัวเองดีกว่า ว่ามีทัศนคติที่เป็นลบต่อผู้ชาย และควรไปรับการบำบัดมากกว่าพวกตน ดูได้จากการที่ต้องเปลี่ยนนามสกุลถึง 3 ครั้ง และพฤติกรรมที่ผ่านมาตอนอยู่ช่อง 5 ก็เป็นที่รู้ของคนโดยทั่วไปว่าเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ขอเตือน ร.ท.สุนิสา และคนในพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าหวังดีกับนายกฯจริง ควรให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาตอบกระทู้สดในสภาฯ ชี้แจงให้ชัดว่ามีอะไรสำคัญกว่าระหว่างการประชุมสภาฯ กับการไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น เพราะร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกเองว่า นายกฯไปประชุมชั้น 7 ร่วมกับนักธุรกิจ 7-8 คน ก็ต้องพูดออกมาว่าไปเจอใคร ยิ่งนายนพดล ปัทมะ บอกว่า เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องปิดบัง แต่วันนี้ที่เปิดเผยไม่ได้ เป็นพราะมีลับลมคมใน อะไรหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่สังคมยิ่งตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ และตนบอกได้เลยว่า ยิ่งไม่ชัดเจน ยิ่งไม่เป็นผลดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์

นอกจากนี้ อยากให้นายกฯ เคารพกลไกการตรวจสอบของสภาฯ อย่าเป็นนักประชาธิปไตยแต่ปาก ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา ก็ต้องปกป้องสภา ทำงานให้สมกับการเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ อย่าลืมว่าเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของบริษัทชินวัตร และฝากถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่สนใจรายการสายล่อฟ้า ถึงขนาดจะขอเทปไปศึกษา ถือเป็นการทำหน้าที่ช่วงเดียวกับอาการดิ้นพล่าน ของคนในรัฐบาลพอดิบพอดี จะคุกคามข่มขู่ ใช้หลักจิตวิทยาอย่างไรก็ทำไป พวกตนไม่หวั่นไหว แต่อยากจะบอกกับสังคมไทยให้รับทราบว่า อำนาจเมื่ออยู่ในมือโจร คนดีจะถูกระรานเสมอ นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราต้องเลือกคนดีมาบริหารประเทศ ไม่อย่างนั้น คนไทยก็จะเป็นผู้รับกรรมจากการมีรัฐบาลที่ไร้คุณธรรม

** "ยิ่งลักษณ์"จริยธรรมบกพร่อง

รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร และนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ ร่วมรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

ดร.เสรี กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ พบนักธุรกิจ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นว่า ถ้าทำอะไรก็ตามที่ไม่ใช่ในเวลาราชการ เรียกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวได้ โดยเฉพาะช่วงนั้นมีการประชุมสภา นายกฯต้องไม่ลืมว่าคนในโฟร์ซีซั่น ไม่ได้รักนายกฯทุกคน คนเหล่านั้นกระซิบนักข่าวหรือไม่ก็โพสต์โซเชียลมีเดีย

แล้วอย่ามาอ้างความเป็นผู้หญิงให้คนสงสาร เพราะจริยธรรมไม่มีเพศ อีกทั้งเห็นได้ชัดว่า การตอบคำถามไม่ชัดเจน นายกฯบอกไปเรื่องส่วนตัว ร.ต.อ.เฉลิม บอกไปประชุม โฆษกฯรัฐบาล บอกนายเอกยุทธ์ อัญชันบุตร จัดฉาก พูดกันคนละเรื่องเลย ความน่าเชื่อถือละลายทันที และข้อผิดพลาดอีกอย่างก็คือ นายกฯ กำลังหลีกหนีการตอบ ตามทฤษฎีมันหมายถึงว่า กำลังปิดบังอะไรบางอย่าง แล้วเวลานี้เรียกได้ว่า เกิดวิกฤตจริยธรรมขึ้นกับนายกฯแล้ว ซึ่งเวลาที่เกิดวิกฤต ต้องไม่ทำให้สาธารณชนอยากรู้อยากเห็น เพราะเมื่อความจริงไม่ชัดเจน ข่าวลือจะเข้ามาแทนที่ แล้วเดี๋ยวนี้คนไทยไม่ได้ลืมเร็ว เพราะแม้สื่อหลักไม่เล่น แต่โซเชียลมีเดีย เล่นไม่เลิก

ดร.เสรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กลุ่มคนที่พยายามประคองประชาธิปัตย์ เพราะไม่อยากให้คนชั่วครองเมือง แล้วได้อะไรบ้าง ไม่ได้แม้แต่คำขอบคุณ เพราะประชาธิปัตย์ขอบคุณคนไม่เป็น แล้วพอเพื่อไทยกลับมาได้อำนาจ ก็โดนกำจัดเกลี้ยง แต่ขณะคนที่อยู่ข้างเดียวกับเพื่อไทย กลับได้เป็นรัฐมนตรี มีเงินทองมากมาย บางคนก็โถมเข้าไปร่วมด้วย หรือบางคนก็ไม่กล้าแตะต้อง ตีนลอย ไร้จุดยืน ทั้งนักวิชาการ คอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุ ผู้หลักผู้ใหญ่ เงียบกันไปหมด

เห็นได้ชัดว่า ช่วยทักษิณแล้วได้อะไร อยู่ตรงข้ามเสียอะไร บ้านเมืองเราเหมือนเรายอมจำนน วันนี้ตนก็เขียนบทความผ่านสื่อ ว่าตนก็ยอมจำนนด้วยคน ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว อย่างการแก้รัฐธรรมนูญ การตั้ง ส.ส.ร. จะเป็นพวกเขากี่คน อย่างไรก็ชนะ

**แฉสายสัมพันธ์ตระกูลธุรกิจ

ด้านนายชัชวาลย์ กล่าวว่า ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นนักธุรกิจ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ว่า แต่ตรงนี้มีประมวลกฎหมายจริยธรรม แม้ไปพูดเรื่องธุรกิจ ก็ไม่ได้ หรือพูดคุยเพื่อออกกฎหมาย เอื้อผลประโยชน์คนบางคนก็ไม่ได้ แถมประธานสภาฯ ยังบอกว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ตอนนี้สภากับฝ่ายบริหาร มันปนกัน พรรคการเมืองเป็นของกลุ่มทุนผูกขาด คุมทั้งสภา คุมทั้งรัฐบาล สภาพสภาฯ บอกชัดเจนเลยว่า ไม่ใช่ตรวจสอบ แต่เป็นการปกป้องนายกฯ วันนี้สังคมบ้านเรากำลังทำให้ดำ กลายเป็นขาว

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า นักธุรกิจคนที่เดินตามหลังนายกฯ เกี่ยวข้องกับหลายตระกูลใหญ่ ทั้ง ล่ำซำ จิวตระกูล หวั่งหลี จักกะพาก จารุทวี รวมทั้ง ทวีสิน พวกนี้มีแลนด์แบงก์เต็มเลย มีคำถามคือ นอกจาก เอสซี แอสเสท ของชินวัตร ไม่โดนน้ำท่วม ที่ดินของคนในตระกูลพวกนี้ ก็ไม่โดน เพราะสนิทกัน แล้วนักธุรกิจที่นายกฯไปพบ ชัดเจนว่ารัก พ.ต.ท.ทักษิณ มากขนาดไหน คนในสปอร์ตคลับรู้ดี มีการเอาเสื้อแดงพิมพ์หน้าทักษิณไปแจกทีมฟุตบอลที่คุม

เรื่องนี้จะอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วปล่อยไปไม่ได้ เพราะการเป็นนายกฯ ไม่ใช่เป็นนายกฯ ส่วนตัวของใคร

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า มีคนมีอำนาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ทำ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเงิน มีหลายอย่างที่คนต้องพึ่ง แล้วเขาเป็นตำรวจ ที่มักจับคนเป็นเชลยไว้ เช่น มีผู้ใหญ่บางคน ฝากผู้หญิงคนหนึ่งให้เป็นรัฐมนตรี ทักษิณ ก็จับเอาไว้เป็นเชลย ถ้าพูดมากก็จะแฉ ทักษิณรู้ดีว่า ควรใช้อะไรกับใคร ทหารบางคนส่งลูกไปเรียนนอก มีบ้านให้อยู่ หรือแม้แต่นักวิชาการล้มเจ้าบางคน ก็รับเงิน ตนเคยคุยกับทักษิณเองเลยที่โรงแรมเอเชีย เขาบอกว่า เงินจ้างผีโม่แป้งได้ แล้วมันก็ซื้อได้จริงๆ แม้แต่คนที่อยู่ใกล้ชิดในหลวง ยังสามารถซื้อได้
กำลังโหลดความคิดเห็น