ASTVผู้จัดการรายวัน - หวั่นผลกระทบจากเหตุระเบิด 14 ก.พ. กระทบการประชุมสมาชิกโรตารี่สากล พ.ค. นี้ จี้รัฐบาลและนายก”ปู” เร่งสร้างความมั่นใจต่างชาติ ในภาพรวมทั้งประเทศ ผู้ประกอบการวงการท่องเที่ยวยัน ช่วงนี้นักท่องเที่ยวยังปรกติ แต่ อาจเห็นผลสัปดาห์หน้า จะมากหรือน้อยขึ้นกับรัฐบาล
นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า กล่าวว่า จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่สุขุมวิท 71 เมื่อวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านนมา มีความกังวลว่า จะกระทบต่อความเชื่อมั่นระยะสั้น และมีผลกระทบต่อการเดินทางมาร่วมงานประชุมสมาชิกโรตารีสากล ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย เดือนพฤษภาคมนี้ จากขณะนี้ที่มีผู้ยืนยันเข้าร่วมงานเกือบ 3 หมื่นคนแล้ว คาดว่ากว่าจะถึงวันจัดงานจะมีผู้ยืนยันร่วมงานกว่า 3.6 หมื่นคน เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ก่อนหน้านี่จะเกิดระเบิดขึ้น
ยอมรับว่าจากเหตุระเบิดครั้งนี้ จะมีผลด้านจิตวิทยา ต่อนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ แต่จะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการแสดงท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และ การวางมาตรการป้องกันภัย ซึ่งในส่วนของสมาคม ก็ชี้แจงต่อสมาชิกและลูกค้า ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนำแถลงการณ์ของรัฐบาล เป็นหลักในการชี้แจง
“ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบ ลูกค้า นักท่องเที่ยวยังเดินทางปรกติ ต้องรอ 2-3 วันนับจากนี้ หลังจากที่หลายประเทศเริ่มกลับมาประกาศเตือนนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งการที่ อเมริกา ประกาศเตือนนักท่องเที่ยว จะมีผลมากกว่าที่ประเทศอื่นๆ ประกาศเตือน เพราะจะทำให้ ประเทศอื่นพิจารณาประกาศตามมาด้วยก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุด ต้องการให้นายกรัฐมนตรีออกมาแสดงจุดยืนของรัฐบาล เพื่อสร้างให้เกิดความมั่นใจ เพราะ นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ และ นักบริหารระดับสูง กว่า 60% เดินทางมายังกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวง หากไม่ปลอดภัย จะให้เชื่อมั่นในเดสติเนชั่นอื่นได้อย่างไร”
ทางด้านนายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า ได้ นำแถลงการณ์ของรัฐบาลที่แจ้งความคืบหน้าล่าสุด ต่อตัวแทน และ กรุ๊ปประชุมสัมนาที่สอบถามเข้ามาว่า การระเบิดครั้งนี้ ไม่ใช่ก่อการร้าย และยังเกิดในพื้นที่ที่ไม่ใช่ย่านธุรกิจหรือย่านท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยประสานการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กระทรวงการต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น คาดว่าผลระยะสั้นในสัปดาห์นี้อาจจะกระทบให้กรุ๊ปประชุมสัมมนา กลุ่มเล็ก ที่เพิ่งจะตัดสินใจ หรือกำลังตัดสินใจ อาจเปลี่ยนแผนไปประเทศอื่น แต่ได้แต่หวังว่าคงไม่กระทบยาวถึงการจัดงานประชุมโรตารี่สากล แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานที่รัฐบาลต้องทำงานเร็ว ชัดเจน ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามไปมากกว่านี้
**ดิเอราวัณ กรุ๊ป ยันระบบปลอดภัยเข้ม
ทางด้านนางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน อัตราเข้าพักของโรงแรม ในกลุ่มทั้งหมดของ เรายังคงเป็นปรกติ ยังไม่มีการยกเลิกจากแขกที่จองไว้ โดยตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมาถึงขณะนี้ อัตราเข้าพักเติบโตต่อเนื่อง เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น ในส่วนของโรงแรม
มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มแข็ง ซึ่งช่วง เดือน มกราคมซึ่งมีข่าวว่าจะมีแผนเตรียมก่อการร้ายในประเทศไทย ทางโรงแรม ก็นำแผนปฎิบัติการป้องกันมาใช้ดูแลลูกค้าและตัวโรงแรม เช่นกัน
****สหรัฐประกาศระดับ3
นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าในส่วนของ ททท. สั่งการให้ สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ติดตาม ตลาดในความดูแลของตัวเองออย่างใกล้ชิด พร้อม ติดตามการแจ้งข่าวจากประเทศไทยและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำไปชี้แจงบอกกล่าว ชาวต่างชาติ เบื้องต้น ยอมรับเหตุการณนี้มีผลกระทบต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยว และ ยังไม่มีการยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด
ล่าสุดมีประเทศที่ออกประกาศเตือนการเดินทางมาไทย 13 ประเทศ โดยเป็นการเตือนระดับ 1 คือให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร 2 ประเทศ ได้แก่ สวีเดน และญี่ปุ่น เตือนระดับ 2 คือให้ระมัดระวังการเดินทางมา 9 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์, แคนาดา, อังกฤษ, นิวซีแลนด์, บราซิล, ฮ่องกง และเกาหลี ที่เหลือเตือนระดับ 3 คือระมัดระวังการเดินทางมากขึ้น 2 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย
และสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเตือนระดับนี้ถือว่าเป็นระดับเบื้องต้น ไม่น่าห่วงอะไร เป็นการออกประกาศคำเตือนตามปกติ ต่างจากในช่วงที่ไทยมีปัญหาขัดแย้งทางการเมือง ที่เคยเตือนระดับ 4-5
****ทัวร์ต้องปรับตัว ดูแลลูกค้าเข้มขึ้น
ด้านนายสุรพล ศรีตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท เต็มแพ็ค ทัวร์ จำกัด ผู้ประกอบการทัวร์ญี่ปุ่นเป็นหลัก เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีบริษัททัวร์สอบถามเข้ามาทั้งกรุ๊ปญี่ปุ่นและยุโรป เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดในไทย แต่ไม่ได้ตกใจมาก เป็นเพียงการสอบถามเฉยๆ เพราะเหตุการณ์แบบนี้มีเกิดขึ้นอยู่หลายเมืองทั่วโลก ซึ่ง บริษัททัวร์ของไทย ต้อง มีการปรับตัว เพิ่มความระมัดระวัง ในการพาลูกทัวร์ไปเที่ยวยังที่ต่างๆ มากขึ้น ขณะที่รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี จะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเดือนมี.ค.หากจะไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ มียอดจองทัวร์ของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.-ก.พ. 4-5% ส่วนทัวร์ยุโรป ผลจากปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ ตลาดไม่ค่อยดีอยู่แล้ว
นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า กล่าวว่า จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่สุขุมวิท 71 เมื่อวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านนมา มีความกังวลว่า จะกระทบต่อความเชื่อมั่นระยะสั้น และมีผลกระทบต่อการเดินทางมาร่วมงานประชุมสมาชิกโรตารีสากล ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย เดือนพฤษภาคมนี้ จากขณะนี้ที่มีผู้ยืนยันเข้าร่วมงานเกือบ 3 หมื่นคนแล้ว คาดว่ากว่าจะถึงวันจัดงานจะมีผู้ยืนยันร่วมงานกว่า 3.6 หมื่นคน เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ก่อนหน้านี่จะเกิดระเบิดขึ้น
ยอมรับว่าจากเหตุระเบิดครั้งนี้ จะมีผลด้านจิตวิทยา ต่อนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ แต่จะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการแสดงท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และ การวางมาตรการป้องกันภัย ซึ่งในส่วนของสมาคม ก็ชี้แจงต่อสมาชิกและลูกค้า ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนำแถลงการณ์ของรัฐบาล เป็นหลักในการชี้แจง
“ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบ ลูกค้า นักท่องเที่ยวยังเดินทางปรกติ ต้องรอ 2-3 วันนับจากนี้ หลังจากที่หลายประเทศเริ่มกลับมาประกาศเตือนนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งการที่ อเมริกา ประกาศเตือนนักท่องเที่ยว จะมีผลมากกว่าที่ประเทศอื่นๆ ประกาศเตือน เพราะจะทำให้ ประเทศอื่นพิจารณาประกาศตามมาด้วยก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุด ต้องการให้นายกรัฐมนตรีออกมาแสดงจุดยืนของรัฐบาล เพื่อสร้างให้เกิดความมั่นใจ เพราะ นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ และ นักบริหารระดับสูง กว่า 60% เดินทางมายังกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวง หากไม่ปลอดภัย จะให้เชื่อมั่นในเดสติเนชั่นอื่นได้อย่างไร”
ทางด้านนายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า ได้ นำแถลงการณ์ของรัฐบาลที่แจ้งความคืบหน้าล่าสุด ต่อตัวแทน และ กรุ๊ปประชุมสัมนาที่สอบถามเข้ามาว่า การระเบิดครั้งนี้ ไม่ใช่ก่อการร้าย และยังเกิดในพื้นที่ที่ไม่ใช่ย่านธุรกิจหรือย่านท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยประสานการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กระทรวงการต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น คาดว่าผลระยะสั้นในสัปดาห์นี้อาจจะกระทบให้กรุ๊ปประชุมสัมมนา กลุ่มเล็ก ที่เพิ่งจะตัดสินใจ หรือกำลังตัดสินใจ อาจเปลี่ยนแผนไปประเทศอื่น แต่ได้แต่หวังว่าคงไม่กระทบยาวถึงการจัดงานประชุมโรตารี่สากล แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานที่รัฐบาลต้องทำงานเร็ว ชัดเจน ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามไปมากกว่านี้
**ดิเอราวัณ กรุ๊ป ยันระบบปลอดภัยเข้ม
ทางด้านนางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน อัตราเข้าพักของโรงแรม ในกลุ่มทั้งหมดของ เรายังคงเป็นปรกติ ยังไม่มีการยกเลิกจากแขกที่จองไว้ โดยตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมาถึงขณะนี้ อัตราเข้าพักเติบโตต่อเนื่อง เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น ในส่วนของโรงแรม
มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มแข็ง ซึ่งช่วง เดือน มกราคมซึ่งมีข่าวว่าจะมีแผนเตรียมก่อการร้ายในประเทศไทย ทางโรงแรม ก็นำแผนปฎิบัติการป้องกันมาใช้ดูแลลูกค้าและตัวโรงแรม เช่นกัน
****สหรัฐประกาศระดับ3
นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าในส่วนของ ททท. สั่งการให้ สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ติดตาม ตลาดในความดูแลของตัวเองออย่างใกล้ชิด พร้อม ติดตามการแจ้งข่าวจากประเทศไทยและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำไปชี้แจงบอกกล่าว ชาวต่างชาติ เบื้องต้น ยอมรับเหตุการณนี้มีผลกระทบต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยว และ ยังไม่มีการยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด
ล่าสุดมีประเทศที่ออกประกาศเตือนการเดินทางมาไทย 13 ประเทศ โดยเป็นการเตือนระดับ 1 คือให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร 2 ประเทศ ได้แก่ สวีเดน และญี่ปุ่น เตือนระดับ 2 คือให้ระมัดระวังการเดินทางมา 9 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์, แคนาดา, อังกฤษ, นิวซีแลนด์, บราซิล, ฮ่องกง และเกาหลี ที่เหลือเตือนระดับ 3 คือระมัดระวังการเดินทางมากขึ้น 2 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย
และสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเตือนระดับนี้ถือว่าเป็นระดับเบื้องต้น ไม่น่าห่วงอะไร เป็นการออกประกาศคำเตือนตามปกติ ต่างจากในช่วงที่ไทยมีปัญหาขัดแย้งทางการเมือง ที่เคยเตือนระดับ 4-5
****ทัวร์ต้องปรับตัว ดูแลลูกค้าเข้มขึ้น
ด้านนายสุรพล ศรีตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท เต็มแพ็ค ทัวร์ จำกัด ผู้ประกอบการทัวร์ญี่ปุ่นเป็นหลัก เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีบริษัททัวร์สอบถามเข้ามาทั้งกรุ๊ปญี่ปุ่นและยุโรป เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดในไทย แต่ไม่ได้ตกใจมาก เป็นเพียงการสอบถามเฉยๆ เพราะเหตุการณ์แบบนี้มีเกิดขึ้นอยู่หลายเมืองทั่วโลก ซึ่ง บริษัททัวร์ของไทย ต้อง มีการปรับตัว เพิ่มความระมัดระวัง ในการพาลูกทัวร์ไปเที่ยวยังที่ต่างๆ มากขึ้น ขณะที่รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี จะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเดือนมี.ค.หากจะไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ มียอดจองทัวร์ของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.-ก.พ. 4-5% ส่วนทัวร์ยุโรป ผลจากปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ ตลาดไม่ค่อยดีอยู่แล้ว